บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับองค์กรส่งเสริมอุตสาหกรรมของเมืองโอตะ ประเทศญี่ปุ่น จัดพิธีเปิดเมืองอุตสาหกรรม SMEs ญี่ปุ่น โอตะ เทคโน พาร์ค (OTA Techno Park) อย่างเป็นทางการ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วย มร.โคบายาชิ  ฮิเดกิ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น ประจำประเทศไทย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยเหล่าผู้บริหารจากบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) นำโดยพลตำรวจเอกชวลิต ยอดมณี ประธาน และ นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วยมร.นิชิโน โยชิโอ นายกเทศมนตรี เมืองโอตะ ประเทศญี่ปุ่น ร่วมแสดงความยินดี ณ เมืองอุตสาหกรรมแห่งอนาคต โอตะ เทคโน พาร์ค นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี

ในเดือนกรกฎาคม 2548 บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจร่วมกับองค์กรส่งเสริมอุตสาหกรรมเมืองโอตะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อพัฒนาโครงการ โอตะ เทคโน พาร์ค (โอ ที พี) ในนิคมฯ อมตะ นคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับ SMEs จากเมืองโอตะโดยเฉพาะ ซึ่งมีอยู่กว่า 5,000 บริษัท โดยส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีความชำนาญทางด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชั้นสูง จึงใช้พื้นที่ในการผลิตไม่มาก โดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์เพื่อก่อสร้างอาคารเฟส 1 เมื่อเดือนพฤศจิกายน ในปีที่ผ่านมา

โครงการ โอ ที พี ภายใต้การบริหารของบริษัท อมตะ ซัมมิท เรดดี้ บิลท์ จำกัด (ASRB) ผู้ดำเนินกิจการพัฒนาโรงงานมาตรฐานเพื่อการอุตสาหกรรม และเป็นบริษัทในเครือของอมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) ที่ร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท ซัมมิท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)

ทั้งนี้ โครงการ โอ ที พี ตั้งอยู่บนพื้นที่รวม 20 ไร่ โดยในเฟสแรกมีมูลค่าการลงทุนประมาณ 65 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นอาคารโรงงานขนาด 2,650 ตารางเมตร โดยแบ่งย่อยเป็นห้องขนาด 320 ตารางเมตร จำนวน 8 ห้อง เพื่อใช้เป็นส่วนของการผลิต และอาคารสำนักงานขนาดกว่า 500 ตารางเมตร ซึ่งใช้เป็นอาคารบริหารส่วนกลางและจะมีเจ้าหน้าที่คอยประสานงานด้านการลงทุนอย่างครบวงจร พร้อมด้วยห้องจัดแสดงสินค้า ห้องประชุม ห้องรับแขก และอื่น ๆ เพื่อให้ลูกค้าของโอ ที พี ได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่

จากการที่บริษัทฯ จัดให้มีพื้นที่เช่าขนาดเล็กตรงตามความต้องการของนักลงทุนจากเมืองโอตะ และบริการที่ครบวงจรทั้งบริการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท การขอใบอนุญาตต่าง ๆ บริการด้านกฎหมาย การบัญชี และอื่น ๆ ทำให้โครงการ     โอ ที พี ได้รับความสนใจจากกลุ่มธุรกิจ SMEs จากเมืองโอตะเป็นอย่างมาก จึงทำให้ยอดจองพื้นที่อาคารโรงงานขณะนี้มีถึง 16 ห้อง ในขณะที่พื้นที่อาคารโรงงานในเฟสแรกมีเพียง 8 ห้องเท่านั้น จึงทำให้บริษัทฯ ต้องหารือเพื่อเตรียมขยายโครงการในเฟส 2 - 3 ต่อไป โดยคาดว่าสำหรับโครงการในเฟสที่ 2 ที่ขณะนี้มียอดจองเต็มจำนวนแล้วนั้น จะสามารถเปิดทำการได้ในต้นปี 2550 โดยมีมูลค่าการลงทุนในเฟส 2 – 3 ราว 170 ล้านบาท

ทั้งนี้ บริษัทในกลุ่มธุรกิจ SMEs จากเมืองโอตะ ที่ได้เข้าใช้พื้นที่เป็นรายแรกคือ บริษัท นัมบุ ซิล (ไทยแลนด์) จำกัด (Nambu Cly Thailand Co., Ltd.) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระบอกสูบไฮดรอลิคยี่ห้อนัมบุ สำหรับธุรกิจแม่พิมพ์ ที่ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในประเทศญี่ปุ่น พร้อมด้วยบริษัท นิชี่ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (Nishii Engineering Co., Ltd.) ผู้เชี่ยวชาญในการผลิต Optical parts และ บริษัท เอซากิ อินดัสเทรียล จำกัด (Ezaki Industrial Co., Ltd.) ผู้ผลิตท่อเหล็กสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยทั้ง 2 บริษัทจะเตรียมเข้าติดตั้งเครื่องจักรและจะสามารถดำเนินการผลิตได้ในปลายปี 2549