เนื้อหาวันที่ : 2008-01-30 13:24:07 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2036 views

กระเบื้องหลังคาตราเพชร ไม่ปรับขึ้นราคารอรัฐบาลใหม่กระตุ้นรากหญ้า

ผู้บริหาร กระเบื้องหลังคาตราเพชร มั่นใจ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากขายในประเทศเป็นหลัก ขณะที่รัฐบาลใหม่มีแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าชัดเจน ส่งผลดีกับบริษัทฯ ตั้งเป้าปี 51 เติบโต 5- 10% ยันไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าแน่นอน

.

ผู้บริหาร "กระเบื้องหลังคาตราเพชร" มั่นใจ ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ถดถอย ไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ เนื่องจากขายในประเทศเป็นหลัก ขณะที่รัฐบาลใหม่มีแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจระดับรากหญ้าชัดเจน ส่งผลดีกับบริษัทฯ ตั้งเป้าปี51 เติบโต 5- 10% ยันไม่ปรับขึ้นราคาสินค้าแน่นอน เหตุไม่ต้องการผลักภาระให้ผู้บริโภค ด้านบทวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก ชี้หุ้น DRT ปันผลโดดเด่นมาก และจะรักษายอดขายได้อย่างดี ประเมินราคาปีนี้อยู่ที่ 3.62 บาท

.

นายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด บริษัท กระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาตราเพชร อะดามัส และเจียระไน เปิดเผยว่า เชื่อว่าความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งมีสาเหตุมาจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ เข้าสู่ภาวะถดถอย จะไม่ส่งผลกระทบกับการดำเนินงานของบริษัทฯ อย่างแน่นอน เนื่องจากบริษัทฯ มีกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจนอยู่แล้ว โดยสินค้าของบริษัทฯ กว่า 90% เป็นการขายภายในประเทศให้กับผู้ใช้โดยตรงหมายถึงการขายผ่านร้านค้าผู้จำหน่ายที่มีอยู่ทั่วประเทศ ในขณะที่ปัญหาหนี้ด้อยคุณภาพ (ซับไพรม์) ที่เกิดขึ้นก็ยังเป็นเรื่องที่ไกลตัวอยู่มาก จึงไม่ส่งผลต่อรายได้ของบริษัทฯ

.

"ในช่วงปีที่ผ่านมา DRT ถือว่าเติบโตได้ดี ถึงแม้สภาวะเศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะผันผวน แต่บริษัทฯ ก็ยังสามารถรักษายอดขายรวมไว้ได้ เนื่องจากกลุ่มลูกค้าหลักเป็นตลาดภูมิภาค ซึ่งลูกค้ายังคงมีรายได้ที่ดีจากการขายสินค้าทางการเกษตร และเชื่อว่ากลุ่มตลาดนี้จะมีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนปัจจัยเรื่องการเมือง ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯ เพราะว่ารัฐบาลที่จัดตั้งขึ้นใหม่เป็นรัฐบาลที่มีมุมมองในกลุ่มรากหญ้าเป็นหลัก ซึ่งเป็นตลาดของบริษัทฯ อยู่แล้ว"นายสาธิต กล่าว

.

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ DRT เตรียมงบลงทุน 465 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นงบในการปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพในการผลิต และขยายสายการผลิตสินค้าใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนโครงการ และพิจารณาคุณสมบัติของเครื่องจักรที่จะซื้อใหม่ โดยโครงการดังกล่าวจะก่อสร้างเสร็จภายในปี 2552 และจะสามารถเดินเครื่องได้ทันที ทั้งนี้เพื่อรองรับการส่งออกสินค้าไปจำหน่ายในต่างประเทศ

.

"ในปีนี้ DRT วางกลยุทธ์ที่จะขยายตลาดใหม่ไปยังต่างประเทศมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการส่งออกเป็น 15% จากเดิม 10% นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีโครงการที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อเป็นทางเลือกของลูกค้าด้วย โดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มเจียระไน และในกลุ่มแผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์ ทั้งนี้จะเน้นกระเบื้องหลังคาดีไซน์ใหม่ นอกจากรูปแบบเดิมที่เป็นกระเบื้องว่าว โดยที่การทำตลาดจะเจาะไปยังตลาดซ่อมแซมบ้านมากขึ้น" รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าว

.

นอกจากนี้ DRT เตรียมแผนที่จะขยายจุดจำหน่ายสินค้าไปยังห้างโมเดิร์นเทรด เช่น โฮมโปร โฮมเวิร์ค มากขึ้นด้วย ตามเทรนด์ของผู้บริโภคที่นิยมเลือกวัสดุก่อสร้างด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันก็จะเสริมทีมการตลาด และทีมดีไซเนอร์ เพื่อขายผลิตภัณฑ์ให้กับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์โดยตรงอีกด้วย

.

รองกรรมการผู้จัดการ สายการขายและการตลาด DRT กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ในปี 2551 ประเมินว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะมีอัตราการเติบโตใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยรายได้จะขยายตัวประมาณ 5-10% ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันและเงินเฟ้อจะปรับเพิ่มขึ้น แต่บริษัทฯ จะไม่ปรับเพิ่มราคาสินค้า เนื่องจากไม่ต้องการผลักภาระให้ผู้บริโภค ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์แล้ว ยังพอรับภาระดังกล่าวได้ เพราะว่า บริษัทฯ ได้ปรับใช้ก๊าซเป็นพลังงานแทนการใช้น้ำมันดีเซล ทำให้บริษัทฯ ประหยัดต้นทุนการดำเนินงานลงได้มาก

.

"การทำธุรกิจของเราจะเน้นเศรษฐกิจพอเพียง ลงทุนภายใต้ความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นได้ ในกรณีที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย บริษัทฯ จะพยายามรักษาฐานการเงินให้มีความแข็งแกร่งตลอดเวลา เพราะหากเกิดวิกฤติรอบใหม่บริษัทฯ ก็ไม่เดือดร้อน" นายสาธิต กล่าวทิ้งท้าย

.

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) โกลเบล็ก จำกัด ได้จัดทำและเผยแพร่บทวิเคราะห์หุ้น DRT โดยระบุว่า DRT มีแนวโน้มเติบโตได้ดีในปี 2551 โดยปัจจัยบวกหลักยังมาจากการเลิกผลิตกระเบื้องไฟเบอร์ซีเมนต์ของคู่แข่งรายส่งผลให้ DRT มีส่วนแบ่งตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มสูงขึ้น

.

ขณะที่ความต้องการรวมในประเทศมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วยหลังปัญหาการเมืองคลี่คลาย นอกจากผลประกอบการที่ยังมีแนวโน้มดีแล้ว DRT ยังมีจุดเด่นเรื่องการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอในอัตราที่สูง โดยคาดเงินปันผลจ่ายสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังปี 50 ที่ 0.14 บาท/หุ้น และ สำหรับปี 51 ที่ 0.28 บาท คิดเป็นอัตราผลตอบแทนถึง 10.4% จากราคาซื้อขายปัจจุบัน ขณะที่ประเมินราคาเป้าหมายโดยใช้ PE ของกลุ่มอุตสาหกรรม ได้ราคาเป้าหมายปี 2551 ที่ 3.62 บาท จึงแนะนำให้ ซื้อลงทุน"

.

บริษัทกระเบื้องหลังคาตราเพชร จำกัด (มหาชน )หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคา ไม้ฝา รวมถึงอุปกรณ์ประกอบหลังคา ภายใต้เครื่องหมายการค้าตราเพชร อดามัส เจียระไน และตราหลังคา มีประสบการณ์ยาวนานในธุรกิจกว่า 20 ปี มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้รับการรับรองระบบคุณภาพมาตรฐาน ISO 9001:2000

.

รวมถึงได้รับเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ตลอดจนได้รับตราสัญลักษณ์ Thailand’s Brand จากกรมส่งเสริมการส่งออก ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพสินค้า ตลอดจนมีการบริหารจัดการภายในโรงงานที่มีประสิทธิภาพ ภายใต้สโลแกน คุณภาพต้องมาก่อน ทุกขั้นตอนของสินค้า ผลิตภัณฑ์ที่ล้ำค่า ถึงลูกค้าพึงพอใจ"