เตรียมตัวให้พร้อมกับแหล่งพลังงานสำรองจากลิเธียม-ไอออนพลังแรง
ด้วยความที่หลายองค์กรพึ่งพาระบบไอทีและข้อมูลในการดำเนินธุรกิจของตนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ความต่อเนื่องทางธุรกิจจึงต้องพึงพาการจ่ายกระแสไฟฟ้าเป็นหลัก นอกเหนือจากวงการอุตสาหกรรมแล้ว แทบปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบริษัททั้งหลายยังจำเป็นต้องใช้แหล่งพลังงานเป็นหลักในการดำเนินงาน รวมถึงการแข่งขันทางธุรกิจ แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากวันหนึ่งไม่มีกระแสไฟฟ้าจ่ายมาให้ระบบ
ดังนั้นกลุ่มธุรกิจควรมีเครื่องสำรองไฟ (UPS) ไว้เพื่อสำรองกระแสไฟที่พร้อมใช้งานให้แก่อุปกรณ์ IT และระบบที่สำคัญอื่น ๆ เพราะนั่นอาจหมายถึงความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อข้อมูลสูญหายและชั่วโมงของประสิทธิภาพการทำงานก็จะลดลงในกรณีเกิดไฟดับ ซึ่งเทียบไม่ได้เลยกับการที่สามารถทำงานได้ตามปกติ แบตเตอรี่จำนวนหลายตัวที่ชาร์จไว้อย่างต่อเนื่องเมื่อไม่ได้ใช้งานนั้นจะจ่ายไฟให้กับเครื่องสำรองไฟในช่วงเวลาที่ต้องจ่ายไฟสำรอง (ride-through time) โดยดาต้า เซ็นเตอร์จะสลับไปใช้แหล่งพลังงานเสริม เช่น แหล่งจ่ายพลังงานสำรอง (second utility feed) เครื่องกำเนิดไฟฟ้า หรือแหล่งพลังงานทางเลือก เช่น เซลล์เชื้อเพลิงหรือพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น
การเพิ่มขึ้นของปัญหาอุปกรณ์ขัดข้องแบบไม่ได้วางแผนไว้
แม้ว่าในแต่ละอุตสาหกรรมจะมีค่าใช้จ่ายในการหยุดทำงานจะแตกต่างกันไป แต่รายงานปี 2564 ของสถาบัน Ponemon ระบุว่าช่วงเวลาการหยุดทำงานโดยไม่ได้วางแผนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเจ็ดปีที่ผ่านมา โดยมีระยะเวลาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 86 นาทีในปี 2556 เป็น 101 นาทีในปี 2563 และอธิบายถึงสาเหตุหลักในการหยุดทำงานของดาต้าเซ็นเตอร์ อุปกรณ์เอดจ์ (Edge) และคอร์ (Core) ว่าเกิดขึ้นจากแบตเตอรี่ใน UPS ล้มเหลว เครื่อง UPS ล้มเหลว การโจมตีทางไซเบอร์ อุปกรณ์ไอทีล้มเหลว และข้อผิดพลาดจากมนุษย์ นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่าวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการหยุดทำงานโดยไม่ได้วางแผนคือ การลงทุนในอุปกรณ์ที่มีศักยภาพสูงขึ้น การยกระดับมาตรการความปลอดภัย และเตรียมอุปกรณ์ทางโครงสร้างพื้นฐานสำรองเอาไว้
เทคโนโลยีลิเธียม-ไอออน
หลายบริษัทพึ่งพาดาต้า เซ็นเตอร์ทั้งแบบระยะไกลและแบบเอดจ์ ห้องเซิร์ฟเวอร์ และตู้เครือข่ายเพื่อทำการโฮสต์ข้อมูล โดยปกติแล้วอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหล่านี้มักจะอาศัยระบบ UPS สำหรับการจ่ายพลังงานสำรองในช่วงเวลาวิกฤตที่เกิดจากไฟฟ้าดับ ดังนั้นองค์กรจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบ UPS ของตนใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะต้องมั่นใจว่าแบตเตอรีดังกล่าวสามารถจ่ายไฟชดเชยได้อย่างต่อเนื่องในช่วงห้าปีที่ผ่านมา แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนเป็นแหล่งพลังงานสำรองที่น่าเชื่อถือมากที่สุดแหล่งหนึ่งสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์รุ่นก่อน ๆ โดยได้นำมาประยุกต์ใช้กับเครื่องสำรองไฟเมื่อไม่นานมานี้และได้เปลี่ยนโฉมธุรกิจ เทคโนโลยีลิเธียม-ไอออนที่กำลังปฏิวัติวงการเครื่องสำรองไฟ ซึ่งเป็นที่รู้กันดีว่าลิเธียม-ไอออนสามารถจ่ายพลังงานไฟฟ้าให้แก่แล็ปท็อปและอุปกรณ์เคลื่อนที่ชนิดอื่น ๆ และมีข้อดีมากกว่าแบตเตอรี่แบบตะกั่ว-กรด ซึ่งเคยเป็นแหล่งพลังงานสำหรับการใช้งานเครื่องสำรองไฟเมื่อก่อน
แหล่งพลังงานสำหรับระบบสำรองไฟ เช่น แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนซึ่งมีความน่าเชื่อถือและทนทานกำลังได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นในวงกว้าง เพราะแบตเตอรีสามารถจ่ายไฟเพื่อการปฏิบัติงานในองค์กรได้ รวมถึงให้แก่แอปพลิเคชันที่มีการใช้งานปริมาณสูงอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานดียิ่งขึ้น ดังรายละเอียดที่กำลังจะกล่าวต่อไปนี้ซึ่งเป็นประโยชน์หลายประการที่ผู้ใช้งานจะได้รับจากระบบสำรองไฟแบบลิเธียม-ไอออน
เครื่องสำรองไฟยังสามารถตรวจจับและจ่ายกระแสไฟชดเชยได้เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ปกติ เช่น เมื่อไฟตกหรือไฟกระชาก ซึ่งเป็นความผันผวนของพลังงานไฟฟ้าชั่วคราวที่อาจสร้างความเสียหายให้แก่คอมพิวเตอร์ที่ต่อพ่วงอยู่และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ด้วยประโยชน์หลากหลายประการเช่นนี้ เครื่องสำรองไฟแบบลิเธียม-ไอออนจึงมีส่วนสำคัญยิ่งที่ทำให้การดำเนินธุรกิจที่สำคัญยิ่งเกิดความมั่นคงและสามารถลดต้นทุนการดำเนินงานลงได้ ด้วยประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งขึ้น ผู้ใช้งานจึงมั่นใจได้ว่า แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนจะช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์ไอทีไม่หยุดชะงัก ข้อดีหลายประการที่ได้กล่าวมานั้นไม่ว่าจะเป็นในด้านประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และความคุ้มค่านั้นจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อขับเคลื่อนโครงสร้างพื้นฐานทางไอทีที่สำคัญที่ช่วยจัดการวิกฤตต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
บทความโดย Arunangshu Chattopadhyay,
Director – Power Product Marketing & Technical Support, Asia