กระทรวงพลังงานเตรียมเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) วันที่ 28 กันยายนนี้ ชี้ขาดเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงปีหน้า จะลด 1 บาทหรือจะเก็บเท่าเดิมเพื่อกันเงิน 1 บาทไปใช้สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้า

นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เปิดเผยว่า ที่กระชุม กบง.ได้หารือถึงเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงที่จะหมดภาระหนี้การตรึงราคาน้ำมันประมาณปลายปี 2550 โดยได้กำหนด 2 แนวทางดำเนินการ คือ 1.ให้มีการลดเงินกองทุนน้ำมันฯ สำหรับเบนซิน-ดีเซล 1 บาท/ลิตร และไม่มีการจัดเก็บเงินกองทุนสำหรับแก๊สโซฮอล์ ซึ่งแนวทางนี้จะทำให้ความแตกต่างระหว่างเบนซินและแก๊สโซฮอล์ เหลือ 2.50 บาท/ลิตร จากอัตรา 3.50 บาท/ลิตร ในปัจจุบัน

ส่วนเบนซิน 95 จะลดการจัดเก็บจาก 4 บาท เหลือ 3 บาท/ลิตร เบนซิน 91 ลดลงจาก 3.70 บาท เหลือ 2.70 บาทต่อลิตร ดีเซล ลดจาก 1.50 บาท/ลิตรเหลือ 1 บาท/ลิตร ส่วนแก๊สโซฮอล์ไม่มีการจัดเก็บจากอัตราปัจจุบันที่เก็บแก๊สโซฮอล์ 95 ที่อัตรา 90 สตางค์/ลิตร และแก๊สโซฮอล์ 91 อัตรา 40  สตางค์/ลิตร 2. เสนอให้ กพช.ส่งให้คณะรัฐมนตรีตัดสินใจว่าจะนำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปใช้สำหรับการส่งเสริมการลงทุนรถไฟฟ้าหรือไม่ โดยหากเห็นชอบจะมีการจัดเก็บเงินกองทุนน้ำมันฯ ในเกณฑ์ปัจจุบัน แล้วหักทุก  1 บาท/ลิตร ไปสร้างรถไฟฟ้าซึ่งจะได้เงินประมาณ 2,000 ล้านบาท/เดือน หรือ 24,000 ล้านบาท/ปี

"กพช.จะตัดสินใจแล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา หากคณะรัฐมนตรีไม่เห็นชอบให้นำเงินกองทุนน้ำมันฯ ไปสร้างรถไฟฟ้า ราคาน้ำมันก็จะลดตามสัดส่วนเงินกองทุนน้ำมันในอัตรา 1 บาท/ลิตร ส่วนเงินกองทุนน้ำมันฯ ที่เหลือจะเก็บไว้สะสมสำหรับภาวะฉุกเฉินหรือการอนุรักษ์พลังงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับน้ำมัน" นายปิยสวัสดิ์ กล่าว

สำหรับเรื่องการทบทวนบัญชีความแตกต่างของราคาขายปลีกน้ำมันระหว่างกรุงเทพฯ กับภูมิภาคนั้น ที่ประชุม กบง.มีมติให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ. ) กลับไปทบทวนใหม่

ทั้งนี้ ฐานะเงินกองทุนน้ำมันฯ ในขณะนี้มีเงินสุทธิ 14,807 ล้านบาท แต่ยังคงมีหนี้สินค้างชำระ 27,907 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้พันธบัตร 17,600 ล้านบาท หนี้ชดเชยเงินตรึงราคาน้ำมันค้างชำระ 990 ล้านบาท ชดเชยราคาก๊าซหุงต้ม 8,556 ล้านบาท ภาระดอกเบี้ย (ดอกเบี้ยพันธบัตร อายุ 2 และ 3 ปี) 761 ล้านบาท โดยฐานะกองทุนน้ำมันฯ ยังคงติดลบ 13,100 ล้านบาท เนื่องจากการชดเชยราคาน้ำมันในอดีต ซึ่งคาดว่าจะชำระหนี้ได้หมดภายในสิ้นปี 2550