NICE ผู้นำการให้บริการโซลูชันซอฟต์แวร์ทั้งระบบคลาวด์และ On-premise แสดงความมุ่งมั่นถึงพันธกิจในการช่วยเหลือให้ลูกค้ากลุ่มผู้ให้บริการ BFSI และผู้ให้บริการโทรคมนาคมในประเทศไทยโดดเด่นเหนือคู่แข่ง ประกาศนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับ Customer Experience ครบวงจร (End-to-End) เตรียมความพร้อมที่จะร่วมขับเคลื่อนโครงการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยไปสู่ดิจิทัลตามนโยบาย Thailand 4.0
เชอเรีย อึง (Sherie Ng) กรรมการผู้จัดการ บริษัท NICE APAC กล่าวว่า NICE มีโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมซึ่งหลายๆ บริษัทในไทยต้องการเพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่เอื้ออำนวยต่อการส่งมอบประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจแก่ลูกค้าได้อย่างโดดเด่นและราบรื่น เนื่องจาก NICE ได้ดำเนินธุรกิจในเมืองไทยมานานกว่า 2 ทศวรรษ ที่ผ่านมาผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้รับการยอมรับทั่วประเทศอย่างกว้างขวาง โซลูชันจาก NICE ถูกนำไปใช้งานอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในภาคการเงินการธนาคาร ธุรกิจประกันภัย รวมถึงธุรกิจโทรคมนาคมชั้นนำล้วนเป็นลูกค้าหลักของบริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกหรือ APAC จัดเป็นตลาดสำคัญสำหรับ NICE ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่บริษัทมุ่งมั่นขยายพันธกิจ มีการขยายทีมงานสนับสนุนคู่ค้าพันธมิตรและช่องทางการขายเพื่อรองรับ Ecosystem ของเหล่าคู่ค้าที่กำลังเติบโตขึ้น นอกจากนั้นบริษัทยังลงทุนเพิ่มขึ้นในเรื่องการอบรมให้แก่คู่ค้าที่สำคัญ อันได้แก่ Sino S Tech, JADS Comm Limited, Dimension Data และ At Vantage เพื่อร่วมทำงานเป็นทีมเดียวกับบริษัท NICE ในการบริการให้คำปรึกษา นำเสนอโซลูชันแนวทางการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ลูกค้าสามารถประสบความสำเร็จทางธุรกิจ
"บริษัท NICE ยังคงมุ่งมั่นตามแนวทางเชิงกลยุทธ์ 4 ประการสำหรับปี 2018 ได้แก่ ระบบคลาวด์ (Cloud) การติดต่อสื่อสารกับลูกค้าหลากหลายช่องทาง (Omni-channel) การวิเคราะห์การสนทนาหลากหลายช่องทาง (Analytics Solution) และระบบการทำงานแบบอัตโนมัติ (Automation) กลยุทธ์เหล่านี้ครอบคลุมถึงการนำเสนอคุณลักษณะที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นมาจากภายในบริษัทเอง ตลอดจนผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการบริษัทอื่น แนวทางการพัฒนาโซลูชันของ NICE เน้นในเรื่องระบบคลาวด์ต้องมาก่อน (Cloud-first Approach) ทำให้เกิดประสิทธิภาพด้านต้นทุน ความคล่องตัว และความปลอดภัยที่จำเป็นต่อการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ยุคดิจิทัลอย่างต่อเนื่องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน นอกจากนี้การที่เรามีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ช่วยให้ก้าวล้ำสู่ระดับที่สูงขึ้นของการใช้งานและสร้างบูรณาการได้ทั่วทั้งองค์กร เรามองว่าปัญญาประดิษฐ์ไม่ได้เป็นเรื่องล้ำสมัยของอนาคตอีกต่อไปแล้ว แต่จะเป็นตัวขับเคลื่อนเทคโนโลยีที่สำคัญซึ่งสามารถใช้ประโยชน์ได้ในปัจจุบัน เป็นเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ในเวทีการแข่งขัน โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์ของ NICE ล้วนสร้างขึ้นจากแพลตฟอร์มล้ำสมัยของปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของจักรกล (Machine Learning) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ล้ำหน้าคู่แข่ง จึงอาจกล่าวได้ว่านวัตกรรมล้ำสมัยในเรื่องปัญญาประดิษฐ์และการเรียนรู้ของจักรกลเป็นองค์ประกอบสำคัญโดดเด่นในชุดโซลูชันของ NICE โดยเฉพาะ NICE Real-time Authentication (RTA), Robotic Process Automation (RPA) และ Nexidia Analytics เป็นต้น" เชอเรีย อึง กล่าวเสริม
NICE Real-time Authentication (RTA) เป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นต่างจากผู้อื่นอย่างสิ้นเชิง ด้วยความสามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงชีวภาพเสียง (Voice Biometrics) ผ่านหลายช่องทางได้แบบเรียลไทม์โดยการใช้กราฟแสดงลักษณะเสียงพูดของมนุษย์แต่ละคน (Voice Prints) ซึ่งสร้างมาจากเสียงที่ถูกบันทึกไว้ในอดีต ลูกค้าปลายทางไม่ต้องพยายามตอบคำถามมากมายเพื่อยืนยันว่าเป็นตัวตนที่แท้จริงอีกต่อไป เป็นรูปแบบการตรวจสอบตัวตนที่แท้จริงที่มีความปลอดภัยสูง อย่างเช่น ลูกค้าโทรเข้ามาแล้วระบบวิเคราะห์และเปรียบเทียบเอกลักษณ์เสียง ก็จะทราบทันทีว่าท่านเป็นใคร โซลูชันตัวต่อไปคือ NICE Robotic Process Automation (RPA) เป็นระบบเสมือนหุ่นยนต์ที่มีความสามารถในการเรียนรู้ (Cognitive Robot) ระบบจะรวบรวมการทำงานที่ซ้ำซาก น่าเบื่อหน่าย ต้องทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ต้องการการตัดสินใจมาแปลงให้กลายเป็นระบบอัตโนมัติที่ทำงานด้วยระบบเสมือนหุ่นยนต์ ตัวอย่างเช่น พนักงานที่ทำงาน Back-office โดยเฉลี่ยใช้เวลา 80% ต่อวันในกิจกรรมเดิมๆ เช่น การกรอกแบบฟอร์ม การคำนวณซ้ำๆ หรือรับใบสั่งซื้อของลูกค้ามาดำเนินการต่อ (Processing Orders) งานเหล่านี้อาจมีความสำคัญสำหรับการสนับสนุนลูกค้า แต่สำหรับพนักงานคงเป็นงานที่น่าเบื่อ ทำลายแรงจูงใจในการทำงาน แถมยังมีข้อผิดพลาดมากมายและเสียเวลาอีกด้วย RPA จะช่วยให้งานเหล่านี้ทำได้อัตโนมัติด้วยระบบเสมือนหุ่นยนต์ช่วยลดงานที่ทำโดยมนุษย์ลงได้สูงสุดถึง 95 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว เพิ่มความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าด้วยการทำตามคำสั่งซื้อได้ถูกต้อง นอกจากนี้บริษัท NICE ยังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในทุกๆ ส่วนของธุรกิจที่มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าด้วยการนำเสนอโซลูชัน Nexidia Analytics ซึ่งเป็นโซลูชันที่ชาญฉลาดในการวิเคราะห์เสียงและการปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเพื่อค้นหามูลค่าที่มีอยู่ในข้อมูลมหาศาลของเสียง บทสนทนา วิดีโอและข้อความต่างๆ ที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured Data) ทำให้สามารถค้นหาข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลได้โดยง่าย
Darren Rushworth ประธานบริหารประจำภาคพื้นเอเซียแปซิฟิก (NICE APAC President) บริษัท NICE กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการผลักดันโครงการ Thailand 4.0 ผ่านทางโซลูชันที่ล้ำสมัยของเรา โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้บริษัทในประเทศไทยสามารถสร้างโครงสร้างพื้นฐานสู่ยุคดิจิทัลเพื่อสร้างสรรค์ประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจและเกินความคาดหวังให้แก่ลูกค้าของเขา รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานและประสิทธิภาพทางการเงินที่ดียิ่งขึ้น เรามุ่งมั่นในพันธกิจต่อประเทศไทยโดยเสนอโซลูชันที่ดีและเหมาะสมที่สุดของเราให้กับธุรกิจทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่"