เนื้อหาวันที่ : 2017-09-20 11:07:43 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2364 views

ICP DAS บริษัทชั้นนำจากประเทศไต้หวัน นำเสนอโซลูชั่นระบบโรงงานอัตโนมัติ สนับสนุนภาคอุตสาหกรรม 4.0 ในไทย

บริษัท ICP DAS จากประเทศไต้หวัน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น พร้อมนำเสนอโซลูชั่นระบบโรงงานอัตโนมัติ ภายในงาน Secutech Thailand 2017 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2560 ณ ไบเทค บางนา เล็งหาพันธมิตรเพิ่มเพื่อรุกตลาดประเทศไทยที่มีศักยภาพสูง ซึ่งสอดรับกับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม ภายใต้แผนนโยบายไทยแลนด์ 4.0 พร้อมมุ่งสร้างความแข็งแกร่งในตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

มร.แฟรงก์ เชง รองประธาน บริษัท ไอซีพี ดีเอเอส จำกัด กล่าวว่า “ภาคอุตสาหกรรมปัจจุบันกำลังมุ่งสู่ยุคของ Industry 4.0 คือการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาผนวกใช้งานร่วมกับภาคอุตสาหกรรมหรือที่เราเรียกว่า Industrial Internet of Things (IIoT) ดังนั้นผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมทั้งหลายจำเป็นต้องหาวิธีการเชื่อมต่อเซนเซอร์หรืออุปกรณ์เครื่องมือเข้ากับเครื่องจักรเพื่อนำเอาข้อมูลที่ได้มาใช้ประโยชน์ต่อการดำเนินงาน ซึ่งเราเองมีความเชี่ยวชาญและเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชั่นด้าน IIoT อีกทั้งยังมีประสบการณ์จากโครงการที่ดำเนินการในประเทศไต้หวันมาก่อน ดังนั้นจึงเป็นโอกาสดีที่เราจะได้นำเสนอโซลูชั่นดังกล่าวให้กับผู้ประกอบการชาวไทยได้สัมผัสกันภายในงาน Secutech Thailand 2017 ที่จะจัดขึ้นภายในช่วงปลายปีนี้”

“ประเทศไทยเป็นตลาดที่ยังมีศักยภาพสูง เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางด้านอุตสาหกรรมที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็น อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม อุตสาหกรรมเกษตร พลังงาน อีกทั้งนโยบายของภาครัฐบาลไทยที่มุ่งสู่ความเป็นไทยแลนด์ 4.0 ยังก่อให้เกิดการตื่นตัวของภาคประชาชน ที่จะได้เล็งเห็นถึงประโยชน์ของการนำเอาระบบอัตโนมัติมาใช้ในชีวิตประจำวัน ส่วนภาคอุตสาหกรรมและการลงทุนนั้น ผู้ประกอบการยังให้ความสำคัญกับการลดต้นทุน และการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ทั้งในเรื่องของการประหยัดพลังงาน การลดของเสีย การประหยัดทรัพยากรทั้งกระบวนการตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ กระบวนการผลิตดังกล่าวนี้เองจะถูกปรับปรุงให้เข้าสู่ความเป็นอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) ด้วยระบบออโตเมชั่น ส่วนอาคารสำนักงานต่าง ๆ ก็ถูกบังคับให้กลายเป็นระบบอาคารอัจฉริยะ (Intelligent Building System) ด้วยเช่นกัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวนี้เอง จะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้ระบบออโตเมชั่นยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากในประเทศไทย”

“ICP DAS เป็นผลิตภัณฑ์สัญชาติไต้หวัน ที่มีชื่อเสียงมากว่า 30 ปี โดยปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์มากกว่า 2,000 รายการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม รวมถึงความสามารถในการเชื่อมต่อเข้ากับระบบ IoT ครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น อาทิเช่น โซลูชั่นสำหรับการบริหารจัดการพลังงาน (Energy Management Solutions), อุปกรณ์อัตโนมัติสำหรับอาคารและที่อยู่อาศัย (Smart  Building, Smart Home Automation), อุปกรณ์ควบคุมอัจฉริยะผ่านระบบเครือข่าย (Web-based Intelligent PAC Controller) ฯลฯ และส่งมอบให้กับลูกค้าด้วยการบริการที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ของเรายังมีจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพสูง ติดตั้งง่าย เทคโนโลยีถูกออกแบบมาให้เป็นระบบเปิด ทำให้มีความยืดหยุ่นต่อการใช้งาน และราคาที่เป็นมิตร ผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นที่ถูกผลิตออกสู่ตลาดนั้น ได้ผ่านการวิจัยและพัฒนาด้วยบุคลากรทางด้าน R&D ของบริษัท ที่มีจำนวนมากถึง 30% ของบุคลากรทั้งบริษัท และกว่า 20% ของรายได้จากยอดขายจะกลายเป็นงบการลงทุนทางด้านวิจัยและพัฒนาด้วยเช่นกัน”

“สำหรับประเทศไทย ที่ผ่านมาเรายังคงทำตลาดผ่านช่องทางของตัวแทนจำหน่าย ซึ่งปัจจุบันมีประมาณ 5 ราย และมีแผนในการขยายพันธมิตรเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวเศรษฐกิจและการลงทุนในอนาคต ซึ่งเรามองว่าประเทศไทยยังคงมีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนของภาคเอกชน การลงทุนของภาครัฐบาลผ่านเมกะโปรเจ็กต์ต่าง ๆ หรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในปีนี้ ที่มีโอกาสการเติบโตสูง เช่น กลุ่มงานบริการและวางระบบ (System Integration Services), กลุ่มพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar System), ระบบการสื่อสารแบบอัจฉริยะ (Smart Communication), ระบบอัตโนมัติในอาคารสำนักงาน (Building Automation System) เป็นต้น”

“ประเทศไทยยังเป็นศูนย์กลางตลาดที่สำคัญในการเชื่อมโยงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV ซึ่งกำลังขยายตัวทางเศรษฐกิจด้วยโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศและการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศ ปัจจัยดังกล่าวส่งผลในเชิงบวกต่อการดำเนินธุรกิจ และคาดว่าผลประกอบการของเราจะเติบโตประมาณ 10-15% ในตลาดภูมิภาคนี้” มร.แฟรงก์ เชง กล่าวสรุป