เนื้อหาวันที่ : 2019-08-22 02:54:43 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2684 views

แลนเซสส์โชว์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์พลาสติกและยางในงาน K 2019 ที่เยอรมนี

แลนเซสส์ (LANXESS) ระดมทัพ 6 หน่วยธุรกิจจัดแสดงผลิตภัณฑ์ พร้อมนำเสนอความก้าวหน้าใหม่ ๆ ด้านผลิตภัณฑ์ กระบวนการและเทคโนโลยีของ 6 หน่วยธุรกิจที่ครอบคลุมหลากหลายอุตสาหกรรมในงาน “K 2019” ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศสำหรับผลิตภัณฑ์พลาสติกและยางจัดขึ้น ณ เมืองดึสเซิลดอร์ฟ (Düsseldorf) ประเทศเยอรมนี ระหว่างวันที่ 16-23 ตุลาคม พ.ศ. 2562 โดยแลนเซสส์ได้จัดสรรพื้นที่ 700 ตารางเมตรเพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์สำหรับการเดินทางยุคใหม่ (New Mobility) การเป็นเมือง (Urbanization) และการทำให้เป็นดิจิทัล (Digitalization)

คุณฮิวเบิร์ต ฟินค์ (Hubert Fink) สมาชิกคณะผู้บริหาร บริษัท แลนเซสส์ ผู้นำในอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษของโลก กล่าวว่า “โซลูชั่นที่เป็นนวัตกรรมทางด้านการเดินทางแบบใหม่และแนวคิดเรื่องเมืองยุคใหม่กำลังได้รับการพัฒนาและเป็นที่นิยมกันทั่วโลก ซึ่งเป็นแนวโน้มที่มีความสำคัญต่อการเติบโตของอุตสาหกรรมอย่างมากสำหรับเราและลูกค้าของเรา เรากำลังมุ่งพัฒนาโซลูชั่นและเทคโนโลยีวัสดุที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับเทรนด์ดังกล่าวนี้ และยังมุ่งเน้นไปที่ความเป็นไปได้ใหม่ในเรื่องการทำให้เป็นดิจิทัล”
ในงานนี้แลนเซสส์ได้ระดม 6 หน่วยธุรกิจจากทั้งหมด 11 หน่วยธุรกิจของแลนเซสส์ ได้แก่ - วัสดุประสิทธิภาพสูง (High Performance Materials), Urethane Systems, สารเติมแต่งโพลิเมอร์ (Polymer Additives), Rhein Chemie, เม็ดสีอนินทรีย์ (Inorganic Pigments) และตัวกลางอุตสาหกรรมขั้นสูง (Advanced Industrial Intermediates) มาร่วมจัดแสดงและโชว์ผลิตภัณฑ์ของแต่ละหน่วยธุรกิจที่งาน K 2019
ชมภาพ virtual booth tour ของ LANXESS ในงาน K 2019 ได้ที่ https://k2019.lanxess.com/

โพลีเอไมด์และโพลีเอสเตอร์เพื่อการเดินทางอย่างยั่งยืน (Sustainable Mobility)
หน่วยธุรกิจวัสดุประสิทธิภาพสูง (HPM) จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่จำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วยระบบไฟฟ้า (Electric Mobility)
คุณไมเคิล โซเบล (Michael Zobel) หัวหน้า HPM กล่าวว่า “วัตถุประสงค์ของเราในการพัฒนาวัสดุประสิทธิภาพสูงคือการช่วยให้ระบบขับเคลื่อนประเภทต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางด้วยระบบไฟฟ้าสามารถเข้าสู่ตลาดได้ เรากำลังมุ่งเน้นไปที่เทคโนโลยีรูปแบบการเดินทางที่แตกต่างกัน จากยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสมแบบ Mild Hybrid และ Plug-in Hybrid ไปจนถึงยานยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น การพัฒนาของเรายังมุ่งเน้นไปที่แนวโน้มการขับเคลื่อนในอนาคต อย่างเช่น ยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติโดยการเชื่อมต่อผ่านระบบดิจิทัล”
วัสดุ HPM ใหม่ ๆ ประกอบด้วยสารประกอบที่ทนความร้อนคงที่ได้สูงถึงในระดับที่เปล่งแสงสีส้มซึ่งใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าแรงสูง (High-voltage Applications), วัสดุป้องกันการกัดกร่อนทางไฟฟ้าเมื่อสัมผัสกับชิ้นส่วนโลหะขณะทำงาน และวัสดุทนไฟที่ปราศจากสารฮาโลเจน (Halogen-free, Flame-retardant Materials) ที่ใช้ทำส่วนประกอบ เช่น ตัวยึดเซลล์แบตเตอรี่และแผ่นครอบ
แลนเซสส์มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี Hallow Profile และคอมโพสิตเทอร์โมพลาสติกภายใต้แบรนด์ "Tepex" ช่วยให้สามารถออกแบบวัสดุที่มีน้ำหนักเบาลง ในเรื่องนี้คุณโซเบลได้อธิบายว่า “ผลิตภัณฑ์วัสดุสารประกอบ (Composite Material) ของเรานั้นถูกนำไปใช้ในการผลิตส่วนประกอบมีน้ำหนักเบาและผลิตได้คราวละมาก ๆ ซึ่งมีการนำไปใช้มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภายในงาน K 2019 เราได้นำเสนอตัวหุ้มเบาะที่นั่ง (Seat Shell) ที่มีคุณสมบัติความทนทานสูงและโครงหลังคาด้านหน้า (Front-end Carrier) ที่เชื่อมต่อกันอย่างเป็นเอกภาพ ผลิตจากวัสดุ Tepex ทำให้ทั้งคู่มีคุณสมบัติพิเศษสามารถทนทานต่อการชนได้อย่างยอดเยี่ยม”

สารประกอบใหม่ใช้ในการเป่าขึ้นรูปเพื่อผลิตส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ในงาน K 2019 ยังมีการแสดงสารประกอบใหม่สำหรับใช้ในการเป่าขึ้นรูปเพื่อผลิตส่วนประกอบที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับการจัดการอากาศในเครื่องยนต์สันดาปเทอร์โบชาร์จ (Turbocharged Combustion Engines) และปลอกสูบ (Liners) สำหรับเครื่องยนต์ที่ใช้พลังงานเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนและก๊าซธรรมชาติ
“ที่ศูนย์เทคนิคของเราในเมืองดอร์มาเจน (Dormagen) เราได้สร้างระบบเป่าขึ้นรูปพลาสติกที่ทันสมัยและจัดตั้งทีมงานระดับโลกที่ได้รับมอบหมายให้พัฒนาวัสดุสำหรับการใช้งานพิเศษนี้" คุณโซเบลกล่าว

ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับการเป็นเมือง (Urbanization)
ด้านผลิตภัณฑ์สำหรับเชื่อมต่อ (Connectors) และสวิตช์ (Switches) ในระบบสมาร์ทโฮมล้ำสมัย แลนเซสส์มีสารประกอบโพลีอะไมด์ 6 ซึ่งมีชื่อเรียกว่า Durethan BG60XXF นับเป็นวัสดุที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากเป็นพลาสติกที่บิดงอได้น้อย (Low-warpage Plastic) จึงถูกนำไปใช้เป็นตัวยึดสวิตช์ (Switch Holders) ในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลายเพื่อทำการผลิตในโรงงานชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยคุณสมบัติของวัสดุนี้จากแลนเซสส์ ทำให้ส่วนประกอบที่ผลิตได้มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐานที่สูงมากในเรื่อง Planarity, Dimensional Tolerance และความแข็งแกร่ง (Rigidity)
ขณะที่หน่วยธุรกิจ Urethane Systems ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกในการผลิต Polyurethane (PU) Prepolymers ตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะแต่ละราย การนำไปใช้งานเฉพาะด้านและใช้สำหรับทำอีลาสโตเมอร์, สารเคลือบ, กาวและสารยึดติด ได้เข้าร่วมงาน K 2019 เช่นกัน โดยมุ่งแสดง Low Free (LF) Technology ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใช้ในการพัฒนาสูตร (Formulate) ในการผลิต PU Prepolymers ที่มีส่วนผสมของไอโซไซยาเนตน้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านสุขอนามัยอุตสาหกรรมที่เข้มงวดที่สุด
“สาร Adiprene LF Prepolymers ของเราไม่ได้รับผลกระทบจากข้อกำหนดของสหภาพยุโรปที่เข้มงวดในเรื่องการจำกัดการใช้สารไดไอโซไซยาเนต (Diisocyanates) ในขณะเดียวกันเราได้ปรับปรุงคุณสมบัติเชิงกลของผลิตภัณฑ์ PU และในอนาคตเราจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งหมดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Adiprene LF รวมถึง MDI-based ทุกรายการให้มีไอโซไซยาเนตที่น้อยกว่า 0.1 เปอร์เซ็นต์” คุณมาร์กัส เอคเคอร์ท (Markus Eckert) หัวหน้าหน่วยธุรกิจ Urethane Systems กล่าว
สำหรับไฮไลต์ของการจัดแสดงสินค้าของหน่วยธุรกิจนี้ ได้แก่ รถเหาะตีลังกาที่มีล้อทนทานต่อการขัดถูขีดข่วนและมีความยืดหยุ่นสูง ด้วยการเคลือบสาร Adiprene LF pPDI เช่นเดียวกับล้อที่ทนทานต่อความร้อนและความชื้น โดยเคลือบสาร Adiprene LF TDI สำหรับใช้ในระบบสายพานลำเลียงและตัวแยกในโรงงานรีไซเคิลที่ทันสมัย

สารหน่วงไฟตัวใหม่สำหรับวัสดุฉนวน
หน่วยธุรกิจสารเติมแต่งโพลีเมอร์ (PLA) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตชั้นนำของโลกทางด้านผลิตภัณฑ์สารหน่วงไฟที่ใช้สารโบรมีนและฟอสฟอรัส ภายในงาน K 2019 นำเสนอสารหน่วงไฟสองชนิดสำหรับโฟมโพลิไอโซไซยานูเรต (PIR) แบบแข็ง ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบการทนไฟตามมาตรฐาน ISO 11925-2 ได้แก่ Oligomeric Levagard 2000 และ Reactive Levagard 2100
“สิ่งที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราล้ำหน้ากว่าสารหน่วงไฟของผู้ผลิตรายอื่นคือแทบจะไม่มีการระเหย (Barely Volatile) และแสดงผล Plasticizing Effects เพียงเล็กน้อย” คุณการ์สเติน จอบ (Karsten Job) หัวหน้า PLA อธิบาย
ในขณะเดียวกันแลนเซสส์ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Emerald Innovation 3000 ซึ่งเป็นสารหน่วงไฟโพลีเมอร์โบรมีนสำหรับโพลีสไตรีน (Polystyrene) ที่ขยายเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นทางเลือกทดแทนสาร Hexabromocyclododecane (HBCD) ซึ่งไม่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในสหภาพยุโรป

ป้องกันโอโซนอย่างได้ผล ช่วยเสริมแรงให้ยางและสะท้อนรังสีอินฟราเรด
Antioxidants และ Antiozonants จะเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับหน่วยธุรกิจตัวกลางอุตสาหกรรมขั้นสูง ในงาน K 2019 โดยมี Vulkazon AFS ซึ่งเป็นสาร Antiozonant สำหรับน้ำยางธรรมชาติ, ยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์ที่ป้องกันการแตกร้าวที่เกิดจากผลกระทบของโอโซนและไม่ทำให้เกิดคราบ
ด้านหน่วยธุรกิจ Rhein Chemie จะจัดแสดง Aramid-Fiber-Reinforced Masterbatches ตัวใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Rhenogran P91-40 สำหรับผลิตสินค้ายางทางเทคนิค เช่น ซิลิโคนที่ทนความร้อน มีความทนทานสูงและทนการขีดข่วน อย่างเช่น แหวนและซีล
ส่วนหน่วยธุรกิจเม็ดสีอนินทรีย์จะนำเสนอเม็ดสีดำซึ่งจะช่วยสะท้อนรังสีอินฟราเรด (Infrared) ในแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 20% เมื่อเทียบกับเม็ดสีดำทั่วไป เหมาะสำหรับหลังคาและอาคารพลาสติก เนื่องจากมีศักยภาพสูงในการลดอุณหภูมิภายในอาคาร

ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์พัฒนาผลิตภัณฑ์
แลนเซสส์ (LANXESS) ตั้งเป้าหมายที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลในอนาคตให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตามโมเดลธุรกิจดิจิทัลจะมีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) และทำการวิเคราะห์ รวมทั้งใช้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมาก บริษัทกำลังใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อสร้างสูตรที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการกำหนดขนาดใยแก้ว (Glass-fiber Sizings) ที่ใช้ในการเสริมแรงในพลาสติก โครงการนี้แลนเซสส์ได้ร่วมมือกับ Citrine Informatics บริษัท AI ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองเรดวูดซิตี้ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
ในเรื่องนี้คุณโซเบล หัวหน้า HPM กล่าวว่า “เราต้องการลดเวลาในการพัฒนาสูตรโดยปรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยเวลาที่ลดลงมากกว่าครึ่งเพื่อที่จะได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น”

สร้างเศรษฐกิจแบบวงกลมกับพันธมิตรทั้งหมดในห่วงโซ่คุณค่า
แลนเซสส์มุ่งมั่นที่จะสร้างวัฏจักรการใช้วัสดุแบบลูปปิด (Closed-loop Materials Cycles) ในอุตสาหกรรมการผลิตและการใช้งานพลาสติก โดยบริษัทฯ กำลังร่วมทำงานกับลูกค้าและผู้ซื้อในการเริ่มต้นโครงการนำร่องดังกล่าวนี้
"การจัดตั้งวงจรวัฏจักรวัสดุเพื่อที่จะอนุรักษ์ทรัพยากร ซึ่งวิธีนี้จะใช้ได้เฉพาะในกรณีที่พันธมิตรทั้งหมดในห่วงโซ่คุณค่าทำงานร่วมมือกัน หนึ่งในเป้าหมายของเราคือการออกแบบพลาสติกตั้งแต่แรกเริ่มในลักษณะที่ง่ายต่อการนำมารีไซเคิลเพื่อนำกลับมาใช้งานใหม่” คุณโซเบลกล่าว