เนื้อหาวันที่ : 2021-03-16 00:32:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1217 views

อรูบ้าส่งสัญญาณการเตรียมธุรกิจให้พร้อมก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่ง Intelligent Edge

Attributed to : Keerti Melkote, President and Founder of Aruba, a Hewlett Packard Enterprise Company

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมานี้เทรนด์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีในฝั่ง Network นั้นมีด้วยกัน 2 ประเด็นหลัก ๆ ได้แก่ ความต้องการในการเชื่อมต่อเครือข่ายเพื่อการทำงานได้จากทุกที่ทุกเวลา และการย้ายแอพพลิเคชันและข้อมูลสำคัญทางธุรกิจขึ้นสู่ Cloud ทุกวันนี้โลกเราได้เปลี่ยนจากยุคของ Mobility มาสู่ยุคของ Cloud แล้วอย่างเต็มตัว และในปี 2021 นี้เรากำลังมุ่งไปสู่ก้าวถัดไปซึ่งก็คือยุคของ Intelligent Edge

ในปี 2021 นี้ฝ่ายไอทีจะต้องเตรียมตัวสำหรับ Intelligent Edge ด้วยการวางระบบโครงสร้างพื้นฐานให้รองรับแนวโน้มใหม่   โดยนอกเหนือจากการเชื่อมต่อใช้งาน Cloud ที่จะเพิ่มมากขึ้นแล้ว ฝ่ายไอทียังต้องทำความเข้าใจด้วยว่าในอนาคตผู้ใช้งานจะมีปฏิสัมพันธ์กับอุปกรณ์ IoT ในรูปแบบใด และจะนำข้อมูลที่เกิดขึ้นที่ Edge มาใช้สร้างประสบการณ์และผลลัพธ์ทางธุรกิจในรูปแบบใหม่ได้อย่างไร

แน่นอนว่าฝ่ายไอทีนั้นต้องดำเนินแผนการเหล่านี้ท่ามกลางช่วงเวลาที่ COVID-19 ยังคงแพร่ระบาด ดังนั้นการออกแบบ Intelligent Edge จึงต้องวางแผนเพื่อให้ระบบเหล่านี้สามารถช่วยตอบโจทย์ธุรกิจองค์กรในการรองรับการทำงานจากที่บ้าน รองรับความสามารถอื่น ๆ ที่จะช่วยให้พนักงานกลับมาทำงานที่บริษัทได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจ รวมถึงตอบรับต่อการทำ Business Continuity ให้กับธุรกิจได้อีกด้วย

ทั้งนี้ เมื่อโลกของเราก้าวสู่ยุคหลังการแพร่ระบาดแล้ว Intelligent Edge และการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้โดยคิดค่าใช้จ่ายตามการใช้งานจริงจะทำให้ธุรกิจองค์กรสามารถเสริมความสามารถในการรักษาความมั่นคงปลอดภัย การรวบรวมวิเคราะห์ข้อมูล และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้ เทคโนโลยีเพื่อรองรับต่อการปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ธุรกิจยังคงประสบความสำเร็จได้ในโลกยุคที่ธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลา

อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือเราเริ่มเห็นลูกค้าของเราที่ให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นเป็นหลักมากขึ้น มีการเลือกใช้ Networking-as-a-Service (NaaS) ที่สามารถเลือกใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ๆ ได้ทั้งในแบบการติดตั้งใช้งานภายในองค์กรหรือใช้งานผ่าน Cloud รวมถึงยังได้ใช้อุปกรณ์เครือข่ายและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องในรุ่นล่าสุด ได้ใช้บริการ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยให้การทำ Automation และ Data Analytics ในองค์กรนั้นประสบความสำเร็จได้มากขึ้น เปลี่ยนการทำงานของผู้บริหารฝ่ายไอทีให้เป็นการทำงานเชิงรุกได้อย่างเต็มที่ ในขณะที่ยังคงควบคุมระบบเครือข่ายให้ทำงานได้ตามต้องการทั้งในเชิงประสิทธิภาพและรูปแบบของการให้บริการเครือข่ายเพื่อสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่เห็นผลได้อย่างชัดเจน

แนวโน้มหลัก ๆ ที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่และน่าจับตามองในช่วงปีนี้

  • ธุรกิจองค์กรในหลายอุตสาหกรรมเริ่มมีการติดตั้งใช้งานระบบไอทีรุ่นใหม่ โดยมีการนำ Server, Storage, Network ที่เชื่อมต่อกับ Cloud ได้ไปติดตั้งใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Intelligent Edge รุ่นล่าสุด ซึ่งภาพเหล่านี้จะเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมโรงงานและการผลิต, การแปรรูป และการจัดจำหน่ายก่อน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้สูงขึ้นจากการลด Downtime ให้น้อยลง
  • ข้อมูลจะมีปริมาณมากขึ้นและมีความสำคัญสูงยิ่งขึ้น องค์กรธุรกิจเป็นจำนวนมากจะเริ่มใช้ข้อมูลในการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโต สร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับพนักงานและลูกค้า รวมถึงยังมีแนวโน้มใหม่ที่ข้อมูลส่วนใหญ่ในภาคธุรกิจนั้นจะเริ่มถูกสร้างขึ้นจากภายนอก Data Center หรือ Cloud อีกด้วย
  • Automation และ AIOps จะเข้ามาช่วยให้ฝ่ายไอทีในองค์กรสามารถเปลี่ยนไปทำงานในเชิงรุกที่มีคุณค่ามากขึ้นได้ แทนที่จะต้องเสียเวลากับการตรวจสอบแก้ไขปัญหาในระบบเครือข่ายอย่างในอดีต ด้วยการช่วยแก้ไขปัญหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ป้องกันปัญหาไม่ให้เกิดขึ้น ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับพนักงานและลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน
  • ผู้ดูแลระบบเครือข่ายจะกลายเป็นกำลังสำคัญในการแก้ไขปัญหา Silo ของระบบที่ทำให้องค์กรนั้นต้องมีระบบ Server, Storage, Virtualization, DevOps. SecOps และ AIOps สำหรับแต่ละภาคส่วนแยกขาดจากกัน ช่วยให้เกิดความร่วมมือระหว่างหลายฝ่ายเพื่อสร้างความสำเร็จให้เกิดขึ้นได้ท่ามกลางภาวะวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้

ถึงแม้ว่าปี 2020 จะเป็นปีที่มีความท้าทายหลายประการ แต่นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมานี้ก็ทำให้องค์กรธุรกิจมีหนทางที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ อีกทั้งวิกฤตโรคระบาดในครั้งนี้ยังทำให้ฝ่ายไอทีต้องมีบทบาทมากขึ้นจากการที่ผู้บริหารระดับสูงเล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีในการรับมือกับสถานการณ์และสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจมากขึ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจสามารถต่อยอดจากการปรับให้พนักงานสามารถทำงานได้จากที่บ้าน การสร้างความสุขและเสริมประสิทธิภาพในการทำงานของพนักงานไปสู่การริเริ่มโครงการใหม่ ๆ ในธุรกิจหรือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมาได้

ในปี 2021 นี้การพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และการเสริมความสามารถหรือการสร้างคุณค่าใหม่ ๆ จาก Intelligent Edge เพื่อให้ธุรกิจสามารถรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตนั้นก็จะยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง

รับชมวิดีโอเพิ่มเติมได้ที่
Youtube
https://www.youtube.com/watch?v=iibWcuoKf0A