เอสเอ็มอี แบงก์ เผยผลการตรวจสภาพธุรกิจ 2,280 กิจการทั่วประเทศ พบ ผู้ประกอบการยังอ่อนการทำตลาด ยอดขายไม่กระเตื้อง อีกทั้งขาดทายาทธุรกิจสืบทอดกิจการ |
. |
นายพงษ์ศักดิ์ ชิวชรัตน์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอี แบงก์) เปิดเผย ผลการตรวจสภาพธุรกิจ SMEs ของปี 2550 ที่ผ่านมาว่า จากการเข้าไปตรวจสภาพธุรกิจผู้ประกอบกว่า 2 พันราย เฉลี่ยจังหวัดละ 30 กิจการ อยู่ในภาคการผลิต 38% และภาคบริการ 33% พบว่า ผู้ประกอบการประสบปัญหาด้านการทำตลาดอันดับหนึ่ง |
. |
ซึ่งสะท้อนได้จากตัวเลขในปีที่ผ่านมาว่า ยอดขายสินค้ายังคงมียอดขายเท่าเดิมและใกล้เคียง คิ.ดเป็น 41% ขณะที่จำนวนลูกค้าลดลง 10% เมื่อเทียบกับปี 2549 นอกจากนี้จากการเข้าไปตรวจสภาพธุรกิจเชิงลึกพบว่า 52% ผู้ประกอบการไม่มีตราสินค้าปรากฏบนผลิตภัณฑ์ ไม่มีกิจกรรมการส่งเสริมการตลาด ได้แก่ ไม่มีโฆษณา 71% ไม่มีการประชาสัมพันธ์ 70% ไม่มีการส่งเสริมการขาย 69% ไม่มีการเก็บข้อมูลการตลาด 52% |
. |
ข้อมูลทั้งหมดสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าผู้ประกอบการยังไม่มีความรู้ในการทำตลาดมากนัก ซึ่งสอดรับกับการตอบแบบสอบถามถึงความต้องการต่อธนาคารที่ไม่ใช่ด้านสินเชื่อ พบว่าผู้ประกอบการสนใจอบรมด้านการตลาดอันดับ 1 จำนวน 965 กิจการ บริการองค์ความรู้เฉพาะด้านการตลาด 937 กิจการ บริการที่ปรึกษาด้านการตลาด 915 กิจการ รองลงมาได้แก่ บริการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ 687 กิจการ |
. |
"เราถือว่าเราเดินมาถูกทางแล้ว ซึ่งปีที่ผ่านมาธนาคารเดินหน้าช่วยเหลือด้านการตลาดกับลูกค้าอย่างเต็มที่เต็มความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการอบรมสัมมนาด้านการตลาด การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ การออกบูธ การนำลูกค้าไปเปิดตลาดประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ลูกค้า SMEs มีความต้องการสูง" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว |
. |
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสภาพธุรกิจด้านการบริหารจัดการ พบว่า กิจการส่วนใหญ่มีประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจ 3-10 ปี คิดเป็น 56% พบว่า 24% ไม่มีทายาทหรือผู้สืบทอดกิจการ หรือถึงแม้จะมีทายาทแต่ก็ไม่ยอมทำกิจการที่ดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มนี้ถือว่าเป็นงานที่ท้าทายของธนาคารในการผลักดันทายาทเหล่านั้นก้าวสู่การเป็นเถ้าแก่สืบทอดกิจการ ขณะที่ 45% มีทายาทสืบทอดแต่ไม่พร้อมดำเนินกิจการในปัจจุบัน กลุ่มนี้ธนาคารพร้อมสนับสนุนด้านเงินทุนและองค์ความรู้ธุรกิจทุก ๆ ด้าน |