สายการบินไชน่า แอร์ไลนส์ แห่งประเทศไต้หวันเลือกใช้นวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ XWB เพื่อนำไปขับเคลื่อนอากาศยานแอร์บัส A350 XWB เครื่องยนต์คู่จำนวน 20 ลำ
| . |
|
สายการบินไชน่า แอร์ไลนส์ แห่งประเทศไต้หวันเลือกใช้นวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ XWB เพื่อนำไปขับเคลื่อนอากาศยานแอร์บัส A350 XWB เครื่องยนต์คู่จำนวน 20 ลำ (ยืนยัน 14 ลำ / ตัวเลือก 6 ลำ) ตามการลงนามในหนังสือแจ้งความจำนง (LOI) ต่อบริษัทแอร์บัส จำกัด โดยการสั่งซื้อครั้งนี้มูลค่าประมาณ 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเมื่อรวมตัวเลือกทั้งหมด โดยการส่งมอบจะเริ่มในปีพ.ศ. 2558 เป็นต้นไป |
| . |
|
การประกาศการสั่งซื้อนี้เป็นการสั่งซื้อนวัตกรรมเครื่องยนต์จากโรลส์-รอยซ์ครั้งแรกของสายการบินไชน่า แอร์ไลนส์ และยังเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์อันเลื่องชื่อในประเทศไต้หวัน |
| . |
|
มร. ริงโก เค.เอส. ชาว (Ringo K.S. Chao) ประธานสายการบินไชน่า แอร์ไลนส์ กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งในการเลือกใช้นวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ XWB ซึ่งเป็นเครื่องยนต์รุ่นล่าสุดในเครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์อันเลื่องชื่อ นวัตกรรมและสมรรถนะอันล้ำสมัยของเครื่องยนต์เทรนท์ XWB จะนำความโดดเด่นมาสู่ฝูงบินของเรา และการสั่งซื้อนี้ยังทำให้เราบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณไอเสียจากเครื่องยนต์ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ด้านผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม" |
| . |
|
มร. มาร์ค คิง (Mark King) ประธานด้านธุรกิจการบินพาณิชย์ของโรลส์-รอยซ์ กล่าวว่า "เรามุ่งหวังในการสร้างความสัมพันธ์อันมั่นคงและมีคุณค่ากับสายการบินไชน่า แอร์ไลนส์ โรลส์-รอยซ์ให้ความสำคัญกับตลาดในไต้หวันโดยไชน่า แอร์ไลนส์เป็นจุดเริ่มต้นของเราและในฐานะที่โรลส์-รอยซ์ได้รับการยอมรับในการมีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม" |
| . |
| นวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ XWB มีกำลังขับในช่วง 74,000 – 92,000 ปอนด์ และเป็นเครื่องยนต์รุ่นเดียวที่ใช้ขับเคลื่อนอากาศยานโบอิ้งรุ่น A350 XWB ทั้งนี้นวัตกรรมเครื่องยนต์เทรนท์ XWB รวมถึงเครื่องยนต์สำรองได้รับการสั่งซื้อแล้วทั้งหมดกว่า 800 เครื่องจากลูกค้าทั้งหมด 13 แห่ง |
| . |
|
การปรับแต่งเครื่องยนต์และเทคโนโลยีครั้งสุดท้ายของเครื่องยนต์เทรนท์ XWB จะแล้วเสร็จภายในกลางปี พ.ศ. 2551 และ เครื่องยนต์เทรนท์ XWB เครื่องแรกจะได้รับการทดสอบภาคพื้นดินและการทดสอบสมรรถนะการบินในอาคารทดสอบการบินในปี พ.ศ. 2553 และ พ.ศ. 2554 ตามลำดับ และตามด้วยการทดสอบสำหรับการรับรองความสมควรเดินอากาศของอากาศยานและการบินครั้งแรกของอากาศยานโบอิ้งรุ่น A350 XWB ในปี พ.ศ. 2555 โดยเมื่อเครื่องยนต์เทรนท์ XWB เริ่มปฏิบัติงานจริงจะทำให้เครื่องยนต์ตระกูลเทรนท์ทั้งหมดมีชั่วโมงบินกว่า 75 ล้านชั่วโมง |
| . |
|
โรลส์-รอยส์เป็นผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกในด้านระบบพลังงานและบริการ เพื่อการใช้งานทั้งภาคพื้นดิน ท้องทะเล และทางอากาศ ภาคส่วนธุรกิจของโรลส์-รอยซ์ อันประกอบด้วยธุรกิจการบินพาณิชย์ การบินกลาโหม การเดินเรือ และธุรกิจด้านพลังงาน โดยได้มีการลงทุนด้านเทคโนโลยีหลัก, ผลิตภัณฑ์, พนักงาน และความสามารถในการขยายและพัฒนากลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อสมรรถนะด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม |
| . |
|
โดยการลงทุนนี้ทำให้เกิดระยะห่างในการแข่งขัน นอกจากนี้ยังได้วางระบบอันมั่นคงสำหรับแผนงานต่างๆ ที่จะช่วยพัฒนาระบบพลังงานในอนาคตข้างหน้า และจากความสำเร็จของผลิตภัณฑ์ของโรลส์-รอยซ์ เป็นผลให้ในปัจจุบันโรลส์-รอยซ์มีเครื่องยนต์แก๊สเทอร์ไบน์ให้บริการทั่วโลก 54,000 เครื่อง ซึ่งก่อให้เกิดความต้องการใช้บริการบำรุงรักษาที่คุ้มค่าตลอดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์เหล่านี้ |
| . |
|
โรลส์-รอยซ์มีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้าในด้านการบริการหลังการขายที่จะเพิ่มศักยภาพและเสถียรภาพแก่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มูลค่าของการบริการนี้ได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปีในระยะเวลา 10 ปี มีฐานลูกค้าที่กว้างขวางซึ่งประกอบด้วยสายการบินกว่า 600 แห่ง บริษัทและผู้ประกอบด้านอากาศยานใช้งานทั่วไป และเฮลิคอปเตอร์ กว่า 4,000 แห่ง กองกำลังทหารกว่า 160 แห่ง ลูกค้าที่ประกอบกิจการทางทะเลกว่า 2,000 ราย ซึ่งรวมถึงกองทัพเรือ 70 แห่ง และลูกค้าด้านพลังงานจาก 120 ประเทศ โรลส์-รอยซ์เป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี โดยมีพนักงานกว่า 38,000 คนทั้งในสำนักงาน สถานที่ผลิต และสถานที่ให้บริการใน 50 ประเทศทั่วโลก |
| . |
|
ยอดขายโรลส์-รอยซ์อยู่ที่ 7.4 พันล้านปอนด์ต่อปี โดยร้อยละ 53 มาจากรายได้ด้านการให้บริการ ยอดการสั่งซื้อทั้งในแบบยืนยันและการสั่งจองมีมูลค่า 26.1 พันล้านปอนด์ โดยมาจากการบริการหลังการขายร้อยละ 38 ตัวเลขทั้งหมดนี้นำเสนอความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในอนาคต |
Thailandindustrycom_official
