การเปิดเสรีการผลิตไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นเป็นชนวนที่ทำให้เกิดการแข่งขันระหว่างบริษัทไฟฟ้าอย่างมากขึ้น กุญแจสำคัญในการกลายเป็น “ผู้ให้บริการที่ลูกค้าเลือก” คือการสร้างบริการที่เพิ่มคุณค่าและตรงกับความต้องการด้านพลังงานไฟฟ้าของลูกค้า บริษัท คันไซ อิเลกทริค เพาเวอร์ จำกัด (The Kansai Electric Power Co., Inc.: KEPCO) ใช้ข้อมูลจากมิเตอร์อัจฉริยะ เพื่อระบุรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้พักอาศัยแต่ละราย เมื่อผู้พักอาศัยมีการใช้ไฟฟ้าที่แตกต่างจากพฤติกรรมปกติก็จะมีข้อความส่งไปแจ้งยังครอบครัวของผู้พักอาศัยคนนั้นซึ่งอาจจะอยู่ที่อื่น นี่เป็นคอนเซ็ปต์เบื้องหลัง “บริการแจ้งเตือนรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle Rhythm Notification Service)” ของ KEPCO หลังจากที่ได้ทำการทดสอบภาคสนามร่วมกับฟูจิตสึ KEPCO ได้เริ่มให้บริการนี้ ซึ่งมีการรวมเทคโนโลยีที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) เข้ามาไว้ด้วย
Mr.Reijiro Matsui, ผู้จัดการ, Living Sales Planning Group สำนักงานใหญ่ด้านลูกค้า, บริษัท คันไซ อิเลกทริค เพาเวอร์ (The Kansai Electric Power Co., Inc.) กล่าวว่า เมื่อมีการใช้ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะต้องร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่างใกล้ชิด เราหวังที่จะให้บริการที่เพิ่มคุณค่ามากขึ้น โดยใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทที่อยู่ในภาคส่วนที่มีการให้บริการลูกค้าครัวเรือนแบบเผชิญหน้า เช่น บริการขนส่งสินค้าตามบ้าน และบริการพยาบาลดูแลที่แวะไปเยี่ยมตามบ้าน
การรักษาตำแหน่ง “ผู้ให้บริการที่ลูกค้าเลือก” ท่ามกลางการเปิดเสรีของตลาดบริษัทไฟฟ้า
การเปิดเสรีของตลาดไฟฟ้าในประเทศญี่ปุ่นเริ่มมีตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2016 และทำให้ครัวเรือนตลอดจนร้านค้าและผู้บริโภคทั่วไปสามารถเลือกผู้ให้บริการไฟฟ้า บริการ และโครงสร้างค่าบริการได้ตามใจชอบก่อนหน้าที่จะมีการปล่อยเสรีตลาดไฟฟ้านั้น KEPCO ได้มีการรณรงค์ให้มีการเปลี่ยนแปลงจากมิเตอร์ไฟฟ้าแบบอะนาล็อกเป็นมิเตอร์อัจฉริยะซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันข้อมูลและการสื่อสารที่รวบรวมข้อมูลสถานะการใช้ไฟฟ้าทุกๆ 30 นาที มิเตอร์อัจฉริยะเปิดทางให้ผู้ให้บริการบันทึกข้อมูลการใช้ไฟฟ้าผ่านระบบเครือข่ายแบบเรียลไทม์ ทำให้การต้องออกไปอ่านมิเตอร์ทุกเดือนแบบแต่ก่อนเป็นเรื่องล้าสมัย ซึ่งสร้างประโยชน์อย่างมหาศาล KEPCO ได้มีการผลักดันให้มีการจัดรูปแบบการแสดงข้อมูลโดยใช้มิเตอร์อัจฉริยะมาสักระยะหนึ่งแล้ว และได้พัฒนาบริการขึ้นมาเพื่อให้สอดคล้องกัน ซึ่งรวมถึง “Hapi e-Miruden” บริการเว็บแบบสมัครสมาชิกที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ตรวจสอบความถูกต้องของการใช้งานไฟฟ้าและค่าไฟรอบปัจจุบันของตนเองKazutaka Yamamoto, Living Sales Planning Group, สำนักงานใหญ่ด้านลูกค้าของ KEPCO กล่าวว่า “เราคิดถึงความเป็นไปได้ที่จะให้บริการที่ใกล้เคียงกับรูปแบบการใช้ชีวิตลูกค้าของเรามากกว่าเดิมผ่านการใช้คุณสมบัติของมิเตอร์อัจฉริยะ ซึ่งสามารถรวบรวมข้อมูลการใช้งานไฟฟ้าของแต่ละบ้านได้ทุกๆ 30 นาที สิ่งนี้เองที่ทำให้เราเปิดตัวคอนเซ็ปต์ “บริการแจ้งเตือนรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle Rhythm Notification Service)” ในปี 2016 บริการนี้ช่วยให้เราติดตามสถานะการใช้งานไฟฟ้าของผู้สูงวัยหรือผู้ที่อาศัยในบ้านคนเดียว และแจ้งครอบครัวที่อยู่ที่อื่นของผู้อาศัยเหล่านั้นเมื่อมีการใช้งานที่แตกต่างจากพฤติกรรมปกติ”
การใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อแก้ปัญหาที่ต้องใช้ตรรกะในการตัดสินใจ ซึ่งมีการสร้างรูปแบบได้ยาก
การเปลี่ยนแปลงในการใช้ไฟฟ้าตามลำดับเวลาเป็นการสะท้อนรูปแบบการใช้ชีวิตของแต่ละบ้านอย่างใกล้ชิด ดังนั้นการระบุรูปแบบการใช้งานของแต่ละครัวเรือนควรเปิดโอกาสให้ผู้ให้บริการบันทึกการเปลี่ยนแปลงในรูปแบบการใช้ชีวิตด้วยความแม่นยำสูง Mr. Amamoto กล่าวว่า “การดูกราฟยอดการใช้งานจริงได้เผยให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงหลากหลายรูปแบบในแต่ละครอบครัว แม้แต่ในบ้านเดียวกัน เรายังเห็นถึงความแตกต่างประการใหญ่ๆ ขึ้นอยู่กับวันในแต่ละสัปดาห์และแต่ละฤดูและเราได้เลือกฟูจิตสึเป็นพันธมิตรของเรา เพื่อช่วยให้เราได้รวมเอาตรรกะวิเคราะห์ที่มีความแม่นยำสูงโดยไม่เบี่ยงเบนจากสถานการณ์ในชีวิตจริงการที่เราเลือกฟูจิตสึนั้นมาจากเหตุผลหลักๆ 2 ประการด้วยกันประการแรกเลยคือ ฟูจิตสึมีประวัติด้านการวิเคราะห์ของบริการคัดสรรข้อมูล (Data Curation Service) ที่เยี่ยมยอดมาก ฟูจิตสึและ KEPCO ยังได้ทำการวิจัยร่วมกันในเรื่องการใช้มิเตอร์อัจฉริยะนับตั้งแต่ KEPCO เปิดตัวบริการ “Hapi e-Miruden” แบบสมัครสมาชิก เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ตรวจสอบความถูกต้องในการใช้ไฟฟ้าของตนเองแบบเรียลไทม์เหตุผลอีกประการคือ Marketing AI Container (ชื่อชั่วคราว) ของฟูจิตสึซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้คิดตรรกะการวิเคราะห์แม่นยำสูง
Mr.AIKazutaka Yamamoto อธิบายว่า “บริการแจ้งเตือนรูปแบบการใช้ชีวิตหรือ Lifestyle Rhythm Notification Service ของเรามีไว้ให้สำหรับทุกบ้านทีใช้มิเตอร์อัจฉริยะ ดว้ ยความทีว่าเราเราสามารถเข้าถึงระบบคลาวดท์ วางใจได้สูงของฟูจิตสึ ซึ่งช่วยให้มีการปรับขนาดข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นเมื่อข้อมูลจากการรวบรวมจากมิเตอร์อัจฉริยะที่มีการกระจายตัวไปทั่วมีปริมาณมากขึ้น เป็นจุดขายใหญ่ในครั้งนี้” Reijiro Matsui กล่าวเสริมว่า“เราสังเกตว่าฟูจิตสึมีนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลโดยเฉพาะ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญระดับสูง และเราก็มั่นใจในการพัฒนาอัลกอริทึม AI เพื่อการวิเคราะห์รูปแบบเฉพาะในแต่ละครัวเรือนของฟูจิตสึอย่างมาก”
ก้าวต่อไปเพื่อปรับปรุงความแม่นยำของการคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงและเพิ่มความหลากหลายให้กับการบริการ
หลังจากนั้น KEPCO ก็เริ่มทดสอบ “บริการแจ้งเตือนรูปแบบการใช้ชีวิต”ในภาคสนามจริง KEPCO ตระหนักว่าสถานะการใช้งานไฟฟ้าของแต่ละครัวเรือนมีความซับซ้อนกว่าที่คาดการณ์ไว้ ในการแก้ปัญหานี้ KEPCOได้ใช้บริการคัดสรรข้อมูล (Data Curation Service) ของฟูจิตสึ เพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งได้เผยให้เห็นรูปแบบหลากหลาย เช่น (1) ค่าไฟฟ้าที่ต่ำมาก (2) แนวโน้มการใช้งานบางแบบที่เห็นได้ชัด (3) ความแตกต่างอย่างมากในการใช้งานของผู้ใช้แต่ละราย (4) การใช้ไฟฟ้าในช่วงเช้าตรู่และช่วงกลางวัน และ (5) การใช้ไฟฟ้าอย่างหนักในเวลากลางคืน KEPCO ใช้เทคโนโลยีวิเคราะห์แม่นยำสูงที่อ้างอิงแมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อทำการวิเคราะห์ข้อมูลที่รวบรวมได้อย่างต่อเนื่องและมีการประมวลผลในช่วงหนึ่งปี ซึ่งช่วยให้ KEPCO ปรับอัลกอริทึม AI ที่มีความแม่นยำสูงที่จะนำไปใช้กับรูปแบบจำนวนมหาศาล และเพื่อปรับปรุงความแม่นยำในการคาดการณ์ได้ ในระหว่างที่มีการทดสอบภาคสนาม KEPCO มีการทำแบบสอบถามและการสำรวจทางโทรศัพท์กับผู้อาศัยและครอบครัวของผู้อาศัยอยู่สม่ำเสมอ
Mr.Kazutaka Yamamoto กล่าวว่า “ผลที่ได้คือเรามีความสามารถที่จะแจ้งเตือนโดยใช้ AI ได้ทันเวลาเพื่อเป็นการสะท้อนให้เห็นสถานการณ์การใช้งานจริง ผู้อาศัยหลายคนแสดงทัศนะว่าตนเองสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่รู้สึกว่ากำลังโดนจ้องมองอยู่ และครอบครัวของผู้อาศัยเหล่านั้นก็บอกว่า ตนเองรู้สึกอุ่นใจที่รู้ว่าคนที่ตนรักอยู่ปกติสุขดี ไม่ใช่แต่จะรับรู้แค่เฉพาะช่วงเวลาที่มีความผิดปกติเกิดขึ้นเท่านั้น “บริการแจ้งเตือนรูปแบบการใช้ชีวิต” เปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2017 สำหรับทุกบ้านที่มีการติดตั้งมิเตอร์อัจฉริยะ สิ่งที่คุณต้องมีคือมิเตอร์อัจฉริยะเท่านั้น แค่นี้คุณก็สามารถเข้าถึงบริการได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียค่าติดตั้งอย่างอื่นเพิ่มเติม เทียบกับบริการติดตามการใช้งานรูปแบบปกติ และการใช้ตรรกะการตัดสินใจที่อิงจาก AI ที่เพิ่มขึ้นนี้ นำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นและปรับให้เหมาะกับแต่ละครอบครัว ซึ่งเป็นข้อดีอีกหนึ่งข้อใหญ่
“เมื่อมีการใช้ AI และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ เป็นเรื่องสำคัญที่สุดที่จะต้องร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะอย่างใกล้ชิด เราหวังที่จะให้บริการที่เพิ่มคุณค่ามากขึ้น โดยใช้ความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับบริษัทที่อยู่ในภาคส่วนที่มีการให้บริการลูกค้าครัวเรือนแต่ละรายโดยตรง เช่น ปัญหาสังคมอย่างบริการขนส่งสินค้าตามบ้าน และบริการพยาบาลดูแลที่แวะไปเยี่ยมตามบ้าน” Reijiro Matsui กล่าวสรุปนอกจากการทำนายรูปแบบการใช้ชีวิตแล้ว ข้อมูลที่มาจากมิเตอร์อัจฉริยะสามารถนำมาใช้ในทางอื่นๆ ได้อีก เช่น การจัดการสถานที่อาศัยที่ไม่มีผู้อาศัยอยู่ เราเชื่อว่ามาตรการที่ KEPCO ใช้สามารถมีการขยายเพื่อกระตุ้นการโต้ตอบกับผู้คนพร้อมกับรักษาความปลอดภัยในชุมชนท้องถิ่น และแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมผู้สูงอายุและสังคมเมืองของประเทศญี่ปุ่น