โซลูชั่นซอฟต์แวร์ตระกูลแอสเพ็น คอนเน็ค (Aspen Connect) ช่วยพัฒนาการใช้งานของการเชื่อมโยงโครงข่ายอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things: IIoT) ในระยะยาวทั้งหมด
แอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ (Aspen Technology, Inc. (NASDAQ: AZPN) บริษัทผู้จำหน่ายซอฟต์แวร์ด้านการเพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset Optimization Software) ประกาศเปิดตัวโซลูชั่นซอฟต์แวร์ชื่อ แอสเพ็น เอดจ์ คอนเน็ค (Aspen Edge Connect) และ แอสเพ็น คลาวด์ คอนเน็ค (Aspen Cloud Connect) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ใหม่ล่าสุดจากซอฟต์แวร์แอสเพ็นวันที่ได้รับความนิยม (aspenONE®) ในเวอร์ชัน 10.1 ทั้งนี้ โซลูชั่นตระกูลแอสเพ็น คอนเน็ค (Aspen Connect) นี้เหมาะที่จะช่วยพัฒนาความยั่งยืนของโครงข่ายอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรม (Industrial Internet of Things: IIoT) ทั้งหมด นับตั้งแต่ระบบการทดสอบไปจนถึงกระบวนการผลิต สามารถจัดการวิเคราะห์ที่ทำงานได้อย่างอัตโนมัติแต่ให้ผลการวิเคราะห์ที่อาจนำไปสู่การตัดสินใจที่มีผลกระทบขนาดใหญ่ได้ และสามารถสร้างแอปพลิเคชั่นที่ใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิ่ร์นนิ่ง ให้แก่องค์กรประเภทที่ต้องใช้สินทรัพย์มาก มีการเชื่อมโยงเครือข่ายและนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์สูง หรือใช้ระบบคลาวด์ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเชื่อมโยงเครือข่ายและการจัดเก็บข้อมูล
ซอฟต์แวร์แอสเพ็น เอดจ์ คอนเน็คนี้จะสร้างการทำงานเชื่อมโยงโครงข่ายที่ราบรื่น ลดการหยุดชะงักการทำงานของระบบ อันจะนำไปสู่ความเสียหายที่มีมูลค่าสูงได้ ซอฟต์แวร์นี้ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการลีนุกซ์และวินโดวส์ซึ่งอุปกรณ์ที่เอดจ์ (Edge Device) ส่วนใหญ่ใช้งาน และจะทำงานร่วมกับอุปกรณ์ควบคุมกระบวนการผลิตและอุปกรณ์คอนเน็กชั่นที่เป็นแบบสมัยใหม่และแบบดั้งเดิมได้ดี ส่วนแอสเพ็น คลาวด์ คอนเน็คจะทำงานอยู่บนเซิร์ฟเวอร์และสนับสนุนโปรโตคอลการสื่อสารที่หลากหลาย ทำหน้าที่รวบรวม ลบ และวิเคราะห์ข้อมูลจากขุมข้อมูลต่าง ๆ ที่เก็บไว้ก่อนหน้านี้ ที่แหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ (Data lakes) และแหล่งข้อมูลอื่นๆ และจะนำข้อมูลเหล่านั้นมารวมเข้ากันกับกระบวนการผลิต อุปกรณ์และข้อมูลองค์กรผ่านซอฟต์แวร์แอสเพ็นวัน แมนนูแฟคเชอริ่ง เอ็กเซ็คคิวชั่น (aspenONE Manufacturing Execution: MES) และซอฟต์แวร์จัดการประสิทธิภาพสินทรัพย์ (Asset Performance Management Software: APM) เพือพัฒนาและใช้แอปพลิเคชั่นที่ต้องการความยั่งยืนและความยืดหยุ่นในการจัดขนาดได้สูง
แอสเพ็น คลาวด์ คอนเน็ครวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากขุมข้อมูลในที่ต่าง ๆ เข้ากับกระบวนการผลิต อุปกรณ์และข้อมูลองค์กรผ่านซอฟต์แวร์ MES และซอฟต์แวร์ APM เพื่อให้ได้ข้อมูลสำคัญที่ต้องการ
มร.คีทธ์ ฟลินน์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ วิจัยและพัฒนา–ด้านโครงข่าย & ความปลอดภัย แห่งแอสเพ็น เทคโนโลยี อิงค์ กล่าวว่า "การตัดสินใจทางธุรกิจที่สำคัญจำเป็นต้องมีข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญและสามารถปฏิบัติได้จริง ซึ่งกลั่นกรองได้จากการใช้เทคโนโลยีแมชชีนเลิ่ร์นนิ่งและการวิเคราะห์ขั้นสูงเท่านั้น และในยุคปัจจุบันนี้ อุตสาหกรรมมีการใช้อินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมคือ โครงข่ายข้อมูลขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์กับเครื่องจักรและเครื่องวัดอื่น ๆ ผ่านอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ดังนั้น การนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (หรือ AI) มาสนับสนุนอินเทอร์เน็ตอุตสาหกรรมที่ส่วนเอดจ์ขอบของเครือข่าย และใช้งานผ่านระบบคลาวด์มากขึ้นนั้น จะเป็นหนทางที่ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถผลักดันความน่าเชื่อถือของสถานภาพสินทรัพย์ให้มากขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากขึ้น เพิ่มผลผลิตและผลิตผลิตภัณฑ์ด้วยต้นทุนที่ต่ำลง โดยยังมีคุณภาพที่สม่ำเสมออีกด้วย"
คีทธ์เสริมว่า "ผู้นำทั่วโลกกำลังใช้วิทยาศาสตร์ของข้อมูล หรือศาสตร์แห่งการเก็บและเปลี่ยนแปลงข้อมูลไปสู่ความรู้ในการสร้างผลกำไรและความยั่งยืนของธุรกิจมากขึ้น ดังนั้น ซอฟต์แวร์ใหม่ทั้งแอสเพ็น เอดจ์ คอนเน็คและแอสเพ็น คลาวด์ คอนเน็คที่แนะนำในครั้งนี้ จะช่วยให้องค์กรใช้ข้อมูลในการเพิ่มประสิทธิภาพด้านสินทรัพย์และยกระดับการปฏิบัติงานให้สูงและยั่งยืนมากขึ้น จึงส่งผลให้องค์กรมีความคุ้มค่าจากการลงทุนสูงนั้นโดยเร็ว
โซลูชั่นตระกูลแอสเพ็น คอนเน็คเป็นโซลูชันซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพสินทรัพย์ล่าสุดของแอสเพ็นเทค อันจะช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถผลักดันขีดจำกัดของประสิทธิภาพและใช้งานสินทรัพย์ได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย นานขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งนี้ แอสเพ็น เทคกำลังทำงานร่วมกับลูกค้าหลายรายในการเพิ่มขีดความสามารถและเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุด โดยผสมผสานใช้ความเชี่ยวชาญด้านการสร้างแบบจำลองเข้ากับขั้นตอนการวิเคราะห์ขั้นสูงและเทคโนโลยีแมชชีนเลิ่ร์นนิ่งด้วยกัน
ข้อมูลเพิ่มเติมอื่น ๆ