ก.พลังงานหวั่นบี 100 ขาดแคลน ยอมลดผสมในน้ำมันดีเซลจาก 2 เหลือ 1 % ที่จะบังคับใช้ 1 ก.พ.นี้ เช็คสต็อกแล้วมีอยู่ในมือบริษัทน้ำมันเพียง 5 ล้านลิตร ใช้ได้แค่ 5 วัน ที่เหลืออีก 10 ล้านลิตร ผู้ผลิตไม่ยอมปล่อยออกมาจำหน่ายเพราะขาดทุน เตรียมเป็นตัวกลางดึงผู้ผลิตบี 100 และผู้ค้าน้ำมันหารือตกลงราคาใหม่ในสัปดาห์นี้ งานนี้ผู้บริโภคโดนลูกหลงไปด้วย แทนที่ดีเซลจะปรับราคาลง ต้องนำเงินไปช่วยผู้ค้าน้ำมันได้ค่าการตลาดสูงขึ้น จากการปรับราคาขายบี 100

จากที่"ฐานเศรษฐกิจ"ได้นำเสนอข่าว"ไบโอดีเซลส่อเค้าล่ม"ฉบับ 2,287 ระหว่างวันที่ 13-16 มกราคม ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ผลิตไบโอดีเซลหรือบี 100 ได้หยุดส่งบี 100 ให้บริษัทผู้ค้าน้ำมัน เพื่อเรียกร้องให้กระทรวงพลังงาน ปรับสูตรราคาจำหน่ายบี 100 ใหม่ เพราะราคาน้ำมันปาล์มดิบ ซึ่งเป็นวัตถุดิบผลิตบี 100 ปรับตัวสูงขึ้นมาก และจะกระทบต่อการนำบี 100 ไปผสมในน้ำมันดีเซล 2 % ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 จนเกิดการขาดแค

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2551 นายพรชัย รุจิประภา ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะเชิญผู้ผลิตบี 100 ทั้ง 10 ราย และบริษัทผู้ค้าน้ำมันมาหารือ เพื่อตกลงราคาจำหน่ายบี 100 ใหม่เป็นการชั่วคราว

 เนื่องจากผู้ผลิตได้รับผลกระทบจากต้นทุนราคาน้ำมันปาล์มหรือซีพีโอที่ปรับตัวสูงขึ้น จากเดิมสูตรราคาซีพีโอที่อิงกับตลาดมาเลเซียบวกไม่เกิน 1 บาทต่อกิโลกรัม แต่เวลานี้ปรับขึ้นไปอยู่ที่ประมาณ 36.25 บาทต่อกิโลกรัม ขณะที่ราคาของมาเลเซียอยู่ที่ 33.41 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ผู้ผลิตมีต้นทุนเพิ่มขึ้นมา 3 บาทต่อกิโลกรัม

หากจำหน่ายบี 100 ในราคาที่อิงกับสูตรเดิมที่ 38.44 บาทต่อลิตร จะทำให้ผู้ผลิตขาดทุน จึงต้อง หยุด การส่งบี 100 ให้บริษัทน้ำมันตั้งแต่วันที่ 14 มกราคม 2551 เป็นต้นมา ซึ่งหากไม่แก้ปัญหาให้ปรับราคาบี 100 ขึ้นไป จะทำให้ปริมาณบี 100 ที่นำมาผสมในน้ำมันดีเซล 2 % หรือบี 2 ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2551 นี้ไม่เพียงพอ และเป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซลได้

ส่วนราคาจำหน่ายบี 100 จะปรับขึ้นเท่าใดนั้น ขึ้นอยู่กับผลการเจรจาของทั้งสองฝ่ายและราคาที่ตกลงได้นั้น จะเป็นเพียงราคาชั่วคราว จนกว่าราคาซีพีโอจะปรับลดลงมาเข้าสู่ภาวะปกติ และหลังจากนั้นให้กลับไปใช้สูตรราคาจำหน่ายบี 100 เดิมที่กำหนดไว้

"เวลานี้ยังไม่ทราบผลการเจรจาราคาจำหน่ายบี 100 จะออกมามาเท่าใด เพราะบริษัทน้ำมันมีสัญญาส่งมอบบี 100 ในระยะยาวอยู่ ซึ่งอ้างอิงราคาตามสูตรที่กำหนดไว้ แต่ช่วงนี้เป็นภาวะที่ไม่ปกติ การที่บริษัทน้ำมันจะทำสัญญาซื้อขายบี 100 ใหม่จะมีปัญหาเกิดขึ้น เพราะต้องจ่ายเงินที่มากขึ้น ซึ่งคงต้องหาวิธีที่จะทำให้บริษัทน้ำมันไม่เดือดร้อนด้วย อาจจะขอให้แก้ไขสัญญาใหม่เป็นการชั่วคราวก็ได้"

ส่วนกรณีที่กรมธุรกิจพลังงาน ไปตรวจสอบสต็อกบี 100 และพบว่ามีปริมาณ 15 ล้านลิตร ซึ่งหากจะนำมาผสมเป็นบี 2 จะสามารถใช้ได้เพียง 15 วันเท่านั้น เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันดีเซลอยู่ที่ประมาณ 50 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งจะต้องให้บี 100 ผสมอยู่ที่ 1 ล้านลิตรต่อวัน

ดังนั้น ทางกระทรวงพลังงานจึงจำเป็นต้องขอผ่อนผันมติคณะรัฐมนตรีที่ประกาศให้ผสมบี 100 ในน้ำมันดีเซล 2 % ให้เหลือเพียง 1 % เพื่อยืดการใช้บี 100 ที่มีอยู่ในสต็อกให้สามารถผสมในน้ำมันดีเซลได้เป็นระยะเวลา 1 เดือน เพื่อรอผลผลิตปาล์มที่จะออกมาในช่วงเดือนมีนาคม และคาดว่าจะมีปริมาณบี 100 ออกมาป้อนความต้องการที่จะนำไปผสมเป็นบี 2 ได้

สำหรับการที่จะนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบจากต่างประเทศหรือไม่นั้น คงเป็นมาตรการสุดท้าย เพราะจริงๆแล้วน้ำมันปาล์มดิบไม่ได้ขาดแคลน แต่เกิดการกักตุนเพื่อเก็งกำไร ซึ่งหากสามารถทำให้ผู้ผลิตปล่อยน้ำมันบี 100 ออกมา และรอผลผลิตปาล์มในเดือนมีนาคมนี้ ก็จะทำให้น้ำมันปาล์มดิบที่กักตุนไว้ออกสู่ตลาด และในที่สุดราคาก็จะลดลงเข้าสู่ภาวะปกติได้

"ยอมรับว่าการส่งเสริมให้ใช้ไบโอดีเซลมีปัญหาเกิดขึ้น เพราะเป็นปีแรกและมีปัจจัยมาจากความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นมาก ทำให้ผู้ค้าน้ำมันไม่สามารถจัดเตรียมถังหรืออุปกรณ์ในการสต็อกน้ำมันได้ทัน รวมถึงการปลูกปาล์มน้ำมันไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ซึ่งหากไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมาทุกคนจะไม่ทราบว่าน้ำมันปาล์มขาด ทั้งๆที่ได้เตือนมา 6-7 เดือนแล้วแต่ไม่มีใครเชื่อ"

แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า การที่กระทรวงพลังงานเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตบี 100 และผู้ผลิตน้ำมันเจรจาราคาจำหน่ายบี 100 กันใหม่นั้น เนื่องจากเกรงว่า หากผู้ผลิตหยุดส่งบี 100 ให้บริษัทน้ำมันจะมีผลกระทบต่อปัญหาการส่งเสริมการใช้ไบโอดีเซล เพราะสต็อกบี 100 ที่อยู่กับบริษัทน้ำมันมีเพียง 5ล้านลิตร และอยู่ในมือผู้ผลิตเพียง 10 ล้านลิตร

หากไม่ปรับราคาจำหน่าย ใหม่ จะทำให้บี100 ในสต็อกไปผสมเป็นบี 2 ได้เพียง 5 วัน หรือหากปรับลดการผสมลงมาเหลือ 1 % จะมีบี 100 ผสมได้เพียง 10 วัน เท่านั้น ขณะที่ในสต็อกอีก 10 ล้านลิตร ผู้ผลิตไม่ยอมปล่อยออกมาจำหน่าย เพราะเป็นราคาที่ขาดทุนอย่างไรก็ตาม คาดว่าผลการเจรจาราคาจำหน่ายบี 100 ใหม่น่าจะได้ข้อยุติ โดยกระทรวงพลังงานจะไปเพิ่มค่าการตลาดบี 2 ให้กับผู้ค้าน้ำมันแทน เพื่อจะไม่ต้องรับภาระในส่วนนี้มากนัก

โดยค่าการตลาดที่ปรับเพิ่มให้นี้จะมาจาก การลดเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงของน้ำมันดีเซล จากปัจจุบันอยู่ที่ 30 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งหากราคาน้ำมันดีเซลในตลาดโลกปรับตัวลดลง ทางกระทรวงพลังงานจะไม่เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯของน้ำมันดีเซลเพิ่ม รวมถึงจะไม่ปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลลดลงด้วย ซึ่งวิธีนี้น่าจะทำให้บริษัทน้ำมันพึ่งพอใจที่จะยอมรับซื้อบี 100 ในราคาที่สูงขึ้นไปจากสูตรเดิมได้ 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ