กรมการค้าภายในประกาศราคาแนะนำเหล็ก ประจำเดือนมกราคม 2551 ให้ปรับราคาเพิ่มก.ก.ละ2บาท ชี้ราคาวัตถุดิบนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นภาวะการค้าตึงตัว
กรมการค้าภายในประกาศราคาแนะนำเหล็ก ประจำเดือนมกราคม 2551 ให้ปรับราคาเพิ่มก.ก.ละ2บาท ชี้ราคาวัตถุดิบนำเข้าเพิ่มสูงขึ้นภาวะการค้าตึงตัว |
. |
นางวัชรี วิมุกตายน รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทย ได้ติดตามสถานการณ์การค้าเหล็ก และวัตถุดิบได้แก่ เศษเหล็ก เหล็กแท่งยาว และเหล็กแท่งแบน ในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด ปรากฏว่าปริมาณวัตถุดิบดังกล่าวค่อนข้างตึงตัวหาซื้อได้ยาก เนื่องจากความต้องการใช้เหล็กของโลกมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน บราซิล รัสเซีย และอินเดีย |
. |
ส่งผลให้ราคาเหล็กและวัตถุดิบในตลาดโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเหล็กแท่งยาว ซึ่งใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตเหล็กเส้น ราคาปรับเพิ่มจากตันละ 620 USD ในสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนธันวาคม 2550 เป็นตันละ 670 USDในปัจจุบันหรือสูงขึ้นประมาณตันละ 1,500 บาท และมีแนวโน้มว่าราคา จะสูงขึ้นอีก เนื่องจากราคาสินแร่เหล็กปรับเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 30-50 อีกทั้งอัตราค่าระวางเรือได้มีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการที่ปริมาณเรือบรรทุกไม่เพียงพอกับความต้องการ |
. |
นอกจากนี้ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ยังได้ประกาศปรับเพิ่มอัตราภาษีส่งออกสินค้าเหล็กกึ่งสำเร็จรูปได้แก่ เหล็กแท่งยาว(BILLET) เหล็กแท่งแบน (SLAB) จากเดิมร้อยละ 15 เป็นร้อยละ 25 โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ วันที่ 1 มกราคม 2551 ซึ่งจะทำให้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นประมาณ ตันละ 67 USD หรือ 2,000 บาท |
. |
จากสถานการณ์ข้างต้นส่งผลให้การนำเข้าวัตถุดิบเหล็กแท่งยาวในช่วงต้นปี 2551 เพิ่มสูงขึ้นประมาณ ตันละ 3,500 บาท เพื่อให้ราคาเหล็กเส้นที่จำหน่ายในประเทศมีราคาที่เหมาะสมสอดคล้องกับต้นทุนที่สูงขึ้น และป้องกันมิให้เกิดปัญหาปริมาณเหล็กในประเทศไม่เพียงพอกับความต้องการในช่วงฤดูการก่อสร้างไตรมาสที่ 1และ ไตรมาสที่ 2 ปี 2551 อันจะส่งผลต่อภาคการก่อสร้างของประเทศ |
. |
คณะอนุกรรมการฯ จึงมีมติกำหนดราคาแนะนำเหล็กประจำเดือนมกราคม 2551 โดยกำหนดราคาแนะนำเหล็กแผ่นสูงขึ้นจากเดือนธันวาคม 2550 กก.ละ 1.00 บาท โดยให้มีผลในปักษ์ที่ 2 ของเดือนมกราคม 2551 และกำหนดราคาแนะนำเหล็กเส้นสูงขึ้นจากเดือนธันวาคม 2550 กก.ละ 2.00 บาท โดยให้ทยอยปรับเพิ่มปักษ์ละ 1.00 บาท ดังนี้1. เหล็กแผ่น เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน กก.ละ 28.00 - 28.50 บาท และเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดแผ่น กก.ละ 29.00 - 30.00 บาท |
. |
2.เหล็กเส้นเหล็กเส้นกลม SR 24 ตามมาตรฐาน มอก. ความยาวเส้นละ 10 ม. ราคา ณ โรงงาน เป็นเงินสดใน กทม. และปริมณฑล ไม่รวม VAT ขนาด 6 มม. ราคา 26,450 บาท/ตัน ขนาด 9 มม. ราคา 25,950 บาท/ตัน ขนาด 12 มม. ราคา 25,350 บาท/ตัน ส่วนราคาขายปลีกระดับซาปั้วเป็นราคาเงินสด ขนาด 6 มม. ราคาประมาณเส้นละ 65.01 บาท ขนาด 9 มม. ราคาประมาณเส้นละ 141.74 บาท ขนาด 12 มม. ราคาประมาณเส้นละ 246.06 บาท |
. |
เหล็กข้ออ้อย SD 30 ตามมาตรฐาน มอก. ความยาวเส้นละ 10 ม. ราคา ณ โรงงาน เป็นเงินสดใน กทม. และปริมณฑล ไม่รวม VAT ขนาด 12 มม. ราคา 25,350 บาท/ตัน ส่วนราคาขายปลีกระดับซาปั้วเป็นราคาเงินสด ราคาประมาณเส้นละ 246.05 บาท |
. |
เหล็กข้ออ้อย SD 40 ตามมาตรฐาน มอก. ความยาวเส้นละ 10 ม. ราคา ณ โรงงาน เป็นเงินสดใน กทม. และปริมณฑล ไม่รวม VAT ขนาด 12 มม. ราคา 25,550 บาท/ตัน ขนาด 16 มม., 20 มม., 25 มม., 28 มม., 32 มม. ราคา 25,250 บาท/ตัน ส่วนราคาขายปลีกระดับซาปั้วเป็นราคาเงินสด ขนาด 12 มม. ราคาประมาณเส้นละ 247.95 บาท ขนาด 16 มม. ราคาประมาณเส้นละ 436.56 บาท ขนาด 20 มม. ราคาประมาณเส้นละ 682.23 บาท ส่วนขนาด 25 มม., 28 มม., และ 32 มม. เป็นเหล็กข้ออ้อย ขนาดใหญ่ใช้เฉพาะการก่อสร้างขนาดใหญ่ จึงไม่มีการกำหนดราคาขายปลีก |
. |
กรมการค้าภายในจะติดตามสถานการณ์และราคาวัตถุดิบในตลาดโลกอย่างใกล้ชิดต่อไป หากสถานการณ์ราคาวัตถุดิบลดลงก็จะประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาราคาเหล็กเส้นและเหล็กโครงสร้างรูปพรรณเพื่อพิจารณาปรับลดราคาเหล็กลงต่อไป |
. |
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ |