ไม่ใช่แค่เทคโนโลยี 4.0 ที่สร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในโลกธุรกิจสถานพยาบาลที่เผชิญกับความท้าทายใหม่ ๆ แต่จุดที่สำคัญคือความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการบริหารต้นทุนด้านการบริหาร ที่นำมาจัดการเพื่อการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุด มีครบทุกมุมมองใน HMA2018 ที่จัดขึ้นในประเทศไทยครั้งนี้
Hospital Management Asia (HMA) 2018 งานสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบธุรกิจนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการปรับปรุงการจัดการระบบการดูแลสุขภาพ เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ผู้บริหารโรงพยาบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจากทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมารวมตัวกัน ณ ประเทศไทย
หัวข้อการพูดคุยใน HMA 2018 นั้นจะประกอบไปด้วย 5 หัวข้อ โดยที่มีทั้งหัวข้อเฉพาะสำหรับระดับผู้บริหารโรงพบาบาลเอกชนในการหารือเกี่ยวกับความยั่งยืนทางการเงินผ่านการลงทุนผล รวมถึงกระทบของนโยบายสาธารณะสำหรับการให้บริการโรงพยาบาลและวิธีการจัดการกับความท้าทายในการดำเนินการตามค่าการดูแล ยังรวมถึงหัวข้อการสัมมนาอื่นๆ ได้แก่ ความปลอดภัย, คุณภาพและการรับรองระบบการดูแลผู้ป่วยและการมีส่วนร่วม, การจัดการบุคลากรในธุรกิจสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีในยุค Healthcare 4.0
ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับฟังความรู้มากมายในหัวข้อต่าง ๆ เช่นเทคโนโลยีล่าสุดสำหรับการดูแลสุขภาพการลดต้นทุนและความปลอดภัยของผู้ป่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วย นอกจากนั้นยังจะมีการกล่าวถึงเรื่องของ Healthcare 4.0 และการลงทุนในโรงพยาบาลและการดูแลสุขภาพทั่วทั้งเอเชียและเรื่องของการแก้ไขปัญหาด้านบุคคลากรทางด้านอุตสาหกรรมสาธารณสุขและการดูแลสุขภาพ
นพ.พงษ์พัฒน์ ปธานวนิช ประธานกรรมการที่ปรึกษาการจัดงาน HMA และประธานสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยกำลังเดินหน้าเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ การมีประชากรสูงอายุมากกว่าอัตราการเกิดนี้ส่งสัญญาณในเรื่องของการดูแลสุขภาพที่สูงขึ้นตามมาด้วย และที่มากไปกว่าเรื่องของการสาธารณสุขก็คือสภาพแวดล้อมทั้งหลายที่ต้องเตรียมพร้อมในการสร้างและดูแลสังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย”
“HMA 2018 จะเป็นเวทีที่สำคัญโดยเฉพาะกับบุคลากรในธุรกิจการแพทย์ภาคเอกชน ได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ใหม่ๆ ทั้งในด้านของเทคโนโลยี องค์ความรู้ในการจัดการทั้งในแง่ของการฏระเบียบใหม่ ๆ รวมไปถึงได้เรียนรู้และได้เห็นอนาคตของวงการธุรกิจโรงพยาบาลในอนาคตว่าจะมีโฉมหน้าไปอย่างไร อย่างเช่น โรงพยาบาลยุค 4.0 ที่ทุกอย่างกำลังเปลี่ยนไปสู่รูปแบบการทำงานแบบดิจิทัล ซึ่งวันนี้หลายโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยกำลังเริ่มเดินหน้าไปแต่ก็ยังมีอีกหลายส่วนที่ต้องทำให้สมบูรณ์”
“ที่สำคัญที่สุดใน HMA 2018 ที่กรุงเทพครั้งนี้ก็คือ เวทีที่รวมกันของบรรดาผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในการร่วมกันเพื่อหารือและแบ่งปันประสบการณ์ รวมถึงหัวข้อเสวนาต่าง ๆ ในเรื่องของการบริหารและจัดการในธุรกิจโรงพยาบาลยุคใหม่ เช่น การบริหารต้นทุนในการนำเอาเทคโนโลยียุคใหม่มาใช้เพราะการนำเอาเทคโนโลยีที่ดีและทันสมัยที่สุดไม่ได้บอกถึงระดับความสามารถที่แท้จริงในการให้การรักษาพยาบาลกับตนไข้ แต่การเลือกสิ่งที่ดีและเหมาะสมกับต้นทุนและค่าดำเนินการต่างหากจะส่งผลที่ดีต่อทั้งธุรกิจและคนไข้ เพราะสิ่งเหล่านี้จะสะท้อนกลับไปที่ต้นทุนของโรงพยาบาลและส่งผลไปถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นกับคนไข้โดยตรง”
นพ.พงษ์พัฒน์ เสริมถึงเนื้อหาในหัวข้อการสัมมนา HMA 2018 ครั้งนี้ว่า “หนึ่งในหัวข้อที่น่าสนใจและเป็นเรื่องสำคัญที่วงการสาธารณสุขในประเทศไทยนั้นควรจะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ นั่นก็คือแนวคิดที่เรียกว่า Integrated Care หรือการดูแลในแบบองค์รวมที่ไม่ได้มองโรคที่คนไข้หรือผู้เข้าทำการรักษาแยกแต่ละโรคและแบ่งความรับผิดชอบของหมอแต่ละคน หากแต่ว่าจะมีการหาหมอหรือเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่เป็นเหมือนเจ้าภาพและมีการร่วมให้ความเห็นในการรักษาหรือการให้ยาแต่ละอย่างกับคนไข้ เพราะในทุกการลงมือหรือการให้ยาใดก็ตามแม้จะสามารถรักษาอาการบางอย่างได้ แต่ก็สามารถสร้างปัญหาหรืออาการข้างเคียงให้กับระบบภายในร่างกายได้เช่นเดียวกัน”
“HMA 2018 ถือเป็นพื้นที่ที่อยากให้ทุกคนในวงการสาธารณสุขของไทยได้เข้ามามีส่วนร่วม เอาเฉพาะแค่ว่าได้เข้ามาเห็นถึงแนวคิดของการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Healthcare 4.0 ตามนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ของรัฐบาลนี้ก็ถือว่าคุ้มค่าสำหรับระดับบุคคลากรทั่วไปแล้ว ส่วนระดับผู้บริหารองค์กรทางด้านการแพทย์นั้นยิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามาได้เรียนรู้วิธีการและแนวคิดในการพัฒนาองค์กรไปสู่ระดับสากล เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานให้แวดวงสาธารณสุขของไทยให้ดีขึ้น ยังผลไปสู่การทำให้ประชาชนชาวไทยนั้นมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในอนาคต ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลจะไม่ได้เป็นแค่ที่รักษาอาการป่วยอีกต่อไปแต่จะกลายเป็นสถานที่ในการดูแลทางด้านสุขภาพที่ดี ถือว่าเป็นแนวทางในการต่อยอดธุรกิจในอนาคตที่สดใสยิ่งกว่าปัจจุบัน”
นพ.พงษ์พัฒน์ เสริม
ริชาร์ด ไอร์แลนด์ กรรมการผู้จัดการ ของ Clarion Events ในฐานะรับหน้าที่ดูแลการจัดงานให้ความเห็นว่า “HMA 2018 เป็นการจัดงานครั้งที่ 17 ซึ่งจะสะท้อนให้วงการสาธารณสุขในภูมิภาคนี้ได้เห็นว่า Healthcare 4.0 เป็นเรื่องที่มีความสำคัญมากสำหรับวงการธุรกิจโรงพยาบาล เพราะมันเป็นตัวผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่โลกของดิจิทัลให้กับการจัดเก็บข้อมูลทางการแพทย์ ซึ่งหมายถึงส่งผลไปสู่ความปลอดภัยให้กับตัวคนไข้และทำให้สถานพยาบาลต่างๆ นั้นสามารถดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับประเทศไทยนั้นหลังจากที่รัฐบาลประกาศเรื่องของนโยบาย ประเทศไทย 4.0 ทำให้ภาคธุรกิจสถานพยาบาลนั้นก็เป็นอีกสาขาหนึ่งที่กำลังปรับตัวไปสู่ยุค 4.0 เช่นเดียวกัน ด้วยการปรับกระบวนการทำงานต่างๆ ไปสู่ดิจิทัล ซึ่งเป็นเหมือนกับอีกหลายประเทศที่กำลังเดินหน้าไปสู่จุดหมายเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น สิงคโปร์หรือฮ่องกง”
“สำหรับในแง่ของเทคโนโลยีก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กำลังเข้ามามีส่วนสำคัญ และดูเหมือนว่าสิ่งเหล่านี้กำลังพัฒนาและเติบโตไปอย่างรวดเร็ว การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีอย่าง ปัญญาประดิษฐ์หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เหล่านี้ล้วนมีส่วนเข้ามาสร้างผลกระทบอย่างมากกับธุรกิจด้านสุขภาพ หากมองกันแบบในระดับเบื้องต้นอาจจะเห็นว่าสิ่งนี้จะทำให้เรื่องของการเก็บข้อมูลและประเมินตัวข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งการมีข้อมูลที่ดีขึ้นนั้นจะสามารถช่วยให้แพทย์สามารถวิเคราะห์อาการป่วยของคนไข้ได้ถูกต้องและรวดเร็วกว่า แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นวันนี้เรามองเห็นแล้วว่า ปัญญาประดิษฐ์หรือการมีเทคโนโลยีในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกนั้น สามารถเข้ามาช่วยวงการแพทย์ในเรื่องการวิเคราะห์โรคบังเกิดใหม่ได้เร็วขึ้น รวมถึงการค้นหาสาเหตุและวิธีการรักษาในโรคที่มนุษยชาตินั้นต้องต่อสู้มาเป็นเวลานาน เหล่านี้ล้วนจะเข้ามาทำให้โลกของวงการแพทย์นั้นช่วยให้มนุษย์นั้นมีอายุที่ยืนยาวมากขึ้น”
“แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เราต้องระมัดระวังไว้ก็คือเมื่อทุกอย่างกลายเป็นข้อมูลแบบดิจิทัลแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังในแง่มุมของความปลอดภัยในเรื่องของการรั่วไหลในตัวข้อมูลของคนไข้ไปสู่สาธารณะ ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้เป็นเรื่องในแง่ทางเทคโนโลยีแต่ทุก ๆ คนในธุรกิจนี้จำเป็นต้องเรียนรู้และให้ความสำคัญกับมันเป็นอย่างยิ่งไม่แพ้การมองหาแนวทางใหม่ๆ สำหรับการรักษาหรือบริหารธุรกิจให้มีประสิทธิภาพบนต้นทุนที่เหมาะสม ซึ่งใน HMA 2018 จะเป็นเวทีสำคัญที่ทุกคนในวงการการแพทย์และโรงพยาบาลนั้นจะได้เข้ามาเรียนรู้” ริชาร์ด เสริม
งาน HMA จัดโดยคลาเรียนอีเว้นท์ (Clarion Events) และสมาคมโรงพยาบาลเอกชน (ประเทศไทย)
ท่านที่สนใจ สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานสัมมนาได้ที่ www.hospitalmanagementasia.com
เกี่ยวกับงานสัมมนา Hospital Management Asia 2018
Hospital Management Asia (HMA) เป็นเวทีระดับภูมิภาคประจำปีสำหรับเจ้าของโรงพยาบาล, ผู้บริหารระดับสูง, กรรมการและผู้นำด้านการดูแลสุขภาพในเครือข่ายร่วมมือและแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการจัดการด้านสุขภาพและการแก้ปัญหาเพื่อกำหนดอนาคตของอุตสาหกรรมในเอเชีย การจัดงานในปีที่ 17 นี้คาดว่าจะมีวิทยากรมากกว่า 80 คน เจ้าของโรงพยาบาลมากกว่า 1,000 ราย ผู้บริหารระดับสูง กรรมการแพทย์และผู้นำด้านการดูแลสุขภาพจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยงานนี้จะจัดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 13-14 กันยายน ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย งาน Hospital Management Asia 2018 เป็นงานที่ร่วมจัดโดยสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแห่งประเทศไทย และได้รับการสนับสนุนจากสมาคมแพทย์ชั้นนำ 19 แห่งในเอเชีย
เกี่ยวกับ Clarion Events
Clarion Event ก่อตั้งขึ้นในปี 2490 เราคือห นึ่งในผู้จัดงานชั้นนำของโลก ทั้งในด้านการผลิตและนำเสนอกิจกรรมที่เป็นนวัตกรรมและกิจกรรมทางการตลาดชั้นนำ โดยมีพนักงาน 950 คนใน 13 สำนักงานทั่วโลกที่มีความเชี่ยวชาญในการนำเสนอโซลูชันที่ยอดเยี่ยมทั้งในด้านการตลาด, การสร้างเครือข่ายและโซลูชั่นด้านข้อมูลข่าวสารมูลค่าสูงทั้งในตลาดทั่วไปและกลุ่มตลาดเกิดใหม่ ลูกค้าของ Clarion ใช้ช่วงการจัดนิทรรศการการประชุมงานแสดงสินค้าและเว็บไซต์ต่างๆ ของเราในการกำหนดเป้าหมายธุรกิจใหม่ รวมถึงสาธิตผลิตภัณฑ์ สร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูกค้า และค้นหาโอกาสใหม่ๆ ในการปรับปรุงประสิทธิภาพ ตลาดหลักที่สำคัญที่สุดของเรา ได้แก่ พลังงาน กลาโหม และความปลอดภัย โทรคมนาคม การชำระเงิน การค้าปลีก โครงสร้างพื้นฐานและแหล่งข้อมูล