ผู้ค้าและโรงบรรจุก๊าชหุงต้ม เล็งขยับค่าขนส่งทั้งระบบอีกถังละ 7.50 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2549 นี้ เป็นต้นไป โดยอ้างว่าเป็นการปรับตามทิศทางของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือในส่วนของการใช้น้ำมันอัตราพิเศษตามนโยบายของรัฐบาล

นายชิษณุพงศ์ รุ่งโรจน์งามเจริญ นายกสมาคมแก๊สปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หรือก๊าชหุงต้ม เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมอยู่ระหว่างติดตามการดำเนินงานของกลุ่มผู้ประกอบการโรงบรรจุก๊าช ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่า  จะมีการปรับราคาค่าขนส่ง แอลพีจี จากโรงบรรจุจนถึงผู้ค้ารายย่อยในอัตรา 10-25 สตางค์ต่อกิโลกรัม ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2549 นี้ เป็นต้นไป โดยอ้างว่าเป็นการปรับตามทิศทางของราคาน้ำมันดีเซล ซึ่งมีการปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และในกลุ่มผู้ประกอบการดังกล่าวก็ไม่ได้รับการช่วยเหลือในส่วนของการใช้น้ำมันอัตราพิเศษตามนโยบายของรัฐบาล

ทั้งนี้ในการปรับราคาค่าขนส่งดังกล่าว จะส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ค้ารายย่อย ดังนั้นสมาคม จำเป็นที่จะต้องแจ้งไปยังกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ในการพิจารณาตรวจสอบ รวมถึงอนุมัติให้มีการขยับราคาค่าขนส่งในส่วนของผู้ค้ารายย่อยที่จะส่งไปยังผู้บริโภคเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ซึ่งอัตราที่เหมาะสม ก็ควรจะยังเป็นการปรับในระดับราคา 30 สตางค์ต่อกิโลกรัม ตามที่สมาคมฯได้เคยเสนอขอปรับไปแล้วก่อนหน้านี้

.

ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโรงบรรจุแอลพีจี และสมาคมผู้ค้าก๊าชฯได้เคยแจ้งขอปรับราคาค่าขนส่งแอลพีจี ตั้งแต่ โรงบรรจุ ไปยังผู้บริโภคแล้ว ในอัตรารวมกันประมาณ 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม ทั้งนี้กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอให้ ชะลอการดำเนินการไปก่อน โดยเฉพาะในส่วนของผู้ประกอบการโรงบรรจุก๊าช ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหากโรงบรรจุมีการปรับราคาค่าขนส่งในครั้งนี้ ก็จะทำให้ผู้ค้าก๊าชรายย่อยจำเป็นต้องขยับราคาค่าขนส่งเช่นเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ราคาก๊าชแอลพีจี ที่จะส่งไปยังประชาชน ต้องปรับราคาเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 50 สตางค์ต่อกิโลกรัม