ปัจจุบันนอกจากประเทศจีนที่ได้ชื่อว่าเป็นแผ่นดินให้กำเนิดอีคอมเมิร์ซมูลค้ามหาศาลหลายรายแล้ว ก็เห็นจะมีประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เหล่านักลงทุนพากันจับตามอง ด้วยเหตุนี้เราจึงหยิบยกเอา Map of eCommerce งานวิจัยที่เก็บข้อมูลจำนวนผู้เข้าชมสินค้า ยอดผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น และยอดผู้ติดตามในสื่อโซเชียลของทุก ๆ ไตรมาสมาวิเคราะห์จนได้ผลลัพท์ว่า ‘ใครคือ 3 ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสายแข็งที่แท้จริงใน 6 ประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อันได้แก่ มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม, ฟิลิปปินส์ และไทย’
ประเทศมาเลเซีย ตลาดอีคอมเมิร์ซที่นักลงทุนมือทองพร้อมร้านค้าอีคอมเมิร์ซหน้าใหม่พากันเข้ามาตั้งถิ่นฐาน จนอาจเรียกได้ว่าเมืองหลวงอย่างกัวลาลัมเปอร์หาคนพื้นเมืองเดินผ่านไป-มา ยากเข้าไปทุกที
- LAZADA ก็ยังคงเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซเจ้าประจำตามคาด ซึ่งมียอดผู้เข้าชมสินค้ารายเดือนเฉลี่ยสูงถึง 28 ล้านคน แต่หากนำข้อมูลมาเทียบกับไตรมาสแรกของปีจำนวนผู้เข้าชมสินค้าถือว่าลดลงถึง 20 ล้านคนเลยทีเดียว (จาก 48 เป็น 28 ล้านคน) แต่ในทางกลับกันจำนวนยอดผู้ติดตามทาง Facebook ในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกถึง 3 ล้านคน (จาก 22 เป็น 25 ล้านคน)
- Shopee ร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มียอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสูงสุดจาก AppStore และ PlayStore ทั้งไตรมาสที่ 1 และ 2 มีจำนวนผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือน 3 ล้านคน ซึ่งลดลงจากไตรมาสแรก 1.4 ล้านคน
- 11 Street ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสัญชาติเกาหลีก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าใคร ไม่ว่าจะด้วยจำนวนผู้เข้าชมสินค้าต่อเดือน 4 ล้านคน พร้อมเป็นที่หนึ่งในด้านจำนวนผู้ติดตามสูงสุดทาง Twitter (45,331 คน) แต่ยอดการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทาง AppStore ลดลงมาอยู่อันดับที่ 4 จาก 3 (Zalora ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3)
ประเทศอินโดนีเซีย ถือเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่กำลังมาแรงที่สุดในขณะนี้ อาจด้วยประชากรที่มีมากกว่าทุกประเทศในภูมิภาคเดียวกันทำให้ร้านค้าอีคอมเมิร์ซในประเทศนี้มียอดเข้าชมเป็นร้อยล้านคนโดยเฉลี่ยต่อเดือน
- Tokopedia ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสัญชาติอินโดนีเซียนโดยแท้ มียอดผู้เข้าชมสินค้าต่อเดือนโดยเฉลี่ยถึง 111 ล้านคน จึงเหมือนเป็นการบอกกลาย ๆ ว่าประเทศนี้คือนักอนุรักษ์นิยมที่เลือกช้อปจากร้านค้าสัญชาติเดียวกับตนเองอย่างแท้จริง ซึ่งในไตรมาสนี้ Tokopedia ได้ขยับอันดับจากที่ 2 มาเป็นที่ 1 ในส่วนของยอดการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจะอยู่อันดับที่ 2 จาก AppStore และอันดับ 3 จาก PlayStore (ไตรมาสแรกอยู่ที่อันดับที่ 2)
- Bukalapak อีกหนึ่งร้านค้าสาย Local ที่ชาวอินโดนีเซียนคุ้นหูเป็นอย่างดี มียอดผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 85 ล้านคน ซึ่งลดลงจากไตรมาสแรกประมาณ 8 ล้านคน แต่ก็ขยับขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 จากอันดับที่ 3 ในไตรมาสแรก อยู่ในอันดับที่ 4 จากจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทั้งจาก AppStore และ PlayStore
- LAZADA ร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ไม่ว่าประเทศใดในภูมิภาคก็ต้องรู้จัก มีจำนวนผู้ติดตามทาง Facebook มาเป็นอันดับที่ 1 (25.2 ล้านคน) แต่จำนวนผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือนลดลงอย่างน่าใจหาย (จาก 5 เป็น 50 ล้านคน) แต่จำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทั้งจาก AppStore และ PlayStore ขยับขึ้นจากอันดับที่ 4 เป็น 3 (AppStore) และอันดับที่ 3 เป็น 2 (PlayStore) จากไตรมาสแรก
ประเทศเวียดนาม อีกหนึ่งตลาดอีคอมเมิร์ซแบบ Non-Eng Speaking ที่กำลังมาแรง มีเจ้าตลาดเป็นร้านค้าสาย Local
- LAZADA ถือเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซสาย International ที่บุกตลาดในทุกประเทศได้อย่างแท้จริง มียอดผู้เข้าชมสินค้าต่อเดือนโดยเฉลี่ยในไตรมาส 2 ถึง 32 ล้านคน (ลดลงจากไตรมาสแรก 10 ล้านคน) เสริมทับด้วยจำนวนผู้ติดตามทาง Facebook ที่ขยับเพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรก 3 ล้านคน (จาก 22 เป็น 25 ล้านคน) ในด้านจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นจะอยู่ในลำดับที่ 2 ทั้งจาก AppStore และ PlayStore
- The Gioi Di Dong ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสัญชาติเวียดนามที่ครองอันดับที่ 2 มาตั้งแต่ไตรมาสแรก มียอดผู้เข้าชมสินค้าเฉลี่ยต่อเดือนในไตรมาสสองที่ 6 ล้านคน (ลดลงจากไตรมาสแรก 9.5 ล้านคน) แต่ได้ขยับตำแหน่งจาก 7 ขึ้นเป็น 5 ของยอดดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นใน AppStore
- Shopee อีกหนึ่งร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ผลัดกันรุกผลัดกันรับกับ LAZADA มาโดยตลอด ในไตรมาสนี้มีจำนวนผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือนเพิ่มขึ้นจาก 6 เป็น 26.4 ล้านคน พร้อมยอดผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทั้งจาก AppStore และ PlayStore สูงสุดอีกด้วย
ประเทศฟิลิปปินส์ ถือเป็นตลาดอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่ที่อัดแน่นไปด้วยร้านค้าอีคอมเมิร์ซสาย Local แม้ร้านค้าที่ติดอันดับต้น ๆ จะเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซสาย International เป็นส่วนใหญ่ก็ตาม
- LAZADA มีจำนวนผู้เข้าชมโดยเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 30 ล้านคน พร้อมครองตำแหน่งอันดับที่ 1 ในสื่อโซเชียลมีเดียยอดนิยมอันได้แก่ Twitter, Instagram และ Facebook
- Shopee แน่นอนว่าประเทศใดมี LAZADA ก็ต้องมี Shopee ถึงแม้จำนวนผู้เข้าชมสินค้ารายเดือนโดยเฉลี่ยในไตรมาส 2 นี้ จะไม่มากเท่าใดนัก (จาก 1 ลดลงมาเหลือ 8.4 ล้านคน) แต่ก็เป็นร้านค้าที่ครองตำแหน่งผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสูงสุดทั้งจาก AppStore และ PlayStore มาตั้งแต่ไตรมาสแรก
- ZALORA ที่นอกจากเป็นแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังแล้ว ยังติดอันดับร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่สาว ๆ ทั้งหลายล้วนรู้จักเป็นอย่างดี สำหรับตลาดฟิลิปปินส์ ZALORA ถือเป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซยอดนิยมติดอันดับ 3 โดยมียอดผู้เข้าชมสินค้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 6 ล้านคน แม้จะลดจากเดิมในไตรมาสแรกถึง 1.4 ล้านคน ก็ตาม ควบคู่ไปกับการติดอันดับที่ 3 ด้านจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทั้งจาก AppStore และ PlayStore
ประเทศสิงคโปร์ ตลาดอีคอมเมิร์ซเล็ก ๆ ที่อาจมีพื้นที่เพียงจังหวัดหนึ่งในไทยเท่านั้น แต่ศักยภาพด้านมูลค้าอีคอมเมิร์ซกลับไม่ได้เล็กตามพื้นที่ไปด้วย พิสูจน์ได้จากร้านค้าอีคอมเมิร์ซชื่อดังอย่าง LAZADA ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศนี้
- Qoo10 ร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงใน 2 ประเทศด้วยกัน ได้แก่ มาเลเซีย และสิงคโปร์ แต่ต่างกันที่ความนิยม ซึ่งในตลาดสิงคโปร์นี้ Qoo10 เป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มียอดผู้เข้าสินค้าเฉลี่ยต่อเดือนราว 10 ล้านคน (ลดลงจากไตรมาสแรกราว 4 ล้านคน) ต่างจากจำนวนผู้เข้าชมสินค้าในประเทศมาเลเซียที่มีเพียง 9 แสนคนเท่านั้น ในส่วนของยอดการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทั้งจาก AppStore และ PlayStore จะอยู่ในอันดับที่ 3
- LAZADA มีผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือน 5 ล้านคน แม้จะเป็นมีประเทศต้นกำเนิดมาจากสิงคโปร์ แต่เพราะ Qoo10 เปิดมาก่อน LAZADA จึงมี Brand Royalty อย่างไรก็ตามร้านค้านี้ก็มีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสูงสุดทั้งจาก PlayStore และ AppStore
- Shopee ร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มักติดอันดับ 1 ใน 4 ของทุกประเทศอยู่เสมอ ในตลาดนี้ Shopee มียอดผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ 8 ล้านคน มีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นเป็นอันดับที่ 2 ตั้งแต่ไตรมาสแรก พร้อมยอดผู้ติดตามทาง Facebook ที่ขยับจาก 9 ล้านคน มาเป็น 11.3 ล้านคน ได้ภายในระยะเวลาเพียงไตรมาสเดียว
ประเทศไทย ส่วนใหญ่ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสาย Local ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้มักเป็นร้านที่เคยประกอบธุรกิจแบบออฟไลน์มาก่อน แล้วมาขยายธุรกิจเป็นออนไลน์เพื่อให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
- LAZADA ปฎิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ถ้าคนไทยคิดจะช้อปสินค้าออนไลน์ก็ต้องคิดถึงร้านค้าอีคอมเมิร์ซนี้ก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้มีจำนวนผู้เข้าชมสินค้าเฉลี่ยต่อเดือนสูงถึง 40 ล้านคน พร้อมมีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นสูงสุงทั้งจาก AppStore และ PlayStore เสริมทับด้วยการมียอดผู้ติดตามสูงสุดทั้งจาก LINE (20.4 ล้านคน) และ Facebook (25.2 ล้านคน)
- Shopee มียอดผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ยต่อเดือนที่ 15 ล้านคน พร้อมมีผู้ติดตามทาง Instagram เกือบ 3 แสนคน มากกว่าไตรมาสแรกประมาณ 1 หมื่นคน
- Chilindo ร้านค้าอีคอมเมิร์ซสัญชาติไทยรูปแบบการประมูลสินค้า ปัจจุบันมียอดผู้เข้าชมสินค้าโดยเฉลี่ย 5 ล้านคนต่อเดือน (ลดลงจากไตรมาสแรกประมาณ 7 ล้านคน) มีจำนวนผู้ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นทั้งจาก AppStore และ PlayStore มาเป็นอันดับที่ 3
จากงานวิจัย Map of eCommerce นี้ พบว่า LAZADA คือร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่มีผู้ใช้บริการมากที่สุดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) อันได้แก่ ประเทศไทย, มาเลเซีย, เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ส่วนในสิงคโปร์ Qoo10 เป็นร้านค้าอีคอมเมิร์ซที่ได้รับความนิยมที่สุด เพราะเปิดให้บริการมาก่อน LAZADA ถึง 2 ปี สุดท้ายในประเทศอินโดนีเซีย Tokopedia จะมีผู้ใช้บริการมากที่สุด ซึ่งเป็นร้านค้าสาย Local ประเทศแรกที่ได้ขึ้นแท่นเป็นอันดับที่ 1 ชี้ให้เห็นถึงความเป็นชาตินิยมของประเทศนี้ได้อย่างชัดเจน
ขั้นตอนการศึกษาข้อมูล
Map of eCommerce เป็นงานวิจัยที่ iPrice Group รวบรวมร้านค้าที่มีผู้เข้าชมอย่างน้อย 1 แสนคนต่อเดือนหรือมีผู้ติดตามในโซเชียลมีเดียอย่างน้อย 1 แสนคน ร้านค้าเหล่านี้ไม่รวมร้านขายตั๋ว, ไฟแนนซ์, กองทุน, คูปอง, บริการส่งอาหาร,ประกัน, บริการส่งสินค้า, เว็บ meta search คลาสสิฟายด์ และโฆษณา ในส่วนของข้อมูลการจัดอันดับต่าง ๆ จะแบ่งเป็น 3 หัวข้อด้วยกัน ได้แก่ จัดอันดับผู้เข้าชมโดยเฉลี่ยต่อเดือน (ที่มา: SimilarWeb), จัดอันดับแอพฯช้อปปิ้งโดยเฉลี่ยต่อเดือน (ที่มา: App Annie) และจำนวนผู้ติดามในโซเชียลมีเดีย (ที่มา : Facebook, LINE & Instagram) ซึ่งจำนวนผู้ติดตามในเฟซบุ๊คนำมาจากข้อมูลแฟนเพจเฉพาะของแต่ละประเทศ ยกเว้นเฟซบุ๊คของร้านค้าออนไลน์ในระดับภูมิภาคที่ข้อมูลระดับประเทศไม่มีการเปิดเผยทางสาธารณะ และจำนวนพนักงาน (ที่มา : Linkedin) ข้อมูลที่แสดง (n/a) คือไม่ปรากฏจำนวนพนักงาน
เขียนและวิเคราะห์โดย: ขนิษฐา สาสะกุล iPrice