วิศวกรชาวไทยกว่า 250 ท่านร่วมทำงานกับผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิค ที่ศูนย์กลางความสามารถด้านโอลีโอเคมีคอลที่มาบตาพุด (ประเทศไทย)
ธิสเซ่นครุปป์ หนึ่งในกลุ่มบริษัทวิศวกรรมอุตสาหการที่มีความหลากหลายและมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประกาศเปิดศูนย์เทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมโอลีโอเคมีคอลในจังหวัดระยอง ใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เพื่อส่งมอบโซลูชั่นส์เชิงวิศวกรรมที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ด้วยเงินลงทุนกว่า 18 ล้านยูโร (ประมาณ 680 ล้านบาท)
จึงทำให้มาบตาพุดจะกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่เปี่ยมด้วยศักยภาพ ทั้งในด้านการวิจัยและพัฒนาวิศวกรรม การก่อสร้างโครงการ และการบริการด้านการพัฒนาเทคโนโลยีของธิสเซ่นครุปป์
ดร.ปีเตอร์ เฟลด์เฮาส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มธุรกิจธิสเซ่นครุปป์ อิสดัสเตรียล โซลูชั่นส์ กล่าวว่า “ประเทศไทยคือตลาดสำคัญของเราในเอเชีย และเราภาคภูมิใจที่ได้ดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคงยาวนานในประเทศนี้ การลงทุนในศูนย์โอลีโอเคมีคอลแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของเราในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ธุรกิจในประเทศไทยให้เป็นหนึ่งในศูนย์กลางทางวิศวกรรมในระดับโลกของเรา”
ศูนย์เทคโนโลยีที่มาบตาพุดนี้ จะสามารถรองรับการดำเนินโครงการได้อย่างครบวงจร ด้วยระบบวิศวกรรมอันทันสมัย อีกทั้งยังสามารถ ทำการออกแบบ จัดซื้อ และก่อสร้างโครงการ (อีพีซี) มีห้องแล็บปฏิบัติการ และโรงงานต้นแบบ ที่จะทำให้เราสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ และรับประกันประสิทธิภาพของโรงงานที่เราก่อสร้าง ได้อย่างมั่นใจ โดยอาศัยเทคโนโลยีอัลค็อกไซเลชั่น (Alkoxylation Technology) เทคโนโลยีเอสเทอริฟิเคชัน (Esterification Technology) และเทคโนโลยีอามิเนชั่น (Amination Technology) ซึ่ง ธิสเซ่นครุปป์ ได้รับมาจาก บริษัทอินเวนต้า ในประเทศสิงคโปร์ เมื่อปี พ.ศ.2558
เร็ว ๆ นี้ ธิสเซ่นครุปป์ ได้ทำการส่งมอบโรงงานแบบโมดูลาร์ขนาดใหญ่ให้แก่อ็อกซิเทโน บริษัทผู้ผลิตเคมีภัณฑ์ระดับโลกจากประเทศจากบราซิล โดยโรงงานดังกล่าวได้รับการพัฒนาออกแบบทางวิศวกรรมและก่อสร้างในประเทศไทย โดยหลังจากได้รับการตรวจสอบคุณภาพแล้ว จึงได้ทำการถอดออกเป็นส่วน ๆ เพื่อทำการเคลื่อนย้าย โดยปัจจุบัน โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการขนส่งเพื่อส่งมอบให้ลูกค้านำไปประกอบเป็นโรงงานในประเทศสหรัฐอเมริกา เครื่องปฏิกรณ์ของโครงการนี้ เป็นนวัตกรรมระบบ เจ็ท รีแอ็คเตอร์ ซึ่งมีประสิทธิภาพอย่างเหนือชั้น พร้อมทั้งยังมีระบบอัตโนมัติควบคุมการผลิตที่ดีกว่า ทำให้มีระดับ อัลคีลีนออกไซด์ ลดลง แต่มีวงจรการทำปฏิกิริยาที่เร็วยิ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเครื่องปฏิกรณ์แบบถังกวนดั้งเดิม
ห้องแล็บปฏิบัติการศูนย์กลางความสามารถด้านโอลีโอเคมีคอลที่มาบตาพุด (ประเทศไทย)
ไบรอัน คาเมรอน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเตรียล โซลูชั่นส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า “เทคโนโลยีของเราและเครื่องปฏิกรณ์ เจ็ท รีแอ็คเตอร์ ที่เป็นหัวใจของกระบวนการจะช่วยให้ลูกค้าของเรามีความยืดหยุ่นในการผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษ (Specialty Chemicals) ที่มีความหลากหลายด้วยการใช้อุปกรณ์ชนิดเดียวกัน และด้วยวงจรการผลิตที่เร็วยิ่งขึ้น เราสามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันในประเทศไทยเพื่อมอบโซลูชั่นส์ให้แก่โรงงานเกือบทุกแห่งทั่วโลกด้วยการใช้แนวทางแบบโมดูลาร์ ที่คล้ายกับตัวต่อเลโก้ ซึ่งทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น คาดการณ์ระยะเวลาได้ ทั้งยังมีมูลค่าการลงทุนที่ต่ำกว่า ทำให้ลูกค้าของเราสามารถผลิตสินค้าเข้าสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น”
หัวใจของกระบวนการคือเครื่ิองปฏิกรณ์แบบหัวฉีดเจ็ท รีแอ็คเตอร์ที่ล้ำสมัย
ดร.ปีเตอร์ เฟลด์เฮาส์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “การได้เห็นทีมงานที่มาบตาพุด ดำเนินโครงการระดับโลกจนแล้วเสร็จนั้น เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นยินดีอย่างมาก โครงการนี้นับเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าประเทศไทยมีคุณภาพการผลิตอยู่ในระดับสูง และวิศวกรไทยก็มีความสามารถที่จะแข่งขันในระดับโลกได้อย่างแท้จริง”
โอลีโอเคมีมีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมเครื่องสำอาง อาหาร อาหารเสริมสุขภาพ และเภสัชกรรม อีกทั้งยังมีการใช้งานในอุตสาหกรรม การขุดเจาะน้ำมัน โลหะการ และสารเคมีทางการเกษตร พลังขับเคลื่อนหลักของการลงทุนในโอลิโอเคมีคือแนวโน้มการขยายตัวของประชากรโดยเฉพาะในทวีปเอเชีย และการให้ความสำคัญกับโซลูชั่นส์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในประเทศพัฒนาแล้ว คาดการณ์ว่าอัตราเติบโตในตลาดอุตสาหกรรมโอลีโอเคมีในเอเชียแปซิฟิกอยู่ที่ 8.5 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ตลาดทั่วโลกมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ประมาณ 6 เปอร์เซ็นต์ต่อปี (ที่มา: รายงาน Market & Market ปี พ.ศ.2557) ในปัจจุบันกำลังการผลิตทั่วโลกของอุตสาหกรรมนี้อยู่ที่ประมาณ 9 ล้านตันต่อปี
สำหรับประเทศไทย ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเตรียล โซลูชั่นส์ ประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง เรามีสัญญาจ้างกับลูกค้ารายใหญ่มากกว่า 100 รายในประเทศไทยและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงโครงการออกแบบ จัดซื้อ และก่อสร้าง (อีพีซี) และการให้บริการดูแลตลอดทั้งอายุโครงการ (Lifecycle Services) เราเป็นผู้ดำเนินโครงการสำคัญในประเทศไทยอย่างมากมาย อาทิ โครงการโรงงานปิโตรเคมีหลายแห่งในจังหวัดระยอง โครงการอุปกรณ์ทำเหมืองที่แม่เมาะ และโครงการก่อสร้างโรงงานปูนซีเมนต์ขนาดใหญ่ 4 แห่งในจังหวัดสระบุรี
ปัจจุบัน ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเตรียล โซลูชั่นส์ มีวิศวกรกว่า 250 คน ประจำอยู่ในสำนักงานที่กรุงเทพฯ และมาบตาพุด จังหวัดระยอง
เกี่ยวกับ ธิสเซ่นครุปป์ เอจี
ธิสเซ่นครุปป์ คือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลาย โดยมีความแข็งแกร่งมาอย่างยาวนานในด้านวัสดุภัณฑ์ พร้อมส่วนแบ่งที่กำลังเติบโตขึ้นของสินค้าทุน (Capital Goods) และธุรกิจด้านการบริการ ปัจจุบันมีพนักงานมากกว่า 156,000 คน ในเกือบ 80 ประเทศทั่วโลก ซึ่งทำงานพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง ออกแบบกระบวนการผลิตทางอุตสาหกรรมอันล้ำสมัย และให้บริการเพื่อความก้าวหน้าที่ยั่งยืน เราถือว่าทักษะและความมุ่งมั่นของพนักงานคือพื้นฐานความสำเร็จของธีสเซ่นครุปป์ โดยในปีงบประมาณปี พ.ศ.2558/2559 ธิสเซ่นครุปป์ สร้างยอดขายประมาณ 3.9 หมื่นล้านยูโร
เกี่ยวกับ ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น
ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น เป็นพันธมิตรชั้นนำด้านวิศวกรรม การก่อสร้าง และการบริการสำหรับระบบโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีพนักงานมากกว่า 21,000 คนในกว่า 70 สำนักงาน ทำให้เรามีเครือข่ายระดับโลกที่มีผลงานด้านเทคโนโลยีอย่างมากมาย ซึ่งเป็นหลักประกันทางด้านประสิทธิภาพของการทำงาน และความคุ้มค่า ในระดับสูงสุด
เกี่ยวกับ ธิสเซ่นครุปป์ ในเอเชียแปซิฟิก
ธิสเซ่นครุปป์ มีพนักงานมากกว่า 27,500 คนใน 20 ประเทศทั้งทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ ธิสเซ่นครุปป์ได้อยู่คู่ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน โดยได้ดำเนินธุรกิจเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2415 และในปี พ.ศ. 2559 บริษัท ธิสเซ่นครุปป์ อินดัสเทรียล โซลูชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองครบรอบ 25 ปีแห่งการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย
บล็อค www.engineered.thyssenkrupp.com