ANDEROL® Specialty Lubricants ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นสำเร็จรูปของแลนเซสส์ (LANXESS) ได้คิดค้นสูตรของน้ำมันหล่อลื่นคอมเพรสเซอร์กึ่งสังเคราะห์คุณภาพสูงเกรดพิเศษที่ใช้สำหรับเครื่องจักรในสายการผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพโดดเด่นในราคาที่ย่อมเยากว่า
น้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ชนิดฟู้ดเกรด (Semi-synthetic food grade oils) ผลิตขึ้นจากเทคโนโลยีและการผสมผสานกันอย่างลงตัวของน้ำมันพื้นฐาน (กลุ่ม III) Hydrocracked ที่ผ่านการกลั่นแบบ Severely Hydrotreated เพื่อให้ได้น้ำมันที่มีคุณภาพสูงและปราศจากสิ่งปนเปื้อน แล้วจึงนำมาทำการปรับปรุงด้วยการเพิ่มสารสังเคราะห์เอสเทอร์ (Synthetic Esters) คุณภาพสูงและเทคโนโลยีสารเติมแต่งที่ผ่านขบวนการ ซึ่งช่วยปรับปรุงความหนืด มีความต้านทานการสึกหรอได้ดี การใช้งานที่อุณหภูมิสูงและทนต่อแรงเค้นสูง นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณสมบัติการชะล้าง (Detergency) ทำให้เกิดการหล่อลื่นภายในเครื่องจักรสะอาด
กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นคอมเพรสเซอร์ของ ANDEROL® FG S มีคุณสมบัติเป็นที่ต้องการมากที่สุดของน้ำมันหล่อลื่นสังเคราะห์แบบพรีเมี่ยมในราคาย่อมเยา จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับลูกค้าที่กำลังมองหาการใช้ประโยชน์จากคุณสมบัติของน้ำมันสังเคราะห์ (Synthetic Oils) ที่เหนือกว่าน้ำมันแร่ (Mineral Oils) โดยไม่ต้องเพิ่มค่าใช้จ่าย อีกทั้งมั่นใจได้ถึงความเข้ากันได้ (Compatibility) จึงไม่จำเป็นต้องมีข้อควรระวังเป็นพิเศษเมื่อเปลี่ยนจากการใช้น้ำมันหล่อลื่นชนิดแร่มาเป็นน้ำมันหล่อลื่น ANDEROL® S-Series ของแลนเซสส์ ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อสี, ซีล, ปะเก็นและท่อยาง การทดลองภาคสนามที่ประสบความสำเร็จแสดงให้เห็นว่าอายุการใช้งานของน้ำมัน ISO VG 46 และ ISO VG 68 สูงเกินกว่า 6,000 ชั่วโมง สามารถขยายได้ถึง 10,000 ชั่วโมง
กลุ่มผลิตภัณฑ์ FG S ซีรี่ส์มีข้อได้เปรียบมากกว่าน้ำมันแร่ ได้แก่
กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ ANDEROL® FG S มีความเป็นเลิศในการทดสอบเมื่อเทียบกับน้ำมันแร่มาตรฐาน (ดูตาราง)
ในการทดสอบการสึกหรอแบบโฟร์บอล (Four-Ball Wear Tests) ซึ่งใช้ในการประเมินคุณสมบัติป้องกันการสึกหรอของน้ำมันหล่อลื่นพบว่า ANDEROL® FG S 46 มีประสิทธิภาพสูงกว่าน้ำมันแร่มาตรฐาน เส้นผ่านศูนย์กลางแผล (Scar Diameter) ที่เป็นผลลัพธ์จากการทดสอบจะกำหนดความสามารถของสารหล่อลื่นในการป้องกันการสึกหรอ ซึ่งเส้นผ่านศูนย์กลางที่เกิดจากรอยเชื่อมติดที่เล็กกว่าจะแสดงให้เห็นความสามารถในการป้องกันที่ดีกว่า การทดสอบการสึกหรอแบบโฟร์บอลโดยทั่วไปถ้าได้ผลลัพธ์เกิดจากรอยเชื่อมติดที่เส้นผ่านศูนย์กลางยาวน้อยกว่า 0.5 มิลลิเมตร นั่นหมายถึงการรับภาระโหลดที่ดีเยี่ยม แต่จากการทดสอบน้ำมันหล่อลื่น ANDEROL FG S 46 แสดงให้เห็นแผลที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางยาวเพียง 0.35 มิลลิเมตร ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแรงของฟิล์มที่สูงมาก
คุณสมบัติการระเหย (Volatility) ของสารหล่อลื่นกำหนดลักษณะการสูญเสียเนื่องจากการระเหย ยิ่งมีการระเหยสูงมากเท่าไรอุณหภูมิก็จะยิ่งลดลง ซึ่งหมายความว่าโมเลกุลของไฮโดรคาร์บอนขนาดเล็กจะถูกขับออกหรือระเหยออกไป การสูญเสียไฮโดรคาร์บอนขนาดเล็กจากน้ำมันสามารถเพิ่มความหนืด โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่อุณหภูมิสูงขึ้น น้ำมันหล่อลื่นที่ระเหยได้มากขึ้นหมายถึงความไวไฟอีกด้วย นอกจากนั้นฟิล์มน้ำมันอาจแตกบนกระบอกสูบ ส่งผลให้เกิดการสึกหรอและสิ้นเปลืองน้ำมันมากขึ้น จากการทดสอบแสดงให้เห็นว่าเปอร์เซ็นต์การสูญเสียจากการระเหยที่ 100° C นาน 22 ชั่วโมง สำหรับ ANDEROL® FG S 46 มีเพียง 1.8% เท่านั้นเมื่อเทียบกับ 7.8% สำหรับน้ำมันแร่มาตรฐาน
การทดสอบเสถียรภาพของการเกิดออกซิเดชันด้วยความร้อนโดยดูเส้นโค้ง PDSC (Thermal Oxidation Stability PDSC Test) แสดงผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเช่นกัน สำหรับการวัดค่าความต่างความร้อนของสารภายใต้แรงกดดันสูง (High Pressure Differential Scanning Calorimetry) เป็นวิธีการวิเคราะห์เชิงความร้อนที่ช่วยให้สามารถตรวจสอบความเสถียรของการเกิดออกซิเดชันทางความร้อนของน้ำมันหล่อลื่น เส้นโค้ง PDSC ใช้เพื่อกำหนดจุดเริ่มต้นของการสลายตัวผ่านปฏิกิริยาออกซิเดชัน (Oxidative Degradation) ระยะเวลาจากการสัมผัสกับอากาศหรือออกซิเจนเป็นครั้งแรกไปจนกระทั่งถึงการเกิดออกซิเดชันเรียกว่าระยะเวลาเกิดออกซิเดชัน (Oxidation Induction Time) ยิ่งใช้เวลานานขึ้นจนกระทั่งเกิดออกซิเดชันนานขึ้นจะแสดงให้เห็นคุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ดีขึ้น ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบที่ 1-4 mg, 200° C, อัตราความร้อน 100° C/นาที, ออกซิเจน 500 psi การทลสอบพบว่า ANDEROL® FG S 46 มีความเสถียรต่อการเกิดออกซิเดชันที่ดีมาก (106) เมื่อเทียบกับความเสถียรต่อการเกิดออกซิเดชันของน้ำมันแร่มาตรฐาน (87)
อายุการใช้งานของน้ำมันหล่อลื่นมีความสำคัญ
เช่นเดียวกันกับการช่วยควบคุมการเกิดคราบสะสม (Deposit Control)
ANDEROL® FG S 46 มีคุณสมบัติการควบคุมการเกิดคราบสะสมและตะกอน (Deposit and Sludge Control) ที่ยอดเยี่ยม รวมทั้งมีการก่อตัวของคราบสะสมในระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ อีกทั้งยังผ่านการทดสอบ Petri Scale Tests ครบชุดเพื่อแสดงให้เห็นประสิทธิภาพและความเสถียรของการเกิดออกซิเดชันด้วยความร้อน (ดูผลลัพธ์เต็มรูปแบบได้ที่ https://anderol.com/news/fg-s-series)
ผลิตภัณฑ์ตัวอย่างทั้งหมดถูกวางไว้ในจานทดสอบ (Petri Dish) ที่ระดับความร้อนถึง 220° C และตรวจสอบตลอดเวลา หลังจากผ่านไป 8 ชั่วโมงพบว่า ANDEROL® FG S 46 ยังคงมีสีที่อ่อนกว่าคู่แข่ง ซึ่งบ่งบอกถึงเสถียรภาพทางความร้อน แถมยังไม่มีร่องรอยตะกอนอีกด้วย แม้ผ่านไปอีก 4 ชั่วโมงต่อมาสีของ FG S 46 ส่วนใหญ่ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ในขณะที่ของคู่แข่งมีสีดำคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด หลังจากผ่านไป 12 ชั่วโมงยังคงไม่พบการก่อตัวของโพลีเมอร์และคราบตะกอน
กลุ่มผลิตภัณฑ์ ANDEROL® FG S พิสูจน์ให้เห็นว่าไม่เพียงแต่เป็นน้ำมันหล่อลื่นกึ่งสังเคราะห์ชนิดฟู้ดเกรดที่มีประสิทธิภาพดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเครื่องจักรต่ำลง อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมันหล่อลื่นน้อยลง จึงเป็นเลือกสำหรับสารหล่อลื่นที่ดีที่สุดโดยไม่ต้องแลกด้วยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
Anderol® เป็นเครื่องหมายทางการค้าของ LANXESS Deutschland GmbH หรือบริษัทในเครือที่ได้จดทะเบียนไว้ในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชม www.anderol.com