ณ ห้องประชุมชั้น 3 อาคารสำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนา: สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ลงนามบันทึกข้อตกลงการบริหารจัดการและจัดสรรผลประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาฯ ร่วมกับ มูลนิธิชัยพัฒนา ในการดำเนินงานโครงการวิจัยพัฒนาและประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าชาน้ำมันและงาม้อน สู่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการนำไปใช้อย่างยั่งยืน โดยมี ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา เป็นประธาน พร้อมด้วย ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทค สวทช. และผู้บริหาร
ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงระหว่างมูลนิธิชัยพัฒนา กับ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) เป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือหลังจากที่มูลนิธิฯ เคยได้ลงนามบันทึกข้อตกลงกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ไปเมื่อปีที่แล้ว (6 กุมภาพันธ์ 2560) สำหรับโครงการศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมัน เป็นโครงการศึกษาวิจัยโครงการหนึ่งที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริให้ดำเนินการทั้งการศึกษาสายพันธุ์ การพัฒนาการปลูก รวมถึงวิจัยส่วนต่างๆ ของชาน้ำมันที่เห็นว่าน่าจะเอาไปทำอะไรดีๆ เพื่อต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณประโยชน์ และสามารถเข้าถึงประชาชนคนไทยให้ได้มากที่สุดได้
ปัจจุบันต้นชาน้ำมันของโครงการให้ผลผลิตมากขึ้นเรื่อยๆ ปีนี้มีผลผลิตกว่า 150 ตัน และยังส่งเสริมเกษตรกรเครือข่ายให้ปลูกพืชน้ำมันอื่นอีก อาทิ งาม้อน ไนเจอร์ เซียร์ เพื่อเป็นการส่งเสริมอาชีพ และเป็นแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญของโครงการต่อไป โดยในการวิจัยเกี่ยวกับชาน้ำมัน นักวิจัยจะได้ใช้ความรู้ใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยสร้างสรรผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่า และที่สำคัญที่สุดช่วยให้ได้ใช้ประโยชน์จากส่วนต่างๆ ของต้นชาน้ำมันได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนาโนเทคได้ให้การสนับสนุนโครงการศูนย์วิจัยและพัฒนาชาน้ำมันและพืชน้ำมันของมูลนิธิชัยพัฒนา จนเกิดเป็นงานวิจัย 5 โครงการ และได้รับอนุสิทธิบัตร 4 ผลงาน โดยผลงานเหล่านี้ โครงการฯ จะนำไปใช้ให้เป็นประโยชน์และอย่างคุ้มค่าในการพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป
ดร.วรรณี ฉินศิริกุล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) สวทช. กล่าวว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) โดย ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาต่อยอดผลิตผลจากชาน้ำมัน และงาม้อน ร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา จากสายพระเนตรที่ยาวไกลของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเล็งเห็นประโยชน์ของการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมันในประเทศไทย เกิดเป็น “โครงการศึกษาและพัฒนาการปลูกชาน้ำมันของมูลนิธิชัยพัฒนา ในพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี” นับเป็นโครงการที่นำมาซึ่งประโยชน์มากมาย ทั้งเรื่องการเกษตร การอนุรักษ์ป่าไม้ รวมถึงการสร้างอาชีพให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ได้มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้อย่างยั่งยืน
“การนำผลงานวิจัยและพัฒนาด้านนาโนเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของชาน้ำมัน และงาม้อน ที่ผ่านมา นาโนเทค สวทช. และศูนย์วิจัยและพัฒนาน้ำมันชาและพืชน้ำมัน มูลนิธิชัยพัฒนา ได้ดำเนิน “แผนงานและพัฒนาประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของชาน้ำมันและงาม้อน” สอดคล้องกับนโยบาย การขับเคลื่อนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ ลดการพึ่งพิงเทคโนโลยีจากภายนอก ด้วยการสร้างและพึ่งพาตนเองทางเทคโนโลยีไปพร้อมกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์ รวมถึงยังเป็นการนำงานวิจัยและพัฒนาเพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำ ช่วยเหลือและสร้างโอกาส สร้างรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ห่างไกล ประกอบด้วยโครงการวิจัย 5 โครงการ ได้แก่ สารสกัดสีธรรมชาติจากเปลือกผลชาน้ำมัน การวิจัยและพัฒนาเพิ่มมูลค่าเปลือกผลจากผลชาน้ำมันในรูปของวัสดุดูดซับ การพัฒนาตำรับอิมัลชั่นชนิดเกิดได้เองของน้ำมันเมล็ดชาและน้ำมันงาขี้ม้อน การพัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมจากน้ำมันเมล็ดชา และการสกัดสารซาโปนินจากกากน้ำมันเมล็ดชาและการนำไปใช้ประโยชน์”
นอกจากนี้ ยังได้มีการบริหารจัดการและจัดสรรผลประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาของแผนงานวิจัยและพัฒนาประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของชาน้ำมันและงาม้อน เป็นประโยชน์ในการพัฒนาและต่อยอดผลงานวิจัย โดยมีตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการและความร่วมมือ ได้แก่
จากผลงานการวิจัยเหล่านี้ เป็นผลิตภัณฑ์จากแผนงานวิจัยและพัฒนาประยุกต์ใช้นาโนเทคโนโลยีเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของชาน้ำมันและงาม้อน ซึ่งจะเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ในอนาคตต่อไป