ชินวะ กรุ๊ป ค่ายยักษ์ใหญ่อสังหาฯญี่ปุ่นปักธงในไทย จับมือวรลักษณ์ พร๊อพเพอร์ตี้ ตั้ง ดับเบิ้ลยู-ชินวะ ผุด“รูเนะสุ ทองหล่อ 5” มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท ออกแบบโดย IAO TAKEDA แชมป์บริษัทออกแบบจากญี่ปุ่น 5 ปีซ้อน ชูนวัตกรรม Sigma BEAM ลิขสิทธิ์เฉพาะตัวของโครงสร้าง RUNESU หนึ่งเดียวในโลกและแห่งแรกใน Southeast Asia เล็งใช้ไทยเป็นฐานรุกตลาดสู่ประเทศอื่นในภูมิภาค รวมถึงอเมริกา และยุโรป
นายวิชัย จุฬาโอฬารกุล และ มร.โทโมยาสุ ยามาเบะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (co-CEO) บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด ซึ่งเป็นการร่วมลงทุน ระหว่าง บริษัท วรลักษณ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ชินวะ เรียล เอสเตท จำกัด ผู้ดำเนินงานพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่จากประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า โครงการภายใต้ความร่วมมือครั้งแรก คือ รูเนะสุ ทองหล่อ 5 (RUNESU THONGLOR 5) คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ 8 ชั้น ที่มีความครบสมบูรณ์แบบของบรรยากาศและอารมณ์ การอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยการออกแบบที่ลงตัวจาก บริษัท IAO TAKEDA ซึ่งคว้ารางวัลที่ 1 ของบริษัทออกแบบในประเทศญี่ปุ่นถึง 5 ปีซ้อน ผสานกับเทคโนโลยีการก่อสร้างที่เป็นนวัตกรรมส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น ด้วย Sigma BEAM ซึ่งเป็นลิขสิทธิ์พิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโครงสร้าง RUNESU ที่มีเพียงหนึ่งเดียวในโลก โดยการปรับคานเป็นพื้นและปรับพื้นให้เป็นคาน ทำให้มีพื้นที่เพิ่มขึ้น 25-40% สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น นอกจากเป็นโครงการแรกในประเทศไทยแล้ว ยังเป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย
“นโยบายหลักของดับเบิ้ลยู-ชินวะ คือ พัฒนาโครงการคุณภาพมาตรฐานญี่ปุ่น ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของมาตรฐานการใส่ใจในรายละเอียด แม้บ้านเรามีคอนโดมิเนียมเกิดขึ้นมากมาย แต่เชื่อว่ายังไม่มีโครงการไหนให้ความรู้สึกแบบญี่ปุ่นแท้ๆ อย่าง “รูเนะสุ ทองหล่อ 5” จะเห็นว่าเราใส่ใจตั้งแต่การมอบหมายให้บริษัทออกแบบเบอร์หนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีการออกแบบอย่างสร้างสรรค์โดยอ้างอิงหลักวิชาการ เมื่อผนึกกับโนว์ฮาวที่มีลิขสิทธิ์เฉพาะของชินวะ บริษัทพัฒนาอสังหาฯแถวหน้าจากญี่ปุ่นด้วยแล้ว จึงเป็นโครงการที่มีความลงตัวอย่างสมบูรณ์แบบ โดยแผนพัฒนา 3 ปีแรกของ ดับเบิ้ลยู-ชินวะ มุ่งพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์, ดำเนินงาน Property Management, บริหารการปล่อยเช่า และด้านการก่อสร้าง โดยจะเน้นที่การพัฒนาโครงการก่อนในช่วงแรก” นายวิชัยกล่าว
ด้านมร.โทโมยาสุ ยามาเบะ co-CEO บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด กล่าวว่า ชินวะ กรุ๊ป ก่อตั้งขึ้นมาประมาณ 60 ปีแล้ว สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองโอซาก้า เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีบริษัทในเครือมากมาย โดยเฉพาะในส่วนของการพัฒนาอสังหาฯ มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับแถวหน้าของวงการ นโยบายของบริษัทแม่ต้องการขยายการลงทุนออกสู่ต่างประเทศ และการเลือกเปิดตลาดที่ไทยเนื่องจากเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง ภาคอสังหาริมทรัพย์มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว เป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเข้ามาปักธงในไทยจะเป็นฐานที่มั่นที่แข็งแรงที่จะสามารถต่อยอดไปสู่ประเทศอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ทั้งนี้การรุกตลาดต่างประเทศยังรวมไปถึงอเมริกา และยุโรปอีกด้วย
“ก่อนที่จะเกิดการร่วมทุนเป็น ดับเบิ้ลยู-ชินวะ ได้มีการคุยกับหลายๆ ราย สำหรับเหตุผลที่เลือกจับมือกับบริษัท วรลักษณ์ฯ เนื่องจากมีนโยบายและแนวทางการทำงาน รวมถึงวิสัยทัศน์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยครั้งนี้ถือเป็นการร่วมทุนครั้งแรกของชินวะกรุ๊ป อีกด้วย ซึ่งเราเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ และมีความมั่นใจอย่างมาก แม้ตลาดคอนโดในไทยมีการเปิดตัวอย่างมาก แต่ถ้าเรามีความชัดเจนในการออกแบบ-ก่อสร้าง รวมถึงทำเลและจังหวะที่ดีก็สามารถประสบความสำเร็จได้ ทั้งนี้ในญี่ปุ่นการพัฒนาโครงการภายใต้แบรนด์ชินวะกรุ๊ป เป็นที่ยอมรับว่าเป็นโครงการคุณภาพมากกว่าใช้ราคาเป็นตัวทำตลาด เชื่อว่าชื่อเสียงและผลงานที่ผ่านมา จะส่งผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนญี่ปุ่นในไทย รวมถึงคนไทยและชาวต่างชาติอื่นๆ ที่ชื่นชอบการอยู่อาศัยแบบญี่ป่นแท้ๆ ที่รับรองว่าเป็นครั้งแรกในไทย ยังไม่เคยมีปรากฏจากโครงการใดมาก่อนอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังมั่นใจได้ว่าจะมีความคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ซื้อเพื่อการลงทุนหรือเพื่อปล่อยเช่าอีกด้วย ” มร.ยามาเบะกล่าว
โครงการรูเนะสุ ทองหล่อ 5 ตั้งอยู่บนที่ดินประมาณ 1 ไร่ ดำเนินงานโดย บริษัท ดับเบิ้ลยู-ชินวะ จำกัด เป็นคอนโดมิเนียมโลวไรส์ 8 ชั้น 1 อาคาร จำนวน 156 ยูนิต มี 2 type คือ 1-2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 29-65 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท มีการออกแบบโครงการและฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อให้มีบรรยากาศกลิ่นอายการอยู่อาศัยแบบญี่ปุ่นแท้ๆ เป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่หาได้จากที่นี่เพียงแห่งเดียวเท่านั้น ทั้งการใช้วัสดุก่อสร้าง-ตกแต่งบางส่วนนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น อาทิ ห้องน้ำระบบใหม่ที่พื้นสามารถแห้งได้อย่างรวดเร็วภายใน 1 นาที, การใช้กระเบื้องนาโน ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการดูดซับกลิ่น ความชื้นป้องกันไรฝุ่น เป็นต้น สำหรับพื้นที่ส่วนกลางและสิ่งอำนวยความสะดวกครบสมบูรณ์ สวนญี่ปุ่น สระว่ายน้ำ ออนเซนต้นตำรับแท้จากญี่ปุ่น สนามไดรฟ์กอล์ฟ Auto Parking ระบบรักษาความปลอดภัย ฯลฯ กำหนดเปิดขายอย่างเป็นทางการเดือนมีนาคม ปี 2560 คาดว่าจะเริ่มก่อสร้าง ราวไตรมาสที่สอง ก่อสร้างแล้วเสร็จภายในไตรมาสที่สี่ปี 2560 มูลค่าโครงการกว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งผู้สนใจสามารถสัมผัสได้ด้วยตาตัวเอง ณ ที่ตั้งโครงการในเร็วๆ นี้