เนื้อหาวันที่ : 2007-11-06 09:11:46 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1686 views

พลังงาน เก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันทุกชนิดลง 40 สตางค์ต่อลิตร

กระทรวงพลังงานประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดลง 40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นเบนซิน 95 เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทผู้ค้าน้ำมันออกไปก่อน หวั่นประชาชนได้รับความเดือดร้อน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 5 พฤศจิกายน 2550 เป็นต้นไป

กระทรวงพลังงานประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงทุกชนิดลง  40 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้นเบนซิน 95   เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทผู้ค้าน้ำมันออกไปก่อน หวั่นประชาชนได้รับความเดือดร้อน

.

นายวีระพล  จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน   (สนพ.)   กล่าวว่า  จากสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลดปรับตัวสูงขึ้นไปอยู่ในระดับ 85  เหรียญต่อบาร์เรล    ยังคงเป็นระดับที่สูงจนอาจเกิดผลกระทบต่อประชาชน  ดังนั้นกระทรวงพลังงานจำเป็นที่จะต้องประกาศปรับลดการจัดเก็บอัตราการนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงจากบริษัทผู้ค้าน้ำมันลง   40   สตางค์ต่อลิตร     เพื่อบรรเทาการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศของบริษัทผู้ค้าน้ำมัน  โดยมีผลตั้งแต่วันที่  5 พฤศจิกายน  2550  เป็นต้นไป

.

นายวีระพล  กล่าวว่า  การปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินนำเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงในครั้งนี้  ทำให้กองทุนน้ำมันฯมีฐานะลดลง  800  ล้านบาทต่อเดือน  ปัจจุบันกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีรายได้ จำนวน 4,342  ล้านบาทต่อเดือน และมีรายจ่าย   9,900  ล้านบาทต่อเดือน  แบ่งเป็น  ไถ่ถอนพันธบัตร  8,800 ล้านบาทต่อเดือน จ่ายชำระหนี้ชดเชยตรึงราคาน้ำมัน 0.1 ล้านบาทต่อเดือน  ชำระหนี้ชดเชยราคา LPG  751 ล้านบาทต่อเดือน จ่ายชดเชยราคาน้ำมันบี100 เป็นจำนวน 100 ล้านบาทต่อเดือน  จ่ายชำระดอกเบี้ยพันธบัตร  249  ล้านบาทต่อเดือน   ล่าสุดเมื่อวันที่  2  พฤศจิกายน 2550 ที่ผ่านมา กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมีภาระหนี้สินอยู่ประมาณ  5,572 ล้านบาท และจะจ่ายชำระหนี้หมดภายในเดือนธันวาคม 2550 

.

นายวีระพล  กล่าวต่อว่า  จากการที่กระทรวงพลังงานได้ประกาศปรับลดอัตราการจัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงลง 40   สตางค์ต่อลิตร   เพื่อชะลอการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศทุกชนิด ส่งผลให้บริษัทผู้ค้าน้ำมันยังสามารถตรึงราคาขายปลีกออกไปอีก และล่าสุดบริษัทผู้ค้าน้ำมันมีค่าการตลาดเฉลี่ยทุกผลิตภัณฑ์อยู่ที่ 40 สตางค์ต่อลิตร

.

โดยสาเหตุของราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้  เป็นผลมาจากพายุพัดผ่านแหล่งผลิตน้ำมันของเม็กซิโก ทำให้ต้องหยุดการผลิต  แต่ก็เป็นเพียงช่วงสั้น ๆ นอกจากนี้ยังมีนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มพลังงานและราคาน้ำมันในตลาดโลก   ประกอบกับมีปัจจัยสถานการณ์ไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมัน  ทั้งอิรักและอิหร่าน  แต่ยังมีปัจจัยบวกอยู่บ้าง  คือ อากาศจะไม่หนาวตามที่คาดไว้ ประกอบกับการที่โอเปค  ประกาศที่จะเพิ่มกำลังการผลิตอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน รวมทั้งจะมีกำลังการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปจากจีนและอินเดียเพิ่มขึ้นก่อนสิ้นปี 2550

.

อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานไม่ได้นิ่งนอนใจโดยจะติดตามดูสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด  โดยเฉพาะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง  ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและดีเซลจำเป็นต้องปรับตัวสูงขึ้นอีกประมาณ  1  -1.50  บาทต่อลิตร