เนื้อหาวันที่ : 2023-12-11 12:05:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1410 views

สมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) ประกาศผลและมอบรางวัลการประกวด X Campus Ads Idea Contest 2023

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) จับมือ สมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA)   ประกาศผลและมอบรางวัลการประกวด X Campus Ads Idea Contest 2023 ต่อยอดนักโฆษณามืออาชีพไอเดียสร้างสรรค์คนรุ่นใหม่ไฟแรง

วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ณ ห้องประชุม Jubilee Ballroom ชั้น 11 โรงแรมเดอะ เบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานคร  – คุณสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) เป็นประธานในพิธีประกาศผลและมอบรางวัลโครงการประกวดคลิปวิดีโอโฆษณาจากหลากหลายอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ เพื่อหาสุดยอดฝีมือนักโฆษณามืออาชีพรุ่นใหม่ไอเดียสร้างสรรค์ X Campus Ads Idea Contest 2023 ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ Digital Technology Demand Generation จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยความร่วมมือระหว่าง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) และสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) รวมไปถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำจากทั่วประเทศ โดยทุกภาคส่วนตระหนักถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในภาคการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งสนับสนุน ส่งเสริม และเปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษา ได้แสดงศักยภาพ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และมีประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนในการผลิตสื่อโฆษณาจากหลากหลายโจทย์ของบริษัทอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของแผนเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ในเรื่องของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล และพัฒนากำลังคนให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ต่อยอดสู่การเป็นนักโฆษณามืออาชีพสร้างรายได้ต่อไปในอนาคต

คุณสุภาวดี ตันติยานนท์ นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) กล่าวว่า โครงการประกวด X Campus Ads Idea Contest 2023 จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 มีระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมตั้งแต่เดือนสิงหาคม - ธันวาคม 2566  พร้อมชิงถ้วยรางวัลพร้อมทุนการศึกษามูลค่ากว่า 200,000 บาท โดยเวทีนี้เปิดโอกาสให้นิสิต นักศึกษาผลิตคลิปวิดีโอโฆษณา ได้มีโอกาสแสดงศักยภาพ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และมีประสบการณ์จริงนอกห้องเรียนในการผลิตสื่อโฆษณาและสร้างผลงานโฆษณาเพื่อลูกค้าจริงในหลากหลายแบรนด์ ตลอดทั้ง 6 ปีมีถึง 5,209 ทีมเข้าร่วมแข่งขัน โดยปีนี้มีผู้สนใจส่งผลงานเข้ามามากถึง 1,357 ทีม จาก 57 สถาบันทั่วประเทศ และแต่ละทีมมีโอกาสเลือกทำโจทย์จากแบรนด์สปอนเซอร์ 7 แบรนด์ ซึ่งจะได้รับข้อมูลสรุปความต้องการของลูกค้าและปัญหาของลูกค้า รวมทั้งข้อมูลต่างๆ จากทีมการตลาดของเจ้าของแบรนด์โดยตรง อีกทั้งยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดี แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันการศึกษาต่างๆ พร้อมกับคำแนะนำจากคณะกรรมการกิตติมศักดิ์ รวมไปถึงองค์กรที่ให้การสนับสนุนโครงการและการบ่มเพาะความรู้เชิงลึกในการทำคลิปวิดีโอโฆษณาจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากสำหรับการเรียนรู้นอกห้องเรียน นับว่าเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากยิ่ง และต่อยอดการเป็นนักโฆษณามืออาชีพได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากหลากหลายภาคอุตสาหกรรมและองค์กรชั้นนำของประเทศ ได้แก่ สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ DAAT, บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด VISET CORP DIGITAL AGENCY และ บริษัท โปเตมัส ทรูพ จำกัด ที่ร่วมเป็นกรรมการในการตัดสิน รวมถึงบริษัทชั้นนำที่มาร่วมให้โจทย์การแข่งขันได้แก่ บริษัท อาร์เอ็กซ์ จำกัด (ONE GERD) บริษัท เจแอลซี กรุ๊ป จำกัด (Jula’s Herb) บริษัท เบอร์แทรม (1958) จำกัด (Peppermint Field) บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) (Propoliz) บริษัท โฮ้ว ป่า ไทเกอร์ บาล์ม (ประเทศไทย) จำกัด (Tiger Balm Ointments, Tiger Balm Plasters), บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) (PUMPUI) และ บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด (YAMAHA FAZZIO)

สำหรับทีมที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายจำนวนทั้งหมด 18 ทีม ซึ่งผลงานที่ส่งเข้าประกวดจะต้องสร้างสรรค์ให้สอดคล้องกับหัวข้อการประกวดของโจทย์ที่ได้รับ โดยมีทีมที่ได้รับรางวัลดังนี้

  1. รางวัลชนะเลิศ (1 รางวัล) ได้แก่ ทีมอดีตช่างมันปัจจุบันแยกย้ายไปเติบโต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอผลิตภัณฑ์ ONE GERD ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 40,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรและถ้วยรางวัล จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI)
  2. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 (1 รางวัล) ได้แก่ ทีม Passion 64 จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี นำเสนอผลิตภัณฑ์ Peppermint Field ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 30,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรและถ้วยรางวัล จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI)
  3. รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 (1 รางวัล) ได้แก่ ทีมสวัสดีอาต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอผลิตภัณฑ์ Propoliz ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 20,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตรและถ้วยรางวัล จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI)
  4. รางวัลชมเชย (5 รางวัล) ได้แก่

          ทีมโชคดี จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำเสนอผลิตภัณฑ์ YAMAHA FAZZIO

          ทีม Opinion จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำเสนอผลิตภัณฑ์ Tiger Balm Plasters

          ทีม บะหมี่เฮียกง จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ นำเสนอผลิตภัณฑ์ PUMPUI

          ทีม Miniheart จากมหาวิทยาลัยกรุงเทพ นำเสนอผลิตภัณฑ์ YAMAHA FAZZIO

          ทีม E-YANG จากมหาวิทยาลัยมหาสารคาม นำเสนอผลิตภัณฑ์ ONE GERD

ทุกทีมได้รับทุนการศึกษา จำนวน 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI) 

  1. รางวัล Popular Vote (1 รางวัล) ได้แก่ ทีมอดีตช่างมันปัจจุบันแยกย้ายไปเติบโต จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเสนอผลิตภัณฑ์ ONE GERD ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI)
  2. รางวัล The Best Creative (1 รางวัล) ได้แก่ ทีมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นำเสนอผลิตภัณฑ์ Tiger Balm Plasters ได้รับทุนการศึกษา จำนวน 5,000 บาท พร้อมประกาศนียบัตร จากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (MHESI)

คุณมีนา อัครพงษ์พิศักดิ์ Assistant Vice President Marketing บริษัทเบอร์แทรม (1958) จำกัด แบรนด์ Peppermint Field กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เข้ามาสนับสนุนโครงการนี้เป็นปีที่ 3 แล้วและมีความต้องการที่จะใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้าที่อายุ 18 ถึง 35 ปี ซึ่งนักศึกษาเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของแบรนด์เปปเปอร์มิ้นฟิลด์อยู่แล้ว โครงการนี้ทำให้ได้เห็นความคิดสร้างสรรค์ และเป็นเวทีโชว์ศักยภาพของน้องๆ ในการผลิตสื่อโฆษณาในรูปของคลิปสั้นที่ต้องโดนใจผู้ชมภายใน 5 วินาทีแรกและสั้นมาก แพลตฟอร์มของวิดีโอแนวตั้งอย่าง TikTok ต้องกระชับ แบบรวดเร็ว เห็นแป๊บเดียวต้องดึงดูดไม่ให้ผู้ชมเลื่อนผ่านไป กลยุทธ์การเล่าเรื่องของน้องในปีนี้ดีขึ้นมาก และสามารถนำผลงานของน้องๆ ไปต่อยอดได้ 

คุณกุลเกตุ โตทับเที่ยง Commercial Director บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) แบรน Pumpui กล่าวว่า ปุ้มปุ้ยอยู่กับสังคมไทยมา 45 ปี ปุ้มปุ้ยไม่ได้มีเพียงปลากระป๋องเท่านั้น แต่กำลังขยายตลาดเพิ่มผลิตภัณฑ์สแน็คสำหรับคนรุ่นใหม่ โครงการนี้ทำให้บริษัทฯ ได้มีโอกาสใกล้ชิดกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ทุกวันนี้เก่งมากทั้งความครีเอทีฟ การนำเสนอ และการโปรโมทที่เน้นความสนุก ทั้งในแพลตฟอร์ม TikTok และ Youtube  พอเริ่มโพสต์ลง พบว่ามีกลุ่มลูกค้าต่างประเทศมาตามเลยทันที ทักเข้ามา ถามว่าเป็นโฆษณาที่เอาไปแชร์ต่อได้มั้ย ซึ่งตรงกับที่ทางบริษัทฯ อยากจะโปรโมททั้งในประเทศและต่างประเทศด้วย

คุณหทัยรัตน์ อุดมลาภธรรม ตำแหน่ง Marketing & Sale Director บริษัท อาร์เอ็กซ์ จำกัด แบรนด์ ONE GERD กล่าวว่า วันเกิร์ดเป็นยาบรรเทาอาการกรดไหลย้อนที่เกิดได้กับทุกวัยไม่ใช่แค่คนทำงาน เด็กๆ รุ่นใหม่ก็เป็นกันด้วยพฤติกรรมการนอนดึกและการบริโภค บริษัทฯ อยากให้น้องๆ ได้ออกจากกรอบ อยากจะทําโฆษณาให้เข้าใกล้กับคนในยุคปัจจุบันมากยิ่งขึ้นตามสื่อที่เขาเลือกเสพและตามไลฟ์สไตล์ ซึ่งน้องๆ ทําผลงานออกมาได้ค่อนข้างดี สั้นกระชับได้ใจความ มีรูปแบบของการสร้างสรรค์ที่ชอบอย่างเช่น มีทีมหนึ่งใช้ซิมโบลิคในการถ่ายทอด เปรียบกรดไหลย้อนเป็นทีมฟุตบอลโดยฝ่ายตรงข้ามคู่แข่งเป็นกรดที่พยายามจะมายิงประตู แต่อีกฝ่ายเป็นผู้รักษาประตูที่เหนียวมากก็คือเป็นทีมวันเกิร์ด ทำได้ดีจนน่าจะนำไปต่อยอดได้

คุณภัสสราณัฐ รวยธนาสมบัติ Business Development Manager  บริษัท เจแอลซี กรุ๊ป จํากัด แบรนด์ Jula’s Herb กล่าวว่า แบรนด์จุฬาเฮิร์บเป็นสินค้าของไทย บริษัทฯ จึงเลือกทีมที่มีจุดเด่นทางด้านการสื่อสารที่เข้าใจง่ายกับตลาดแมสที่มีกลุ่มลูกค้าหลากหลายพร้อมทั้งหยิบเอาความเป็นไทยมาแสดงและย้อนยุค ตอบโจทย์ในเรื่องผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้แทบจะครอบคลุมมากที่สุด ความโดดเด่นของผลงานคือเราปล่อยให้น้องๆ มีอิสระในการคิดรูปแบบ ใช้ครีเอทีฟอย่างเต็มที่ จะเห็นว่ากลุ่มที่ถูกเลือกมามีความคิดสร้างสรรค์ที่เรียกว่าดีที่สุด ไม่ได้ขายสกินแคร์แบบเดิม มีการประยุกต์นำฉากย้อนยุคมาใช้ การส่งเสริมไอเดียด้านทางเลือกของเพศที่ 3 และนำไอเดียของการขายสกินแคร์ไม่จําเป็นต้องผิวขาว ซึ่งเป็นความคิดสร้างสรรค์ที่พัฒนาต่อไปได้อีกในอนาคต

เภสัชกรหญิงธัญพร เลิศวรรณเอก Product Manager บริษัท ที.แมน ฟาร์มาซูติคอล จำกัด (มหาชน) แบรนด์ Propoliz กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปากและลําคอของบริษัทฯ เป็นเม็ดอมตัวใหม่ใช้เป็นโจทย์ในโครงการนี้ โครงการนี้ทำให้ได้แนวความคิดจากน้องๆ โดยตรง และรู้เพนพ้อยท์ (pain point) ของเจน Z คนรุ่นเดียวกันดี ดังนั้นการครีเอทีฟจะดีกว่าด้วยการนำความคิดของน้องๆ มาทําคลิปโฆษณาสำหรับเจนเดียวกับพวกเขา แผนของผู้บริหารเองตั้งใจว่าจะนำผลงานเหล่านี้ไปต่อยอดในอนาคต

เภสัชกรหญิงธนพร สังเว Product Manager  บริษัท โฮ้ว ป่า ไทเกอร์ บาล์ม (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า แบรนด์มีวิชั่นอยากจะเป็น Top of Mind ของคนทั่วโลก ทุกวัย อยากจะขยายกลุ่มเป้าหมายการโฆษณาจากกลุ่มคนอายุมากๆ มาเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น โครงการนี้จึงเป็นแคมเปญที่ตอบโจทย์กับวิชั่นของบริษัทฯ ตรงๆ คือการเชื่อมโยงกับคนรุ่นใหม่ จุดเด่นของทีมที่ได้รางวัลคือการมีครีเอทีฟที่เกินกว่าความคาดหมายทุกทีม ทําให้ยาหม่องสามารถคุยกับคนในช่วงเจเนอเรชั่นต่างๆ ได้ดีขึ้น ส่วนคอนเซปต์ของน้องๆ ที่มาพรีเซนต์ค่อนข้างที่จะเข้าใจผลิตภัณฑ์เป็นอย่างดี ดังนั้นน้องจึงสามารถสื่อสารออกมาได้ดีกับเจเนอเรชั่นคนรุ่นใหม่ อย่างเช่น บางทีมสื่อสารถึงความรู้สึกเจ็บปวดของวัยรุ่นว่า วัยรุ่นก็มีความรู้สึกเจ็บปวดเมื่อยได้ จากการนั่งนานๆ เวลาเล่นเกมหรือนั่งทำข้อสอบในห้องสอบ ซึ่งสื่อสารออกมาได้ดีแล้วก็เป็นอะไรที่แปลกใหม่ ทำให้ผลิตภัณฑ์ยาหม่องของบริษัทฯ สามารถคุยกับเด็กวัยรุ่นใหม่ได้ง่ายขึ้น เป็นโฆษณาที่สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ในอนาคต

คุณสุภาวดี ตันติยานนท์นายกสมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย (DUGA) กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการประกวด X Campus Ads Idea Contest 2023 ได้รับการตอบรับจากนิสิต นักศึกษาเป็นอย่างมาก และขอแสดงความยินดีกับนิสิต นักศึกษาที่ได้รับรางวัลฯ พร้อมทั้งขอขอบคุณสถาบันการศึกษาที่ได้สนับสนุนให้นิสิต นักศึกษาส่งผลงานเข้าร่วมประกวด และขอบคุณนิสิต นักศึกษาทุกท่านที่สร้างสรรค์ส่งผลงานอันมีคุณค่า ซึ่งเวทีนี้เปิดกว้างให้แสดงความสามารถ และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงสร้างแรงบันดาลใจในการสร้างรูปแบบการสื่อสารแนวใหม่ให้กับนิสิต นักศึกษา เพื่อที่จะสามารถนำไปต่อยอดและเป็นเส้นทางไปสู่การเป็นนักโฆษณามืออาชีพ รวมถึงการนำความรู้ทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมาพัฒนาความคิดสร้างสรรค์อย่างไร้ขีดจำกัด เสริมสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพเข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ เพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy) ของประเทศไทย อันจะนำไปสู่ความก้าวหน้าและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในอนาคต