เนื้อหาวันที่ : 2018-03-13 09:14:02 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1358 views

บก.ปอศ. ตรวจเข้มนิคมอุตสาหกรรมหลังได้เบาะแสละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์จำนวนมาก

บก.ปอศ. เผยได้รับเบาะแสการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เข้ามาจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ซึ่งได้ดำเนินคดีกับองค์กรธุรกิจที่ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไปแล้วจำนวน 38 รายตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา

กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้รับเบาะแสการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในองค์กรธุรกิจจากเจ้าของสิทธิ์และจากช่องทางต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น ยังรวมไปถึงองค์กรธุรกิจหรือโรงงานที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทั่วประเทศ เช่น ในจังหวัดชลบุรี ระยอง สมุทรสาคร นครราชสีมา และสมุทรปราการ เป็นต้น โดยเริ่มต้นปี 2561 จนถึงปัจจุบันได้ดำเนินการทางกฎหมายกับองค์กรธุรกิจที่ทำผิดไปแล้วจำนวน 38 องค์กร พบว่ามีการติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายบนคอมพิวเตอร์ 690 เครื่อง มูลค่าการละเมิดมากกว่า 79 ล้านบาท ซอฟต์แวร์ที่พบว่ามีการละเมิด เช่น ออโต้เดสก์ ไมโครซอฟท์ มาสเตอร์แคม โซลิดเวิร์ก และไทยซอฟท์แวร์

จากรายงานของเจ้าหน้าที่พบว่าองค์กรธุรกิจที่ถูกดำเนินคดีฐานละเมิดลิขสิทธิ์ประกอบด้วยผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการผลิตแม่พิมพ์โลหะ เฟอร์นิเจอร์ พลาสติก ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงธุรกิจก่อสร้าง และบริการด้านการออกแบบตกแต่ง ซึ่งมีการติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์โดยไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิหรือไลเซนส์ (License) ในจำนวนองค์กรธุรกิจที่ถูกดำเนินคดีพบว่าบางรายเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง แต่มีการติดตั้งใช้งานซอฟต์แวร์ด้านการออกแบบเขียนแบบและอื่น ๆ ที่ละเมิดลิขสิทธิ์บนคอมพิวเตอร์มากกว่า 50 เครื่องในองค์กร

พ.ต.อ.วินัย วงษ์บุบผา รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ บก.ปอศ. เผยว่า "เราจำเป็นต้องแก้ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ผ่านการบังคับใช้กฎหมายไปพร้อม ๆ กับการประชาสัมพันธ์ให้เกิดความรู้ความเข้าใจกฎหมายลิขสิทธิ์ สำหรับผู้ประกอบการอุตสาหกรรม ผู้ผลิตสินค้าต่าง ๆ ต้องระมัดระวังเรื่องการใช้งานซอฟต์แวร์ในสถานประกอบการ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ เพราะหากใช้อย่างไม่ถูกต้องแล้ว เจ้าของสิทธิ์สามารถฟ้องร้องได้ ซึ่งจะสร้างความเสียหายตามมา ที่สำคัญคือความเสียหายต่อชื่อเสียงองค์กร"

ปัจจุบันจะเห็นว่าทางรัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทย เพราะปัญหาดังกล่าวสร้างความเสียหายให้กับภาพลักษณ์ของประเทศ ส่งผลต่อความน่าเชื่อถือในการทำการค้าและการลงทุนในประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแล ป้องปราม และปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตลอดจนประชาสัมพันธ์อย่างทั่วถึงไม่ให้มีการสนับสนุนสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่ง บก.ปอศ. ได้ทำงานด้านการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์สินค้าต่าง ๆ รวมถึงสินค้าด้านเทคโนโลยี เช่น ซอฟต์แวร์ มาโดยตลอด ทั้งนี้ เพื่อลดการใช้งานซอฟต์แวร์ผิดกฎหมายและไม่มีสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิ ทาง บก.ปอศ. ขอความร่วมมือจากองค์กรธุรกิจและประชาชนทั่วไปปฏิบัติตามกฎหมาย ซึ่งความร่วมมือจากทุกฝ่ายจะช่วยให้สถานะการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาในประเทศไทยอยู่ในระดับที่ดีขึ้น