ตัวแทนจำหน่ายสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นไฟสัญญาณคุณภาพสูงสำหรับโรงงานหรืออุปกรณ์และระบบออ โต เมชั่นสำหรับอุตสาหกรรมทุกประเภท ด้วยประสบการณ์ในธุรกิจนี้มากว่า 10 ปี
|
||||
. | ||||
บริษัท ไอบีคอน จำกัด เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าสำหรับอุตสาหกรรมไม่ว่าจะเป็นไฟสัญญาณคุณภาพสูงสำหรับโรงงานหรืออุปกรณ์และระบบออ
|
||||
. | ||||
สำหรับคอลัมน์ Interview ฉบับนี้ วารสารของเราได้รับเกียรติจาก คุณประเสริฐ ปิยวัชรวิจิตร กรรมการผู้จัดการ และ คุณชาตรี ปิยวัชรวิจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบีคอน จำกัด ได้มาร่วมพูดคุยกันถึงความเป็นมาของบริษัท ฯ วิสัยทัศน์ทางด้านการดำเนินงาน ผลิตภัณฑ์ และการเติบ
|
||||
. |
||||
|
||||
. | ||||
Q: จุดเริ่มต้นของ IBCON มีความเป็นมาอย่างไรครับ ? |
||||
A: ไอบีคอน ได้เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2538 นับจนถึงปัจจุบันมีก็อายุย่างเข้าสู่ปีที่ 12 สาเหตุที่มีการจัดตั้งบริษัทขึ้นมาก็เนื่องมาจากที่เรามีทีมงานที่มีความพร้อมและความชำนาญทางด้านกลุ่มออ
|
||||
. | ||||
Q: ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ฯ มีอะไรบ้าง แบ่งเป็นกี่กลุ่ม และผลิตภัณฑ์ตัวไหนที่ทำตลาดได้สูงสุด ? |
||||
A: กลุ่มสินค้าของเราเริ่มต้นมาจากกลุ่มที่เป็นในส่วนของสินค้าอุตสาหกรรม ถ้าเน้นหนักก็จะเป็นในส่วนของการควบคุมเครื่องจักร แต่ปัจจุบัน ไอบีคอนเราสามารถขยายเข้าไปในส่วนของสินค้าที่เกี่ยวกับทางด้าน Commercial ด้วย ซึ่งนอกเหนือจาก Factory Automation (FA) ก็อย่างเช่น กลุ่มของสินค้าที่เป็น Building Automation, กลุ่มของระบบจราจรอัจฉริยะ โดยสินค้าหลักของเราจะมีทั้งหมด 2 ตัว คือ PATLITE ที่เป็นไฟสัญญาณจากประเทศญี่ปุ่น และอีกตัวก็จะเป็น ADVANTECH ซึ่งในตัว ADVANTECH เอง เราสามารถขยายตลาดไปได้ไกลมาก คือนอกเหนือไปจากกลุ่ม FA ที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรม เนื่องจากสินค้าตัวนี้จะค่อนข้างแตกต่างจากสินค้าตัวอื่น ตรงที่สามารถนำไปใช้กับคอมพิวเตอร์ ทำให้ตัวมันเองสามารถแทรกเข้าไปอยู่ในทุกกลุ่มตลาด ไม่ว่าเราจะใช้ในกลุ่มไหนก็ต้องมีคอมพิวเตอร์เข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างเช่น ในกลุ่ม IT หรือแม้แต่ในกลุ่มของ Transportation ก็สามารถใช้ ADVANTECH ของเราได้ เพราะว่าในตัวรถยนต์แต่ละคันก็ต้องเริ่มมีคอมพิวเตอร์เข้ามาควบคุม ADVANTECH เองก็จะมี Computer Base Control ซึ่งจะติดตั้งไว้ในรถยนต์ เป็นตัวเล็ก ๆ ซึ่งสามารถนำมาใช้คู่กับระบบ GPS, ระบบนำร่อง หรือจะเป็นพวกระบบควบคุมในรถยนต์ เพื่อใช้เก็บข้อมูลของรถยนต์ เหล่านี้เป็นต้น |
||||
. | ||||
Q: กลุ่มอุตสาหกรรมใดบ้างครับที่ครอบคลุมการใช้งานผลิตภัณฑ์ และรวมไปถึงแนวโน้มความต้องการในอนาคตด้วย ? |
||||
A: แนวโน้มความต้องการใช้งานผลิตภัณฑ์ของเราจะมีมากขึ้นแน่นอน ตราบใดที่ตัวคอมพิวเตอร์ยังเป็นแกนหลักของอุปกรณ์ส่วนใหญ่ ส่วนอุตสาหกรรมที่ครอบคลุมการใช้งานนั้นนอกเหนือจากกลุ่มทางด้าน FA ที่กล่าวมาแล้ว ในอนาคตอันใกล้นี้คงจะมองในพวกของกลุ่มออ
|
||||
. | ||||
|
||||
คุณชาตรี ปิยวัชรวิจิตร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอบีคอน จำกัด |
||||
. | ||||
Q: จากความต้องการที่กล่าวถึง เราต้องใช้ปัจจัยอะไรบ้างที่จะส่งเสริมให้มีความต้องการใช้มากขึ้น ? |
||||
A: จากความต้องการดังกล่าว ปัจจัยที่สำคัญน่าจะเป็นเรื่องของความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก คือทั่วโลกตอนนี้เขาสามารถพัฒนาไปได้ค่อนข้างที่จะมากกว่าประเทศไทย บริษัท ฯ ของเราเองอาจจะโชคดีที่มีโอกาส ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า อย่างเช่นของ ADVANTECH เอง ซึ่งเขาเป็นผู้นำ ในระดับ 1 ใน 5 ของโลก ทั่วโลกมีการพัฒนา มีการเติบ
|
||||
. | ||||
Q: บริษัท ฯ มีช่องทางจำหน่ายและแผนในการดำเนินงานทางด้านการตลาดอย่างไรบ้าง ? |
||||
A: ไม่ว่าจะเป็น ADVANTECH หรือ PATLITE เอง ไอบีคอนเราเป็นตัวแทนจำหน่าย โดยนำเข้ามาจากบริษัทแม่ที่ต่างประเทศ ตอนนี้เรามองว่าตลาดในประเทศไทย เราไม่สามารถครอบคลุมด้วยตัวของเราเองได้ทั้งหมด เราจำเป็นต้องมีพาร์ทเนอร์ทั่วประเทศ นั่นคือช่องทางจำหน่ายที่เรามอง คือการสร้างพันธมิตรและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ รวมไปถึงกลุ่มที่เรียกว่า SI (System Integrator) คนที่สร้างเครื่องจักร คนที่ทำการวางระบบทั้งหลายในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นช่องทางการจัดจำหน่ายของเรา ส่วนในเรื่องที่ว่าเราจะขยายตลาดอย่างไรนั้น อันนี้เราจะทำงานควบคู่กับ SI ของเรา อย่างตลาดในประเทศไทย คนใช้งานเองอาจจะยังไม่เข้าใจ ว่า PC-Base มันคืออะไร ทำไมตึกของเราต้องใช้ระบบของ ADVANTECH และตรงนี้ การที่เราทำงานไปคู่กับ SI นั้นเราสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็น End User ได้ โดยช่วยกันอธิบายแนะนำว่าระบบของเราดีอย่างไร สามารถช่วยเพิ่มมูลค่าหรือ Value Added ให้กับตึกของคุณ ให้กับรถยนต์ ให้กับระบบของคุณได้อย่างไร เมื่อทำได้เสร็จตรงนั้น ทางด้าน End User ยอมรับและเชื่อมั่น เราก็จะให้ทาง SI ของเราดูแลต่อ และเราก็ทำอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ |
||||
. | ||||
Q: บริษัท ฯ มีกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างไรบ้างครับ ? |
||||
A: กิจกรรมตรงนี้เราจะเน้นในเรื่องของการทำ Training ให้กับลูกค้า จัดสัมมนา ออก Exhibition ทั้งหลาย โฆษณาในวารสารทางด้านอุตสาหกรรมต่าง ๆ รวมถึงสื่อโฆษณาที่ตรงกับกลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา และสินค้าตัวนี้จะค่อนข้างใหม่กับตลาดในประเทศไทย การฝึกอบรมและการให้ความรู้เป็นเรื่องที่สำคัญ การเข้าถึงลูกค้า จริง ๆ แล้ว นอกจากการร่วมเป็นพาร์ทเนอร์กันแล้ว สื่อก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักเรามากขึ้นว่า เรามีสินค้าอะไรใหม่ ๆ เราก็ต้องสื่อให้ลูกค้าของเราได้รู้จัก อันนี้เป็นกิจกรรมหลัก และกิจกรรมอย่างอื่นก็อย่างเช่นก็มีการจัดสัมมนา ให้เขารู้ว่าเรามีสินค้าอะไรก่อน ถ้าเขาสนใจ หลังจากนั้นเราก็ถึงอธิบายว่าจะใช้งานอย่างไรและจากนั้นก็จะเป็นการสัมมนา ซึ่งจากการทำกิจกรรมต่าง ๆ นี้มีผลตอบรับจากลูกค้าได้ดีมาก เพราะว่าเวลาที่เราโฆษณาจะช่วยให้ลูกค้าเกิดการ Brand Awareness ในตัวของสินค้าของเราได้ จากนั้นก็จะนำไปสู่การทำกิจกรรมต่อไป เพราะว่าลูกค้าจะมองว่าเรามีสินค้าในกลุ่มนี้อยู่ เราสามารถลงไปถึงกลุ่มลูกค้าของเราได้ ว่าลูกค้าของเราต้องการข้อมูลเบื้องลึกเพิ่มเติมแค่ไหน จากนั้นก็จะมีการ Training หรือจัดสัมมนาให้ และนำไปสู่การใช้งานจริงในการต่อยอดธุรกิจต่อไป |
||||
. | ||||
. | ||||
Q: ความสามารถทางด้านการแข่งขันในตลาดโดยรวมเป็นอย่างไรบ้าง ? |
||||
A: จากจุดนี้จะว่ากันจริง ๆ แล้ว บริษัท ฯ ของเราจะโชคดีอยู่ตรงที่ว่า เราได้เป็นตัวแทนจำหน่ายของ ADVANTECH ซึ่ง ADVANTECH ก็อย่างที่ผมบอกคือจะเป็น 1 ใน 5 ผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก เพราะฉะนั้นถ้าพูดถึงเรื่องคู่แข่ง เราก็เลยค่อนข้างจะได้เปรียบ เพราะว่าถ้ากล่าวถึงในประเทศไทย หากว่าผู้ใช้หรือลูกค้ามีความต้องการที่จะใช้ PC-Base ในการควบคุม ก่อนอื่นเขาก็จะมองหา ADVANTECH ก่อน แล้วก็จะมองหายี่ห้ออื่น ๆ เช่นเดียวกัน ถ้าหากว่าอยู่ในระดับงบประมาณของลูกค้า สำหรับรายใหญ่ ๆ แล้ว เขาก็จะมองที่ ADVANTECH เป็นหลักก่อน เพราะฉะนั้นเราก็เลยไม่ค่อยมีคู่แข่งมาก ถ้าจะมีก็จะอยู่ในกลุ่มของความต้องการสินค้าที่ระดับของราคาอยู่ไม่สูงมาก ซึ่งถ้าลูกค้าสนใจหรือให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพมาก่อนเราก็จะไม่ค่อยมีปัญหา หรือเราจะกล่าวได้ว่า ตัวสินค้ามันจะขายตัวมันเองได้อยู่แล้วจุด
|
||||
. | ||||
Q: แนวโน้มธุรกิจของบริษัทมีทิศทางเป็นอย่างไรบ้าง ? |
||||
A: แนวโน้มการขยายตัวของบริษัทผมมองว่าตัวของ ADVANTECH และตัว PATLITE เองมีแนวโน้มขยายตัวค่อนข้างมาก ก็คืออย่างที่บอกคือถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ก็สามารถนำเข้าไปใช้ในวงกว้างได้เลย ซึ่งตลาดเองก็เปิดรับอีกเยอะ ซึ่งเมื่อตลาดมีมากขึ้น อุปกรณ์ของเราก็จะถูกนำไปใช้มากขึ้นตามไปด้วย อย่างตลาดที่เป็น IT ในปัจจุบันก็มีแนวโน้มขยายขึ้น อย่างสินค้าของเราตอนนี้ก็จะเข้าสู่ Home Use อย่างเช่น อพาร์ทเมนท์ ก็จะใช้ระบบ Automation ของ ADVANTECH อยู่ อย่างในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมสินค้าของเราค่อนข้างแข็ง อย่างเปิดโรงงานมา เขาก็จะมองหาสินค้าที่เป็น ADVANTECH ก่อน คือต่างประเทศจะใช้ค่อนข้างเยอะมาก แนวโน้มก็จะขยายตัวอีกมาก เพราะ FA เป็นแค่ส่วน
|
||||
. | ||||
Q: มองโอกาสการเติบ
|
||||
A: เมื่อเรามองในภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยของเราเองก็ยังอยู่ในระดับแนวหน้า คู่แข่งก็จะมีทั้งจีน เวียดนาม ส่วนในประเทศไทย ถ้าเทียบกับเวียดนามเราก็ยังได้เปรียบกว่า ทั้งในเรื่องของทรัพยากร และในเรื่องของบุคลากร เราสามารถดึงดูดนักลงทุนจากต่างประเทศเข้ามา ซึ่งตราบใดที่ว่านักลงทุนจากต่างประเทศเขายังเข้ามาลงทุนในประเทศไทย และยังรวมถึงการพัฒนาของบุคลากรในประเทศ ประเทศไทยยังสามารถก้าวหน้าขึ้นมากกว่าเดิม ความต้องการใช้งานในกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมประเภทนี้ก็ย่อมมีมากขึ้นตามสัดส่วนการเติบ
|
||||
. | ||||
Q: บริษัท ฯ มีแผนที่จะขยายงานในต่างประเทศบ้างหรือไม่ ? |
||||
A: ตอนนี้บริษัท ฯ เราเองยังเป็นพาร์ทเนอร์กับหลายประเทศ อย่างเช่น มาเลเชีย สิงคโปร์ หรือแม้แต่ทางเวียดนาม ซึ่งก็ไม่เชิงว่าเป็นขยายงาน แต่จะเป็นไปในเชิงว่าเราทำการร่วมทุนกับต่างประเทศมากกว่า เพราะว่าสินค้า อย่างเช่น PATLITE หรือ ADVANTECH ที่เราจำหน่ายก็มีจำหน่ายในทั่วโลก เพราะฉะนั้นเวลาเราไปประชุมหรือว่าเราอยู่ที่ประเทศไทย แล้วมีพาร์ทเนอร์ต่างประเทศมาเยี่ยมชม หรือเราไปเยี่ยมเขา หรือมีการประชุมก็มีการเจอกัน เราก็จะร่วมมือกันแชร์ความรู้ซึ่งกันและกัน อย่างเช่น ในต่างประเทศใช้ PATLITE กลุ่มนี้ หรือใช้ ADVANTECH ในกลุ่มนี้ เราก็แชร์ข้อมูลกันเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ตามความเหมาะสม |
||||
. | ||||
Q: จุดแข็งของ IBCON ที่จะสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้าคืออะไร ? |
||||
A: ก็ต้องเรียนว่าเป็นเรื่องของความรู้ความสามารถ เพราะว่าตัวของวิศวกรของไอบีคอนเอง เราติดต่อโดยตรงกับต่างประเทศ เพราะฉะนั้นในส่วนของ Know How ทั้งหมด เราจะรับจากต่างประเทศโดยตรง อย่างไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น สิงคโปร์ มาเลเชียก็ตาม เราก็จะส่งวิศวกรของเราไป Training ทุก ๆ ปี และทุก ๆ เดือนก็จะมีการ Training จากทางต่างประเทศเอากลับมาให้เรา หรือแม้แต่ทาง ADVANTECH เองก็จะค่อนข้างจะไฮเทค มีการ Training ผ่านทางอินเทอร์เน็ตในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งพอได้ความรู้จากตรงนั้นกลับมา เราก็จะนำมาถ่ายทอดให้คำปรึกษากับทาง SI และลูกค้าที่เป็น End User ของเรา เพราะว่า SI ในประเทศไทยต้องบอกว่าเยอะเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเอาไปใช้ทำอะไร บางทีลูกค้าจะบอกว่าผมมีปัญหาประมาณนี้อยู่ เราก็สามารถให้คำปรึกษาได้ว่าจะแก้ปัญหาประมาณนี้ ใช้สินค้าในกลุ่มนี้นะ ซึ่งก็จะสามารถนำมาพัฒนาต่อยอดได้อีกมาก แล้วถ้าเกิดว่าลูกค้ามีปัญหาในการใช้งานไม่ว่าจะก่อนซื้อหรือหลังซื้อ เราก็จะมีบริการที่ดีมาก ภายในระยะเวลา 1 วัน เราจะเข้าไปทำการ Service ลูกค้าทันที หรือมีการเปลี่ยนซ่อมผลิตภัณฑ์ของเราให้ หลังจากนั้นก็จะมีการ Training หลังการขาย สรุปก็คือว่า หากแม้สินค้าของเราจะดีอย่างไรถ้าเกิดว่าไปถึงมือลูกค้าแล้ว แต่ไม่รู้ว่าจะใช้งานอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด สินค้าตัวนั้นก็ไม่มีประโยชน์ จุดแข็งของเราคือเราสามารถแนะนำลูกค้าได้ ทั้งในเรื่องของสินค้าและความต้องการใช้งานของลูกค้า สามารถแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้ |
||||
. | ||||
Q: ปัจจัยแห่งความสำเร็จของ IBCON มีอะไรบ้าง ? |
||||
A: ปัจจัยแห่งความสำเร็จของธุรกิจหรือบริษัทอะไรก็แล้วแต่ ปัจจัยหลักก็คือลูกค้า คือถ้าเกิดลูกค้ายอมรับในตัวบริษัท นั่นคือบริษัทประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นในส่วนของความสำเร็จที่เกิดขึ้น เมื่อพูดถึงลูกค้าก็คือ อันดับ
|
||||
. | ||||
จากที่กล่าวมาเป็นส่วน
|
||||
. | ||||
บริษัท ไอบีคอน จำกัด | ||||
Tel. (66)0-2917-3780 Fax. (66)0-2917-3790 |