กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล เชิญชวน ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยสมัครขอใช้เครื่องหมาย ผ่านทางเว็บไซต์
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ผลักดันโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล เชิญชวน ผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยสมัครขอใช้เครื่องหมายผ่านทางเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น หวังสนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้เป็นที่ยอมรับ และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อ-ขายสินค้าแบบออนไลน์ คาดการณ์ตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยปีหน้ายังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง |
นายคณิสสร นาวานุเคราะห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า จากผลการสำรวจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e- Commerce) ของไทย ปี 2549 ที่ผ่านมาพบว่า มูลค่าการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์กว่า 305,159 ล้านบาท เป็นการซื้อขายออนไลน์ทางภาครัฐผ่านระบบ e-auction ถึง 176,683 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 57.9 ตามด้วยการซื้อขายสินค้าแบบธุรกิจกับธุรกิจ (B to B) ประมาณ 79,726 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 26.1 ขณะที่มูลค่าการซื้อขายสินค้าระหว่างธุรกิจกับผู้บริโภค (B to C) มีเพียง 47,501 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 15.6 เท่านั้น ซึ่งตัวเลขมูลค่าการซื้อขายของ B to C นี้ ยังขยายตัวได้อีกมากหากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นในการซื้อหรือขายสินค้าผ่านทางอินเทอร์เน็ต |
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จึงเปิดตัวโครงการ Trustmark ไทยสู่ตลาดสากล ซึ่งเป็นโครงการออกเครื่องหมายรับรองความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่อสนับสนุนผู้ ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทยให้เป็นที่ยอมรับและน่าเชื่อถือของผู้บริโภค ซึ่งโครงการดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างแท้จริง เพราะในบางประเทศนั้น ผู้ประกอบการต้องเสียค่าธรรมเนียมการขอใช้เครื่องหมาย Trustmark ในอัตราที่ค่อนข้างสูง |
|
ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการ Trustmark ได้ ผ่านทางเว็บไซต์ www.trustmarkthai.com โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เพียงผู้สมัครอัพโหลดเอกสารประกอบการสมัครผ่านหน้าเว็บฯ จากนั้นจะสามารถทราบผลการสมัครทางอีเมล์ภายใน 20 วันทำการ หากเว็บไซต์นั้นมีคุณสมบัติครบถ้วนจะได้รับเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์ “Verified” เพื่อนำไปแสดงบนหน้าเว็บไซต์ และผู้สมัครจะต้องทำการต่ออายุเครื่องหมายทุก ๆ 1 ปี |
|
โครงการ Trustmark นั้นจะเป็นประโยชน์ทั้งในส่วนของผู้ประกอบการ คือ สามารถแสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีความน่าเชื่อถือ และมีแนวปฏิบัติในการดำเนินธุรกิจที่ดี ผ่านการรับรองจากกรมพัฒนาธุรกิจ และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างความแตกต่างและสร้างศักยภาพในการแข่งขัน รวมทั้งช่วยขยายโอกาสในการสร้างตลาดใหม่ๆ ให้กับสินค้าและบริการได้ |
และในส่วนของผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์ คือ เมื่อใช้บริการของเว็บไซต์ที่เข้าร่วมโครงการ Trustmark แล้ว สามารถมั่นใจว่าเป็นเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้ โดยจะมีเครื่องหมายที่มีสัญลักษณ์คำว่า "Verified" รับรองความน่าเชื่อถือปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นั้นๆ และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ Trustmark จะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุไว้ หากมีข้อพิพาท หรือประสบปัญหา ผู้บริโภคสามารถติดต่อหรือร้องเรียนมายังกรมฯ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานั้น ๆ ได้ |
|
สำหรับคุณสมบัติของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่จะสมัครเข้าร่วมโครงการ Trustmark จะต้องเป็นนิติบุคคล ที่จดทะเบียนพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์มาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือน เป็นเจ้าของชื่อโดเมนนั้น และจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ข้อบังคับการขอใช้เครื่องหมายรับรองฯ ทั้ง 8 ข้อ ได้แก่ |
|
1. ความโปร่งใสของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ต้องมีข้อมูลเบื้องต้น เช่น ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ วิธีการติดต่อ ฯลฯ เพื่อแสดงความมีตัวตนของเว็บไซต์นั้นๆ 2. การตลาดและประชาสัมพันธ์ ต้องมีรูปแบบที่เหมาะสม ไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งกฏหมาย ความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดี 3. การให้ข้อมูลของสินค้าและบริการที่ชัดเจนและเพียงพอ เพื่อประกอบการตัดสินใจของผู้ใช้บริการ 4. การยืนยันการสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าและบริการ ต้องมีแบบฟอร์มการสั่งซื้อและวิธีกรอกข้อมูลที่ชัดเจน |
5. ระบบความปลอดภัยในการทำธุรกรรม ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ เหมาะสมกับข้อมูลที่มีการจัดเก็บและส่งผ่าน 6. การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค เว็บไซต์ของท่านจะต้องแสดงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในที่ที่ผู้บริโภคสามารถค้นหาได้สะดวก 7. มีช่องทางในการติดต่อสื่อสาร และรับเรื่องร้องทุกข์ของผู้บริโภค บนเว็บไซต์นั้นๆ 8. การคุ้มครองสิทธิเด็กและเยาวชน กรณีที่เว็บไซต์นั้นๆ มีสินค้าหรือบริการ ที่อาจมีผลกระทบต่อเด็กหรือเยาวชน ต้องจัดให้มีข้อความเตือนบนเว็บไซต์ด้วย |
"ทั้งนี้แนวโน้มการเติบโตของตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยจะยังเติบโตได้อีก เนื่องมาจากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น มูลค่าการซื้อขายสินค้าผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันมีมูลค่าสูงกว่า3 แสนล้านบาท จำนวนผู้ประกอบการอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งแนวโน้มการใช้งานอินเทอร์เน็ตของไทยที่เพิ่มสูงขึ้น จากจำนวนประชากรกว่า 60 ล้านคน มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ต่ำกว่า 8.5 ล้านคน การเปิดตัวบริการต่างๆ ของบัตรเครดิตและธนาคาร หรืออี-แบงกิ้ง ที่สร้างความน่าเชื่อถือในการชำระเงิน ถือว่ามีส่วนช่วยกระตุ้นตลาดทั้งทางตรงและทางอ้อม และกรมฯ เชื่อมั่นว่า โครงการ Trustmark จะเป็นกลไกในการผลักดันให้มูลค่าพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยมีแนวโน้มสดใสมากขึ้น" นายคณิสสรกล่าวสรุป |