เนื้อหาวันที่ : 2021-06-06 13:55:57 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1476 views

Epic Games ปรับใช้ Unreal Engine ช่วยขับเคลื่อน HMI ออกแบบรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างตรงเป้า

โดย..Jack Condon
        Evangelist Technical Account Manager ของ Epic Games Southeast Asia

ในปัจจุบันคนไทยกำลังจะคุ้นเคยกับเทคโนโลยีเกมคอมพิวเตอร์และรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ประเทศไทยมีการแข่งขันอีสปอร์ตอย่างแพร่หลาย และรัฐบาลไทยกำลังมุ่งมั่นที่จะทำให้ไทยเป็นฮับการผลิตรถยนต์ EV ของอาเซียนภายในทศวรรษหน้า
คุณคิดว่าอุตสาหกรรมที่ดูเหมือนจะแตกต่างกันทั้งสองนี้มีอะไรเหมือนกัน เทคโนโลยีเกมคอมพิวเตอร์มีความสำคัญอย่างไรกับรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle)? คำตอบอาจจะทำให้คุณประหลาดใจอย่างยิ่ง เพราะเทคโนโลยีเกมคอมพิวเตอร์เป็น Disruptor ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งยวดต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าของเราที่กำลังมุ่งเป้าหมายไปสู่เส้นทางการขับเคลื่อนอัตโนมัติ
เมื่เจเนอรัล มอเตอร์ (GM) เปิดตัรถรุ่น Hummer EV ตัวใหม่ที่เป็นระบบไฟฟ้าทั้งคัน ซัพพลายเออร์ที่ได้รับการกล่าวขวัญถึงเป็นพิเศษคือ Epic Games ผู้พัฒนาและเผยแพร่เกม Fortnite (หนึ่งในเกมออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก) โดย Unreal Engine ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มกราฟิกแบบเรียลไทม์ของ Epic Games ได้ถูกนำมาใช้ในการขับเคลื่อนการพัฒนา HMI (Human Machine Interface) เพื่อช่วยในการออกแบบรถยนต์ Hummer ตัวใหม่นี้อีกด้วย
(ศึกษาการที่รถยนต์ Hummer EV ใช้พลังความสามารถของ Unreal Engine ช่วยในการพัฒนาได้จากวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=nrgGP5QJzLk)

การออกแบบทำได้ง่ายและรวดเร็วด้วยภาพกราฟิกที่แสดงให้ผู้ใช้เห็นด้วยรายละเอียดสูงและดึงดูดความสนใจ อีกประการหนึ่งที่ชัดเจนว่าทำไมจึงเลือกใช้เทคโนโลยีเกมนั้นเนื่องมาจากความสามารถในการแสดงผลผ่านจอภาพที่มีขนาดใหญ่ได้ทุกขนาด ซึ่งมอบพื้นผิวที่กว้างใหญ่และไร้รอยต่อสำหรับแสดงความคิดสร้างสรรค์ของนักออกแบบ แต่ประโยชน์ที่ GM เลือกที่จะเน้นจริง ๆ คือทางด้านกลยุทธ์การตลาดมากกว่า นั่นคือ วิถีทางที่จะทำให้มีขีดความสามารถในการพัฒนารถยนต์ที่ใช้ระบบใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว - ในกรณีนี้คือรถยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า – รวมถึงความสามารถสื่อสารกับผู้ขับขี่
เทคโนโลยีเกมช่วยแก้ปัญหาได้หลายประการ ประการแรกคือการหาวิธีการทำให้พื้นที่ควบคุม (Control Areas) บนรถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้ควรจะมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ขับขี่อย่างไรเมื่อคุณต้องตัดสินใจว่าจะเลือกให้แสดงข้อมูลเกี่ยวกับสถานะของการชาร์จประจุไฟฟ้าและการสร้างพลังงานเติมใหม่ได้อย่างไร หรือการระบุสถานการณ์ที่อันตรายและความเร่งด่วนในการคืนการควบคุมให้กับผู้ขับขี่ เราไม่มีประสบการณ์ในเรื่องเหล่านี้ที่สร้างสมอย่างยาวนานหลายทศวรรษ แต่ Games Engines จะมอบอิสรภาพใหม่ ๆ ให้กับนักออกแบบที่จะค้นหาวิธีการใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด (และมีส่วนร่วมมากที่สุด) ในการสื่อสารข้อมูลเหล่านี้ รวมทั้งหาวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการสร้างและทดสอบแต่ละตัวเลือกที่ออกแบบมาเพื่อสร้างระบบ ADAS (Advanced Driver Assistance Systems) หรือระบบที่คอยช่วยเหลือผู้ขับขี่ให้สามารถขับรถยนต์ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นกว่าการการขับขี่แบบทั่วไป

“นักออกแบบสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายได้แบบเรียลไทม์ ในขณะที่วิศวกรทำงานของตนในแต่ละวันจะตามได้ทัน”

เมื่อเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งได้แล้ว วิธีการพัฒนาแบบดั้งเดิมจะให้วิศวกรทำการเขียนโค้ดบนซอฟต์แวร์ซึ่งนำไปสู่กระบวนการทำซ้ำ ๆ หลายรอบ โดยนักออกแบบและนักการยศาสตร์ (Ergonomists) จะตรวจสอบระบบ แล้ววิศวกรจะตามแก้ไขโค้ดนั้น นักพัฒนาเกมทำงานโดยไม่มีการแยกส่วนเหล่านี้ ดังนั้นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดจึงต้องมีโครงสร้างเพื่อช่วยให้นักออกแบบสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายได้แบบเรียลไทม์ (การพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยการออกแบบ) อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่วิศวกรทำงานของตนในแต่ละวันจะตามได้ทัน
(ศีกษาคุณลักษณะสำคัญของ Unreal Engine ที่สามารถช่วยในการพัฒนาการออกแบบรถยนต์ได้จากวิดีโอ https://www.youtube.com/watch?v=CGRmH_sFg7s)

ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังมีคำถามในการสื่อสารเชิงคุณค่าของแบรนด์ด้วย เมื่อลูกค้าของคุณคุ้นเคยกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภคที่มีวงจรการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่รวดเร็วขึ้นกว่าเดิมมาก คุณสามารถลองสร้างภาพรถคันใหม่ของคุณได้อย่างรวดเร็วตามต้องการเหมือนกับภาพในหนังสือการ์ตูนจนต้องร้อง “ว้าว..ช่าง “ไฮเทค” จังเลย”
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่รายหนึ่งของเยอรมันเพิ่งจะให้คำสัญญาที่จะมุ่งมั่นก้าวไปสู่การสร้างสรรค์รถยนต์ในรูปแบบเดียวทั้งบริษัท ซึ่งจะต้องเริ่มต้นตั้งแต่แนวคิดขั้นเริ่มแรกและพัฒนาอย่างไร้รอยต่อไปพร้อม ๆ กันทั้งทางวิศวกรรมจนถึงการตลาดและการผลิตเพื่อที่จะสามารถนำคุณสมบัติที่ชัดเจนตามความต้องการของลูกค้าแต่ละรายไปโหลดลงใน HMI เพื่อสร้างภาพกราฟิก ดังนั้นเมื่อคุณมองดูภาพ คุณจะเห็นระบบไฟฟ้าของรถกำลังเก็บเกี่ยวพลังงานได้อย่างไรในขณะที่คุณชะลอความเร็วของรถลง โดยรถจะมีสีและขอบล้อตามที่คุณเลือก คุณจะเห็นภาพรถเช่นเดียวกับรถจริง ๆ ของคุณเมื่อคุณหมุนดูภาพในมุมต่าง ๆ แทนที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายจำนวนมากในการสร้างภาพเคลื่อนไหวแบบฟลิปบลอก (Flip Blook) ภาพจะถูกประมวลผลใหม่แบบเรียลไทม์เมื่อทำการหมุนภาพ ทำให้นักออกแบบมีความยืดหยุ่นและได้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม

“ในอนาคต HMI จะต้องสามารถกำหนดค่าสำหรับรถยนต์แต่ละคันได้ จะต้องสามารถปรับแต่งได้โดยเจ้าของรถเอง และอัปเดตได้ตลอดอายุการใช้งานของรถยนต์คันนั้น”

ซึ่งนำเราไปสู่ก้าวที่ยิ่งใหญ่ขั้นต่อไป นั่นคือ การอัปเดตบริการเสริมต่าง ๆ ผ่านอากาศและบนระบบคลาวด์ แผนงานพัฒนาทางเทคนิคสำหรับ HMI มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการนำไปใช้ที่ประสบความสำเร็จ ไม่เพียงแต่เทคโนโลยีรถยนต์ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเป็นแหล่งสร้างรายได้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นอีกด้วย เช่นเดียวกับโทรศัพท์มือถือเป็นประตูสู่บริการเพิ่มเติมใหม่ ๆ และปรับเปลี่ยนได้ตามที่คุณต้องการ แม้ว่าในรถยนต์จะมีความซับซ้อนมากกว่าก็ตาม คุณสามารถสร้างบริการเสริมได้ อย่างเช่น การเพิ่มประสบการณ์เสมือนจริง (Augmented Reality Experience) ที่บอกเล่าข้อเท็จจริงที่น่าสนใจและเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่สำคัญ ๆ ที่ถูกไฮไลต์เมื่อคุณขับรถผ่านสถานที่นั้น
เราได้กล่าวถึง Disruptor ที่สำคัญ 3 ตัว ได้แก่ EV, ADAS และบริการบนคลาวด์ ทั้งหมดนี้จะมีส่วนช่วยมากยิ่งขึ้นเมื่อนำมาใช้ควบคู่กับ HMI ที่มีความซับซ้อนรุ่นใหม่ HMI จึงเป็นเคล็ดลับที่สำคัญเมื่อเทคโนโลยีและบริการผ่านรถยนต์พัฒนาขึ้น HMI จะกลายเป็นจุดสัมผัสเชื่อมต่อที่ทรงพลังที่สุดระหว่างผลิตภัณฑ์ในอุตสาหกรรมของเราและลูกค้าของเราโดยมี Unreal Engines ช่วยเร่งการพัฒนาในครั้งนี้