เนื้อหาวันที่ : 2017-03-31 11:30:08 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1488 views

เต็ดตรา แพ้ค ชี้ กลุ่มผู้สูงวัยของไทยมีอำนาจในการจับจ่ายเพิ่มขึ้น เปิดโอกาสใหม่แก่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม

กรุงเทพฯ 30 มีนาคม พ.ศ. 2560 -เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหารระดับโลก เผยรายงานการวิจัยเกี่ยวกับความสำคัญของผู้บริโภคกลุ่มสูงวัย (Senior White Paper) หรือ ผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปี ต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ คาดว่าจะมีอำนาจซื้อทั่วโลกสูงถึง 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีกสามปีข้างหน้า ชี้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มมีโอกาสโตสูงหากเข้าใจความต้องการและบุกตลาดได้ตรงจุด สำหรับประเทศไทย จำนวนผู้บริโภคกลุ่มนี้ จะมีจำนวนถึงหนึ่งในสี่ของประชากรทั้งหมดในปี พ.ศ.2583 ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจเช่นประเทศจีน

ปัจจุบันภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีจำนวนผู้สูงวัย คิดเป็นถึงร้อยละ 60 ของจำนวนประชากรโลก โดยคาดว่าตัวเลขนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือคิดเป็นกว่า 1,300 ล้านคน ในปี พ.ศ.2593 เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคที่เติบโตเร็วที่สุดกลุ่มนี้ เต็ดตรา แพ้ค ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเทรนด์การบริโภค และการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ในกว่า 27 ประเทศ รวมไปถึงประเทศไทย และพบว่าร้อยละ 59 ของผู้สูงวัย ยินดีที่จะจ่ายเงินเพิ่มเพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อพวกเขาโดยเฉพาะ และร้อยละ 88 มองว่า ‘คุณค่าของสินค้า’ เทียบได้กับ ‘คุณภาพที่สูง’

“ผู้สูงวัยในไทยเป็นกลุ่มประชากรที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วแต่กลับได้รับความสนใจน้อย โดยในปี พ.ศ.2559 มีประชากรไทยที่อายุเกิน 65 ปี ถึงกว่าร้อยละ 11 เทียบกับเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ในปี พ.ศ.2538” นางสาวรัตนศิริ ติลกสกุลชัย ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว “ด้วยอำนาจการซื้อที่สูงขึ้น พร้อมกับความสนใจในด้านสุขภาพที่เพิ่มมากขึ้น งานวิจัยของเราพบว่าบริษัทอาหารและเครื่องดื่มที่ให้ความสำคัญกับการสร้างผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคกลุ่มนี้ จะสามารถช่วยเพิ่มฐานลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)ได้ดี และมีโอกาสเติบโตสูง”

บรรจุภัณฑ์เป็นปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งสำหรับผู้ผลิต ผู้สูงอายุกว่าร้อยละ 59 ระบุว่าบรรจุภัณฑ์มีบทบาทสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า งานวิจัย Senior White Paper ชิ้นนี้ จึงระบุถึงคุณสมบัติสำคัญของบรรจุภัณฑ์ 5 ข้อ ที่ผู้บริโภคกลุ่มสูงวัยต้องการ ดังนี้

  1. บรรจุภัณฑ์จะต้องเปิดได้ง่าย และวางฝาไว้ในตำแหน่งที่สูงกำลังพอดีเพื่อป้องกันการหลุดลื่นจากมือ
  2. บรรจุภัณฑ์ต้องมีน้ำหนักเบา โดยรูปทรงกลมมน ง่ายต่อการหยิบจับมากกว่าทรงสี่เหลี่ยม
  3. บรรจุภัณฑ์ควรช่วยเพิ่มอายุการเก็บผลิตภัณฑ์ เพื่อลดจำนวนเที่ยวในการเดินทางเพื่อไปซื้อสินค้า
  4. ตัวอักษรและฉลากบนบรรจุภัณฑ์ควรมีขนาดใหญ่ ชัดเจน และมีสีสันสดใส
  5. ข้อมูลทางโภชนาการและวันหมดอายุควรถูกระบุอย่างชัดเจนบนบรรจุภัณฑ์

ผลการวิจัย ยังระบุอีกว่าผู้บริโภคสูงวัยใช้รายได้ร้อยละ 20 ของตัวเองไปกับการซื้ออาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งนับว่าเป็นสัดส่วนที่สูงเมื่อเทียบกับผู้บริโภคที่อายุน้อยกว่าซึ่งใช้จ่ายเพียงร้อยละ 18 นอกเหนือไปจากคุณสมบัติสำคัญของบรรจุภัณฑ์แล้ว ประเภทของผลิตภัณฑ์ที่เฉพาะเจาะจงด้านสุขภาพ เช่น เครื่องดื่มและอาหารที่เพิ่มวิตามินและแร่ธาตุ ลดปริมาณน้ำตาล เกลือ และไขมัน ยังได้รับความนิยมสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“ผลการวิจัยชิ้นนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ว่าประชากรผู้สูงวัยในไทยคือโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคกลุ่มนี้ เต็ดตรา แพ้ค สามารถจัดหานวัตกรรมและการบริการอย่างครบวงจรสำหรับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดหรือสูตรของผลิตภัณฑ์สำหรับประชากรกลุ่มนี้โดยเฉพาะ รวมไปถึงการนำผลิตภัณฑ์เหล่านี้ออกสู่ตลาด ด้วยข้อมูลทางการตลาดที่เรามีอยู่เช่นงานวิจัยชิ้นนี้ เราสามารถนำเสนอการบริการอย่างครบวงจรผ่านการทำงานร่วมกับลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่าลูกค้าของเราจะสามารถเจาะตลาดในแต่ละกลุ่มผู้บริโภคเพื่อสร้างความสำเร็จทางธุรกิจต่อไป” นางสาวรัตนศิริ ติลกสกุลชัย กล่าว

 

เกี่ยวกับ เต็ดตรา แพ้ค

เต็ดตรา แพ้ค เป็นบริษัทผู้นำของโลกในด้านกระบวนการผลิตและบรรจุอาหาร เราทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ขายสินค้าและลูกค้าของเรา ด้วยการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัย เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และตอบสนองความต้องการของผู้คนนับล้านในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานเกือบ 23,000 คน ซึ่งพร้อมปฏิบัติงานและให้บริการอยู่ในกว่า 80 ประเทศ เต็ดตรา แพ้ค เชื่อมั่นในความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบและแนวทางการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน คำขวัญของเต็ดตรา แพ้ค ที่ว่า “ปกป้อง ทุกคุณค่า™” (PROTECTS WHAT’S GOOD™) นั้น สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของเราที่จะทำให้อาหารปลอดภัยและมีอยู่พร้อมสำหรับการบริโภคในทุกๆ ที่ทั่วโลก

สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เต็ดตรา แพ้ค” ได้ที่ www.tetrapak.com/th