แลนเซสส์ (LANXESS) ผู้นำในอุตสาหกรรมสารเคมีชนิดพิเศษ ประกาศว่ายังคงมีผลกำไรเติบโตอย่างต่อเนื่อง รายได้รวมทั่วโลกในปีการเงิน 2017 ออกมาแข็งแกร่งตามคาดการณ์ โดยเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ในไตรมาสแรกของปีการเงิน 2018 เริ่มต้นได้อย่างสวยงาม
แมตเธียส แซกเชิร์ต (Matthias Zachert) ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท แลนเซสส์ กล่าวว่า “ในปีการเงินที่เพิ่งผ่านไปนี้ผลประกอบการในตัวเลขสัดส่วนทางการเงินสำคัญที่ประกาศออกมาในรายงานการเงินของปี 2017 เป็นไปตามที่ตลาดคาดหวัง เราได้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายหลายประการทั้งในแผนกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานธุรกิจ ทำให้บริษัทมีรากฐานอันมั่นคงแข็งแกร่งสำหรับอนาคตต่อไป การควบรวม Chemtura เป็นความสำเร็จในการควบรวมกิจการที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เราเคยทำมา ปรากฏผลดีอย่างชัดเจนในการปรับปรุงเพิ่มผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพให้เรามีมากขึ้น เราจึงประสบความสำเร็จอย่างดงาม มีกำไรดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของแลนเซสส์ และขยายโอกาสที่จะทำกำไรในอนาคตของทั้งกลุ่มมากยิ่งขึ้น"
ทุกกลุ่มธุรกิจมียอดขายเติบโตโดยถ้วนหน้า โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติ (EBITDA pre Exceptionals) ของปี 2017 เป็น 1.29 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นถึง 29.6% จากปีที่แล้วทำได้ 995 ล้านยูโร สูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่มีการก่อตั้งบริษัทเป็นต้นมา เป็นไปตามประมาณการที่คาดการณ์ไว้ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งนี้เป็นผลหลัก ๆ มาจากยอดรายได้ที่ขยายตัวในทุกกลุ่มธุรกิจ รวมทั้งยอดรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการควบรวมบริษัท Chemtura ในปีที่แล้ว ทำให้สัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติ (EBITDA Margin pre Exceptionals) เพิ่มขึ้นจาก 12.9% เป็น 13.3% ทำให้เข้าใกล้เป้าหมายระยะกลางที่ตั้งไว้ว่าจนถึงปี 2021 ควรจะอยู่ระหว่าง 14–18% ยอดขายรวมของทั้งกลุ่มในปี 2017 เพิ่มขึ้นถึง 25.5% เป็น 9.66 พันล้านยูโร เปรียบเทียบกับปี 2016 ที่ทำได้ 7.7 พันล้านยูโร กำไรสุทธิ (Net Income) โดยรวมเป็น 87 ล้านยูโร ลดลงจากปีก่อนหน้านั้นที่ทำได้ 192 ล้านยูโร การลดลงนี้เป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว (Significant One-time Exceptional Expense) โดยเฉพาะที่ใช้ในการควบรวมธุรกิจของ Chemtura และการรวมเครือข่ายโรงงานการผลิตและห่วงโซ่มูลค่า(Value Chains) เข้าด้วยกัน รวมทั้งภาษีที่จ่ายเพิ่มเพียงครั้งเดียวตามกฎหมายการปฏิรูปภาษีของสหรัฐอเมริกา (U.S. Tax Reform) เมื่อนำค่าใช้จ่ายพิเศษที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเหล่านี้มาปรับปรุงรายการและรวมค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (Amortization of Intangible Assets) พบว่ากำไรสุทธิกลับเพิ่มขึ้นสูงมากถึง 53.9% จาก 246 ล้านยูโรเป็น 379 ล้านยูโร
ผลประกอบการทางธุรกิจที่เข้มแข็งในปี 2017 สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในการเสนอให้เพิ่มปันผลแก่ผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริหารและคณะกรรมการกำกับดูแลเห็นพ้องตรงกันที่จะเสนอปันผลแก่ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 14% เป็น 0.80 ยูโรต่อหุ้นในการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี ณ วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2061 ที่จะถึงนี้ ทำให้มียอดจ่ายปันผลรวม 73.2 ล้านยูโร
พร้อมกับการควบร่วมกิจการกับบริษัทเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ แลนเซสส์ยังขยายตัวด้วยการขยายโรงงานของตนให้มากขึ้นไปอีกในปี 2017 ที่ผ่านมา โดยทั้งกลุ่มบริษัทมีการลงทุนประมาณ 550 ล้านยูโรในการสร้างโรงงานเพิ่มเสริมเข้าไปในเครือข่ายการผลิตระดับโลกของตน ในจำนวนนี้เป็นการลงทุนเพิ่มความแข็งแกร่งทางการผลิตด้วยการสร้างโรงงานเพิ่มขึ้นในประเทศเยอรมนีประมาณ 235 ล้านยูโร และขยายตัวไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ทำให้เกิดสมดุลย์ทางธุรกิจในปี 2017 มากขึ้น แลนเซสส์มีการตั้งสำนักงานตัวแทนขายออกไปในภูมิภาคที่มีการเติบโตค่อนข้างสูงอย่างอเมริกาและเอเชีย ซึ่งรวมทั้งประเทศไทยด้วย ทำให้สัดส่วนยอดขายในภูมิภาคอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นจาก 17% เป็น 19% ส่วนภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพิ่มขึ้นจาก 26% เป็น 28% ทั้งสองภูมิภาคนี้ทำยอดขายรวมกันได้เกือบครึ่งหนึ่งของยอดขายแลนเซสส์ทั้งหมด
ยอดขายและผลกำไรเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มธุรกิจ เริ่มต้นจากยอดรายได้ของกลุ่มธุรกิจ Advanced Intermediates ในปี 2017 มียอดรวมถึง 1.97 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 13.1% จากปี 2016 ที่มียอดขายรวม 1.74 พันล้านยูโร กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 2.8% เป็น 335 ล้านยูโรเปรียบเทียบกับ 326 ล้านยูโรของปีก่อนนี้ ยอดขายที่เพิ่มขึ้นซึ่งทำให้เห็นประสิทธิภาพในเชิงบวก เป็นผลหักลบกันระหว่างความต้องการในตลาดเกษตรกรรมที่ลดลงชดเชยด้วยการผันผวนของสกุลเงินตราต่างประเทศ (Adverse Currency Effects) ส่วนสัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 17% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 18.7% ยอดรายได้ของกลุ่มธุรกิจ Specialty Additives ในปี 2017 เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่า มียอดรวมถึง 1.6 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้นสูงถึง 90.7% จากปี 2016 ที่มียอดขายรวม 841 ล้านยูโร กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 76.8% เป็น 267 ล้านยูโรเปรียบเทียบกับ 151 ล้านยูโรของปีก่อนนี้ ผลประกอบการที่ดีเยี่ยมเกิดจากการควบรวมกิจการกับ Chemtura ทำให้ยอดรายได้เพิ่มขึ้นอย่างสูงและส่งผลบวกต่อผลกำไร สัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 16.6% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 18% ยอดรายได้ของกลุ่มธุรกิจ Performance Chemicals ในปี 2017 มียอดรวมถึง 1.44 พันล้านยูโร เพิ่มขึ้น 10.5% จากปี 2016 ที่มียอดขายรวม 1.3 พันล้านยูโร กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 13% เป็น 252 ล้านยูโรเปรียบเทียบกับ 223 ล้านยูโรของปีก่อนนี้ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นมาจากยอดรายได้ที่เติบโตขึ้นค่อนข้างสูง และการควบรวมกิจการหน่วยธุรกิจ Clean and Disinfect ของ Chemours สัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 17.5% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 17.1% ยอดรายได้ของกลุ่มธุรกิจ Engineering Materials ในปี 2017 มียอดรายได้รวมเพิ่มขึ้น 29.4% จากปี 2016 ที่มียอดขายรวม 1.06 พันล้านยูโรเป็น 1.37 พันล้านยูโร กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 37.7% เป็น 219 ล้านยูโรเปรียบเทียบกับ 159 ล้านยูโรของปีก่อนนี้ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นนี้มาจากการควบรวมกิจการหน่วยธุรกิจ Urethanes ของ Chemours รวมทั้งราคาขายและยอดขายที่สูงขึ้นส่วนสัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 16% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 15.1% ยอดรายได้ของกลุ่มธุรกิจ ARLANXEO ในปี 2017 มียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 19.2% จากปี 2016 เป็น 3.23 พันล้านยูโรจาก 2.71 พันล้านยูโรของปีก่อนหน้า กำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติเพิ่มขึ้น 3.2% เป็น 385 ล้านยูโรเปรียบเทียบกับ 373 ล้านยูโรของปีก่อนนี้ ผลกำไรที่เพิ่มขึ้นน้อยนี้เป็นผลมาจากจากการแข่งขันในตลาดนี้ที่ค่อนข้างสูงอย่างต่อเนื่อง ราคาของวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นและค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง ส่วนสัดส่วนของกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาต่อรายได้รวมจากการดำเนินงานตามปกติอยู่ที่ 11.9% ลดลงจากปีก่อนหน้าที่ทำได้ 13.8%
"เราคาดว่าผลประกอบการที่ค่อนข้างเป็นไปในเชิงบวกของปี 2017 ยังคงส่งผลดีอย่างต่อเนื่องมาสู่ปีใหม่เมื่อมองภาพรวมธุรกิจในปี 2018 จะมีการเปลี่ยนแปลงทางบัญชีในแลนเซสส์ โดย ARLANXEO ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจร่วมทุนที่ไดัรับรายงานว่าได้หยุดดำเนินการ (Discontinued Operation) ในไตรมาสที่ 2 ของปี 2018 เป็นต้นไป ส่วนอีก 4 หน่วยธุรกิจ อันได้แก่ Advanced Intermediates, Specialty Additives, Performance Chemicals และ Engineering Materials จะถูกรวมกันในชื่อว่า “New LANXESS” โดยกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อมราคาจากการดำเนินงานตามปกติของกลุ่มนี้เมื่อไม่รวม ARLANXEO อยู่ที่ 925 ล้านยูโรในปีการเงิน 2017 แลนเซสส์จะทำการปรับปรุงการประมาณการผลประกอบการของทั้งปี 2018 (Earnings Guidance) ให้ชัดเจนมากขึ้นพร้อมกับการประกาศผลประกอบการของไตรมาสที่ 1 ผลประกอบการของไตรมาสแรกของปีจะถูกเผยแพร่ในวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2561" ซีอีโอแลนเซสส์กล่าวสรุป
ตัวเลขที่สำคัญของกลุ่มธุรกิจ LANXESS
ตัวชี้วัด (หน่วยล้านยูโร) |
2016 |
2017 |
% การเปลี่ยนแปลง |
ยอดขาย |
7,699 |
9,664 |
25.5 |
EBITDA pre Exceptionals |
995 |
1,290 |
29.6 |
EBITDA Margin pre Exceptionals |
12.9% |
13.3% |
|
กำไรสุทธิ |
192 |
87 |
-54.7 |
กำไรต่อหุ้น (ยูโร) |
2.10 |
0.95 |
-54.7 |
กำไรต่อหุ้นในส่วนของการดำเนินงาน รวมค่าตัดจำหน่ายของสินทรัพย์ไม่มีตัวตน (ยูโร) |
2.69 |
4.14 |
53.90 |
เสนอปันผลต่อหุ้น (ยูโร) |
0.70 |
0.80 |
14.30 |
หนี้สินทางการเงินสุทธิ |
2,394.00 |
2,252.00 |
-5.90 |
จำนวนพนักงาน |
16,721.00 |
19,029.00 |
13.80 |