ปิยสวัสดิ์ รมว.พลังงาน เป็นประธานเปิดตัวน้ำมัน "พีทีที E20 พลัส" ซึ่ง ปตท. เป็นผู้นำในการจำหน่ายเป็นรายแรกของประเทศ เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนควบคู่กับการช่วยให้ประเทศชาติประหยัดเงินตราต่างประเทศ

คุณสมบัติพิเศษกว่ารายอื่นด้วยสาร Friction Modifier และ Anti Corrosion พร้อมสารชะล้างทำความสะอาดในปริมาณที่มากกว่ากฎหมายกำหนด เปิดจำหน่ายแล้ว 12 แห่งตั้งแต่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นมา ราคาถูกกว่าเบนซิน95 ถึงลิตรละ 6 บาท  เพื่อช่วยผู้ใช้รถและชาติประหยัดพลังงาน  ช่วยเหลือเกษตรกร ลดปัญหามลพิษและการเกิดภาวะโลกร้อน

บ่ายวันนี้ (3 มกราคม 2551) ณ สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางนา (ขาออก) นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธานในพิธีเปิดตัวน้ำมัน "พีทีที E20 พลัส" ซึ่ง บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำในการจำหน่ายเป็นรายแรกของประเทศ เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลและส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้พลังงานทดแทนมากขึ้นซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนควบคู่กับการช่วยให้ประเทศชาติประหยัดเงินตราต่างประเทศ

นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า จากการที่ ปตท.ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ด้านพลังงานทดแทน โดยมีโครงการนำร่องร่วมกับโครงการส่วนพระองค์สวนจิตรลดา นำไปสู่การพัฒนาและจำหน่ายพลังงานทดแทน "น้ำมันแก๊สโซฮอล์" ตั้งแต่ปี 2544 เป็นต้นมา ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นอย่างสูงนั้น ล่าสุด ปตท. โดยสถาบันวิจัยและเทคโนโลยี ปตท. ได้มีการพัฒนาน้ำมัน "พีทีที E20 พลัส"  ขึ้น จากเดิมที่ผสมเอทานอลในสัดส่วนเพียง 10% (E10) ให้สามารถเพิ่มขึ้นเป็น 20% (E20)

"พีทีที E20 พลัส" มีคุณสมบัติเทียบเท่าน้ำมันเบนซินทุกประการและยังมีคุณสมบัติพิเศษเหนือผลิตภัณฑ์ E20 อื่นๆที่มีอยู่ในตลาดปัจจุบัน เพราะมีสารพิเศษ Friction Modifier ทำให้การทำงานของกระบอกสูบและเครื่องยนต์แรงเต็มสมรรถนะ ประหยัดการใช้น้ำมันได้ 1-3% เมื่อเทียบกับน้ำมัน E20 ทั่วไป นอกจากนี้ยังมีสาร Anti Corrosion ป้องกันการกัดกร่อนโลหะของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ และท่อทาง ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ พร้อมทั้งสารชะล้างทำความสะอาดในประมาณที่มากกว่าที่กฎหมายกำหนด

ซึ่งทำให้ได้รับการยอมรับจากบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชื่อดังมากมายตามมาตรฐาน Top Tier Gasoline ของสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่า เครื่องยนต์ของคุณจะสะอาด ไม่มีคราบเขม่า ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และแรงเต็มพลัง ขณะนี้ "พีทีที E20 พลัส" ได้วางจำหน่ายแล้วตั้งแต่ต้นปีคือวันที่ 1 มกราคม 2551 เป็นต้นมา  ในเบื้องต้นมี 12 สถานีฯด้วยกัน ได้แก่

                1. สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บริเวณริมทางพิเศษเฉลิมมหานครฝั่งขาออก(บางนา–ขาออก)  

                2.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บางบอน  

                3.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท.บจก.ปิโตรเลียมน้ำมัน (รามอินทรา)  

                4.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. หจก.ศรีเจริญภัณฑ์ (วิภาวดีฯ)  

                5.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. หจก.สุวัจชัยออยล์ (ประชาชื่น) 

                6.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บริษัท เกษตรนวมินทร์ปิโตรเลียม  

                7.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. บจก.ที.3 เจ (ราชพฤกษ์) 

                8.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. การท่าอากาศยาน2 (ดอนเมือง) 

                9.   สถานีบริการน้ำมัน ปตท. กรมช่างอากาศ (สะพานแดง)    

                10. สถานีบริการน้ำมัน ปตท. องค์การแบตเตอร์รี่ (พระโขนง)  

                11.  สถานีบริการน้ำมัน ปตท. สำนักงานใหญ่ (ถนนวิภาวดีฯ)

                12. สถานีบริการน้ำมัน ปตท. นาคสวัสดิ์ (บางบ่อ)

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวต่อไปว่า ในช่วงนี้ ปตท. จะมอบราคาพิเศษให้แก่ผู้มาใช้บริการ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2551  โดย "พีทีที E20 พลัส" จะมีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95  ถึงลิตรละ 6 บาท นอกจากนี้ ปตท. จะทยอยเพิ่มจำนวนสถานีบริการน้ำมันที่จำหน่าย E20 ให้เพียงพอกับปริมาณรถยนต์ที่สามารถเติม E20 ได้ในอนาคต 

ซึ่งรุ่นรถยนต์ที่สามารถเติมน้ำมัน E20 ได้นั้นสามารถเติมน้ำมันพีทีที แก๊สโซฮอล์ 91  น้ำมันพีทีที แก๊สโซฮอล์ 95 รวมถึงน้ำมันเบนซินพีทีที อัลฟ่า เอ็กซ์ 95 ได้โดยไม่เกิดผลเสียต่อเครื่องยนต์แต่อย่างใด และเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา Ford ได้นำรถยนต์ที่ใช้ E20 จำนวน 100 คัน เข้ามาเติมน้ำมัน “พีทีที E20 พลัส”  ของ ปตท. ในสถานีบริการน้ำมันแห่งนี้ด้วย

นายประเสริฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากน้ำมัน “พีทีที E20 พลัส” นอกจากเป็นการสนับสนุนนโยบายพลังงานทดแทน ลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ ช่วยประชาชนและประเทศชาติประหยัดค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงแล้ว ยังสามารถช่วยส่งเสริมให้เกษตรกรในชนบทสามารถจำหน่ายพืชผลการเกษตรในราคาที่ดีขึ้น ช่วยลดมลพิษทางอากาศ แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม  และช่วยบรรเทาสภาวะโลกร้อน เป็นต้น

 ปัจจุบันรถยนต์ที่สามารถเติม E20  ได้จะเป็นรถรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 2008   ประกอบด้วย Honda (City –ZX, Civic, Accord, CR-V)    Mitsubishi (Space Wagon 4G69 MIVEC NA4, EFI)   Mazda (Mazda 3)    Nissan (Teana, Tiida)   แต่สำหรับ Ford Focus และ Ford Escape 3.0 L ตั้งแต่ปี 2005  นั้นสามารถใช้ได้ทุกรุ่น รวมถึงรุ่นที่จะออกตามมาในปี 2008 ด้วย