เนื้อหาวันที่ : 2007-09-06 17:59:33 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2087 views

ทีซีเจ เอเซีย รุกตลาดรถโฟร์คลิฟท์และยานยนต์อุตสาหกรรม

ทีซีเจ เอเซีย แตกไลน์สบช่อง ลุยตลาดรถโฟร์คลิฟท์และยานยนต์อุตสาหกรรม โดยจับมือแบรนด์ดัง "OM" จากอิตาลีรุกตลาดเมืองไทย เน้นจับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง และโลจิสติกส์ มั่นใจคุณภาพสินค้าสามารถตอบสนองความต้องการตลาดได้แน่ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 100 คัน

ทีซีเจ เอเซีย แตกไลน์สบช่อง ลุยตลาดรถโฟร์คลิฟท์และยานยนต์อุตสาหกรรม โดยจับมือแบรนด์ดัง  OM  จากอิตาลีรุกตลาดเมืองไทย เน้นจับกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง และโลจิสติกส์ มั่นใจคุณภาพสินค้าสามารถตอบสนองความต้องการตลาดได้แน่ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 100 คัน

.

พร้อมโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าปีละ 10 % เผยกลยุทธ์ด้านการตลาดเน้นเจาะตรงถึงกลุ่มลูกค้า ล่าสุดเตรียมเข้าร่วมออกงาน ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ แฟร์ 2007 ที่ไบเทค หวังโชว์สุดยอดนวัตกรรม  ผลิตภัณต์ยานยนต์อุตสาหกรรม  OM

.

.

ดร.ทรงวุฒิ  ไกรภัสสร์พงษ์ 

กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีซีเจ เอเซีย

.

ดร.ทรงวุฒิ  ไกรภัสสร์พงษ์  กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.เจ. เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีซีเจ เอเซีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนงานที่จะขยายฐานทางธุรกิจเพิ่มเติมจากก่อนหน้านี้ ที่ทำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับเครื่องจักรกลหนัก รถเครน และธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายท่อสแตนเลส โดยล่าสุดบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายรถยกและยานยนต์อุตสาหกรรม ภายใต้แบรนด์ “OM” จากประเทศอิตาลีแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ลาว กัมพูชา และ เมียนมาร์ โดยการจัดจำหน่ายสินค้า “OM” นี้ เป็นการหนุนช่วยให้ ทีซีเจ เอเซีย รุกเข้าสู่ตลาดภาคอุตสาหกรรมและระบบโลจิสติกอย่างเต็มที่

.

ปัจจุบันประเทศไทยถือว่ามีศักยภาพทางด้านอุตสาหกรรมประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่รถยกทั้งประเภทโฟร์คลิฟท์และรถยกสำหรับแวร์เฮ้าส์ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญในการจัดวางและลำเลียงส่วนประกอบรวมทั้งผลิตภัณฑ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายขอบเขตการทำธุรกิจได้อีกมาก โดยมูลค่าตลาดรวมของรถโฟร์คลิฟท์มีมูลค่ารวมประมาณ 4 พันล้านบาทต่อปี และมีอัตราการเติบโตของตลาดราว 10 % ต่อปี

.

"ถือเป็นการรุกเข้าสู่อีกหนึ่งธุรกิจของเรา ซึ่งก่อนหน้านี้เราทำธุรกิจทางด้านเครื่องจักรกลหนัก และท่อสแตนเลสเป็นหลัก แต่หากดูจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศในด้านระบบโลจิสติกในประเทศไทย ธุรกิจนี้น่าจะเติบโตได้ดี ขณะที่รถที่เรานำเข้ามาจำหน่ายรับประกันด้วยมาตรฐานยุโรป ซึ่งสินค้ามีคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานง่าย สามารถตอบสนองการใช้งานได้ตรง และเป็นที่ยอมรับในหลายประเทศทั่วโลก" ดร.ทรงวุฒิ กล่าว 

.

ดร.ทรงวุฒิ กล่าวต่อไปว่า สำหรับรถโฟร์คลิฟท์ ที่บริษัทฯ นำเข้ามาทำตลาดในช่วงแรกจะมีด้วยกันหลายรุ่น เช่น รุ่น XD25, XD30,  XG25, XG30,  XE20, TL20 และ CTX20 เป็นต้น โดยรถยกเล่านี้มีคุณสมบัติที่สำคัญคือ เป็นระบบ Hydrodynamic ซึ่งเป็นระบบเฉพาะตัวของสินค้า “OM” ทำให้มีความแม่นยำและคล่องแคล่ว     ในการจัดวางอุปกรณ์ชิ้นส่วนประกอบต่าง ๆ มีรอบอายุการใช้งานนาน และมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ ถึงแม้จะเป็นสินค้าแบรนด์ยุโรป แต่ราคาสามารถแข่งขันกับตลาดรถยกในปัจจุบันได้ โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 6 แสนบาทขึ้นไป โดยในปี 2550 คาดว่าจะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 100 คัน และตั้งเป้าหมายการเติบโตของยอดขายไว้ 10%  ต่อปี

 .

 ในส่วนของแผนงานด้านการตลาด จะเน้นการเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นโรงงานและที่เกี่ยวข้องกับงาน โลจิสติกโดยตรง หรือ Direct Marketing  นอกจากนี้บริษัทฯ ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้า ไทยแลนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล โลจิสติกส์ แฟร์  2007 (Thailand International Logistic Fair 2007) ในระหว่างวันที่ 12-16 กันยายน 2550 ณ ศูนย์แสดงสินค้าไบเทค บางนา

 .

เพื่อนำเสนอรูปแบบ และคุณสมบัติของรถยกประเภทต่าง ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาร่วมงาน โดยงานดังกล่าวจะมีผู้เข้าชมงานทั้งใน และต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ ๆ สำหรับงานทางด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์โดยเฉพาะ ซึ่งภายในงานบริษัทฯ จะนำสิค้ารถยกเข้ามาแสดง คาดว่าจะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี

 .

สำหรับ ทีซีเจ เอเซีย ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2523 ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องจักรกลหนักด้านงานก่อสร้าง โดยจัดจำหน่ายทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ ต่อมาได้จัดตั้งบริษัท บิ๊กเครน แอนด์ อิควิปเม้นต์ เร้นทัลส์ จำกัด  โดย ทีซีเจ เอเซีย ถือหุ้นในสัดส่วน 99.99 %  เพื่อขยายการทำธุรกิจให้เช่าเครื่องจักร  ในเวลาถัดมา  ทีซีเจ เอเซีย เข้าถือหุ้น 51% ในบริษัท โตโย มิลเลนเนียม จำกัด เพื่อทำการผลิตและจำหน่ายท่อสแตนเลส  นอกจากนี้ได้จัดตั้ง บริษัท ยูนิค เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง ทีซีเจ เอเซีย กับ บริษัท ฟูรูกาว่า ยูนิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด จากประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วน 60% เพื่อทำธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเครนติดรถบรรทุก ภายใต้สินค้าชื่อ UNIC

 .

 ในส่วนของผลการดำเนินงานล่าสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2550  บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวม 1,665.85 ล้านบาท  มีหนี้สินรวม 646.52 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 1,019.33 ล้านบาท โดยมีรายได้รวม 451.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิรวม 14.34 ล้านบาท