เนื้อหาวันที่ : 2018-03-20 09:40:28 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1669 views

ฮันนี่เวลล์ย้ำร่วมสนับสนุนการขับเคลื่อนสู่ “ประเทศไทย 4.0” ด้วยเทคโนโลยีรองรับการเชื่อมต่อด้วยระบบอัจฉริยะ

ฮันนี่เวลล์ ประกาศย้ำแผนการลงทุนและขยายธุรกิจในไทยที่มุ่งเน้น ‘พลังแห่งการเชื่อมต่อด้วยระบบอัจฉริยะ (Power of Connected)’ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐ โดยสนับสนุนและส่งเสริมวิสัยทัศน์ ‘ประเทศไทย 4.0’ ของรัฐบาลไทยเพื่อยกระดับประเทศไทยไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัลที่เน้นการเพิ่มคุณค่าและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ความสำเร็จอันแข็งแกร่งและยาวนานของฮันนี่เวลล์ในฐานะองค์กรแถวหน้าด้านซอฟต์แวร์อุตสาหกรรม ทำให้บริษัทมีศักยภาพเฉพาะตัวในการผนวกความสามารถของซอฟต์แวร์เข้ากับผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี เกิดเป็นโซลูชันที่สามารถเชื่อมต่อด้วยระบบอัจฉริยะ มากด้วยประสิทธิภาพและประสิทธิผลกว่าที่เคย ทั้งนี้ ราวครึ่งหนึ่งของวิศวกรของฮันนี่เวลล์ที่มีอยู่ทั่วโลกถึง 23,000 คนล้วนเป็นวิศวกรด้านซอฟต์แวร์ ซึ่งบริษัทคาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้านี้กว่าร้อยละ 60 ของอัตราการเติบโตจะเป็นส่วนที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์

 

มร.เชน เท็ดจาราติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันนี่เวลล์ ดูแลภูมิภาค HGRs กล่าวว่า “ประเทศไทยเป็นตลาดเชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญแห่งหนึ่งในภูมิภาคที่มีศักยภาพการเติบโตสูง (HGRs) ซึ่งเป็นผลพวงจากการมีภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการเติบโตและเปิดรับด้านนวัตกรรม เราจึงคาดว่าการเติบโตของตลาด HGRs จะมีอัตราสูงกว่าระดับการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมไทยในช่วงระยะ 5 ปีข้างหน้า ซึ่งไม่ว่าลูกค้าของเราจะบริหารโรงงานปิโตรเคมี สายการบิน หรือตึกสูงเสียดฟ้า การปฏิบัติการต่าง ๆ ล้วนมีข้อมูลเกิดขึ้นมหาศาลที่ยังไม่ได้นำมาทำให้เกิดคุณค่าสำหรับลูกค้า เทคโนโลยีอันล้ำหน้าของเราจะเข้ามาช่วยสกัดเอาคุณค่าที่ซ่อนอยู่ออกมา ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจได้ดีขึ้นด้วยข้อมูลเหล่านั้น ช่วยยกระดับความปลอดภัย ความมั่นคง ประสิทธิภาพและผลิตภาพในการปฏิบัติการ”

มร.ไบรอันด์ เกรียร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันนี่เวลล์ ประจำภูมิภาคอาเซียน กล่าวว่านับเป็นเวลากว่า 2 ทศวรรษที่ฮันนี่เวลล์ได้เติบโตควบคู่กับอุตสาหกรรมไทย มีส่วนช่วยพัฒนาเครือข่ายโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน สนับสนุนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ และยังคงรั้งตำแหน่งผู้นำได้อย่างแข็งแกร่งในการให้บริการด้านเทคโนโลยีคุณภาพสูงสำหรับอาคารและที่พักอาศัย โซลูชันด้านความปลอดภัยและการเพิ่มผลผลิต เทคโนโลยีวัตถุดิบเพื่อการอุตสาหกรรม รวมทั้งระบบและผลิตภัณฑ์ด้านการบินและอวกาศ รองรับการพัฒนาของไทยที่มุ่งไปสู่สังคมที่ล้ำสมัยปลอดภัยยั่งยืนยิ่งขึ้น

 

  

“เราเชื่อว่าประเทศไทยมีศักยภาพเติบโตอีกมาก เนื่องจากมีความได้เปรียบด้านประชากรและการพัฒนาที่สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของฮันนี่เวลล์ และแนวโน้มระดับมหภาคของโลก เช่น การเติบโตอย่างเห็นได้ชัดของชนชั้นกลาง สังคมเมืองที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว ความต้องการพลังงานที่สะอาดและมีประสิทธิภาพ ความปลอดภัยและมั่นคง และการก้าวสู่ยุคดิจิทัล ทั้งนี้ ข้อมูลการค้าล่าสุดส่วนใหญ่มีทิศทางบวก และคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทยเติบโตร้อยละ 4 ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2560 และคาดว่ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอีกในปีนี้ เราตื่นเต้นและยินดีมากที่ได้มาดำเนินธุรกิจในไทย และจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของไทย” มร.เกรียร์กล่าวเสริม

นางไม ชาง ทัน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮันนี่เวลล์ ประจำภูมิภาคอินโดจีน กล่าวว่าฮันนี่เวลล์ได้สนับสนุนและส่งเสริมโครงการที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจมหภาคของไทยด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยต่าง ๆ อาทิ เทสโก้ โลตัส ซูเปอร์มาร์เก็ตค้าปลีกชั้นนำในไทย เครือกลุ่มบริษัท เทสโก้ ได้เริ่มปรับเปลี่ยนมาใช้สารทำความเย็น Solstice® N40 ของฮันนี่เวลล์เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนฯ โดยสมัครใจในเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส 900 สาขา และจะขยายต่อไปยังทั้ง 1,500 สาขาทั่วประเทศภายใน 2 ปี ตั้งเป้าประหยัดพลังงานให้ได้สูงสุดร้อยละ 10 อีกทั้งยังเป็นผู้จัดหาแหล่งพลังงานสำรอง (APUs) ระบบเครื่องยนต์และอิเล็กทรอนิกส์การบิน ผลิตภัณฑ์ล้อและเบรก บริการอะไหล่ทดแทนสำหรับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส นกสกู๊ต นกแอร์ การบินไทย และสายการบินอื่น ๆ รวมทั้งงานของศูนย์ซ่อมบำรุงต่าง ๆ ในไทย แม้แต่ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ฮันนี่เวลล์ได้ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถพัฒนาโซลูชันด้านอาคารอย่างครบวงจรเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและประสบการณ์ของผู้พักอาศัย รวมถึงมีส่วนร่วมในโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานสำคัญ ๆ ของรัฐด้วยการส่งมอบโซลูชันเทคโนโลยีอาคารที่ล้ำหน้า ช่วยให้โครงการเหล่านั้นสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดีและรวดเร็ว