"สุรพงษ์"มึนข่าวนายกฯพูดยุบสภา แจงให้คำรับรองจะไม่ยุบสภาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า มั่นใจการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ไม่นำไปสู่ความรุนแรงถึงขั้นยุบสภา
น.พ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าวกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในที่ประชุมพรรคไทยรักไทยว่าจะมีการยุบสภาถ้ามีส.ส.สวนมติพรรค ว่า นายกฯไม่ได้พูดเช่นนั้นบอกเพียงแต่ว่ารับรองว่าจะไม่ยุบสภาโดยที่ไม่แจ้งให้ทุกคนทราบล่วงหน้า คือไม่บังคับใจใครหากไม่อยากอยู่กับพรรคไทยรักไทยครั้งหน้าก็จะบอกล่วงหน้า ไม่ได้บอกว่าถ้ามีปัญหาจะยุบสภาแน่ นายกฯพูดเพียงว่าให้ทุกคนคิดถึงประโยชน์ส่วนรวมไม่ได้มาผูกพันเลยว่าจะต้องยุบสภา ซึ่งตนและหลาย ๆ คนก็ยังนั่งงงว่าข่าวนี้มาจากจุดใด เพราะเมื่อถามคนที่ฟังอยู่ในห้องประชุมร่วมกันเมื่อฟังแล้วก็ไม่เห็นว่ามีใครรู้สึกอย่างที่เป็นข่าวเลย จึงไม่ทราบว่าคนที่เป็นแหล่งข่าวเขามองอย่างไร ตนยืนยันได้ว่าไม่มีบรรยากาศที่จะแปลความหมายได้ว่าจะยุบสภา
น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ส่วนการประเมินสถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้การเคลื่อนไหวก็เป็นไปโดยภายใต้รัฐธรรมนูญ ไม่มีอะไรที่เป็นประเด็นที่จะนำไปสู่ความรุนแรงวิกฤติ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง เพียงแต่ทุกคนอยากให้มีการชี้แจงข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยส.ส.เองก็พร้อมที่จะไปชี้แจงให้กับประชาชนและในวันที่จะมีการชุมนุมของกลุ่มผู้สนับสนุนรัฐบาล นายกฯก็คงจะได้เล่าให้ฟังว่าเรื่องราวต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ขณะนี้เหมือนบรรยากาศหาเสียงเตรียมการเลือกตั้ง น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ไม่มียังไม่มี ยังไม่ใช่ ถ้ามองในมิติเก่าอาจจะมองอย่างนั้น ถ้าจะมองว่าเตรียมหาเสียงเลือกตั้งมันจะต้องเตรียมอะไร ๆ มากกว่านี้มาก ไม่ใช่นายกฯยังมานั่งทำงานตามปกติ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในขณะนี้หากอยู่ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญก็ไม่น่ามีปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าทำไมรัฐบาลจึงไม่เลือกยุบสภาและให้ประชาชนเลือกตั้งใหม่หากมั่นใจว่าจะได้กลับมาเป็นรัฐบาล น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ต้องถามว่าหากเราคิดถึงประโยชน์ของประเทศการยุบสภาก็จะส่งผลให้การบริหารประเทศเป็นไปด้วยความล่าช้า เพราะจะต้องเตรียมการเลือกตั้ง และกว่าจะตั้งรัฐบาลใหม่ ครม.ชุดใหม่ อย่างน้อยต้องใช้เวลาถึง 4-5 เดือน ดังนั้นการจะยุบสภาในขณะนี้ก็คือไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว แต่วันนี้ถ้าถามว่าถึงจุดที่ไม่มีทางเลือกอื่นหรือไม่นั้น ตนเห็นว่าไม่ใช่ เมื่อมีกระบวนการตรวจสอบก็ต้องให้เดินหน้าต่อไป
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องถามว่าความเชื่อมั่นที่อยู่มีผลให้นายกรัฐมนตรีบริหารประเทศไม่ได้ใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรียังสามารถประเทศต่อไปได้ แต่หากสมมุติว่าถึงจุดที่ไม่สามารถบริหารประเทศต่อไปได้ การยุบสภาที่จะทำให้การบริหารประเทศหยุดชะงักไป 6 เดือนก็ไม่ต่างกัน แต่วันนี้ยังไม่ถึงจุดที่บอกว่าความเชื่อมั่นของนายกรัฐมนตรีบริหารประเทศต่อไปไม่ได้แล้ว ไม่มีใครยอมรับให้บริหารประเทศแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้มีกลุ่มผู้ชุมนุมกดลุ่มต่าง ๆ เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ น.พ.สุรพงษ์ กล่าวว่า ต่อไปม็อบเป็นเรื่องปกติธรรมดาของสังคมไทยอย่างเช่นม็อบ 4 ก.พ.และ 11 ก.พ. ต่อไปถ้ามีม็อบอย่างนี้เรื่อยๆทุกคนจะมองว่าปรกติธรรมดา เมื่อก่อนมองว่าพอมีม็อบอย่างนี้เกิดขึ้นจะต้องระแวดระวังเพราะเรามีความทรงจำเดิม เช่นเหตุการณ์ 6 ตุลา 14 ตุลาและเหตุการณ์พฤษภาทมิฬที่หากมีม็อบขนาดใหญ๋และต้องมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอย่างรุนแรง แต่เรายังไม่เคยมีความทรงจำใหม่ที่ม็อบเป็นหมื่นคน ถือเป็นเรื่องปรกติธรรมดาในการแสดงความคิดเห็น ตราบใดก็ตามที่ทุกคนยึดมั่นในสันติ ไม่มีอาวุธ ไม่มีความรุนแรง เมื่อเราฟังความคิดเห็นแล้วตรงไหนมีข้อมูลที่ไม่ตรงหรือไม่ถูกต้องเราก็ชี้แจง