ฝ่ายวิจัย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส ประเทศไทย ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย คาดการณ์ว่า รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ หรือ บีอาร์ที ซึ่งเป็นระบบขนส่งมวลชนระบบใหม่ของกรุงเทพมหานคร จะเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางการเดินรถ

รถบีอาร์ทีเป็นระบบรถประจำทาง ซึ่งวิ่งบนช่องทางพิเศษโดยเฉพาะ แต่ทว่าในบางช่วงของเส้นทางการเดินรถ รถบีอาร์ทีจะมีการใช้ช่องทางร่วมกับยานพาหนะอื่นๆ รถบีอาร์ทีได้รับการออกแบบพร้อมติดตั้งระบบจีพีเอส ซึ่งจะทำงานประสานกับระบบสัญญาณไฟจราจร โดยบีอาร์ทีจะได้รับสัญญาณไฟเป็นเป็นอันดับแรก กรุงเทพมหานครจะจัดซื้อรถโดยสารที่ออกแบบมาพิเศษ และสามารถรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 80 – 140 คนต่อเที่ยว และจะออกเดินทางทุก 5 -10 นาที

เส้นทางการเดินรถบีอาร์ทีสายแรก จะเริ่มตั้งแต่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสช่องนนทรี วิ่งไปตามถนนนราธิวาสราชนครินทร์ ผ่านถนนพระราม 3 ข้ามสะพานพระราม 3 ไปยังถนนรัชดาภิเษก และสิ้นสุดที่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสรัชดา ซึ่งเป็นสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสส่วนต่อขยายไปยังฝั่งธนบุรี

โครงการรถบีอาร์ทีเป็นโครงการที่เสนอในปี 2547 โดยนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่เพิ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนมกราคม ปี 2550 ที่ผ่านมา โดยคาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปลายไตรมาสที่ 1 ปี 2551

อาคารที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางเดินรถส่วนใหญ่จะเป็นอาคารประเภทที่พักอาศัย ซึ่งในปัจจุบัน ตลอดถนนนราธิวาส-ราชนครินทร์ และถนนพระราม 3 มีคอนโดมิเนียมที่แล้วเสร็จ 14,000 – 15,000 ยูนิต และอีกประมาณ 5,900 ยูนิตอยู่ในระหว่างการดำเนินก่อสร้าง โดยคาดว่าคอนโดมิเนียมดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปี 2550 – 2552 ซึ่งจะเป็นการเพิ่มปริมาณคอนโดมิเนียมในย่านนี้ให้มีมากกว่า 20,000 ยูนิต ในอีก 2 ปีข้างหน้า

นอกจากนี้ บริเวณดังกล่าวยังมีพื้นที่สำนักงานเกือบ 500,000 ตารางเมตร และพื้นที่ค้าปลีกประมาณ 53,000 ตารางเมตร ซึ่งได้แก่ แมคโคร สาทร, ฟิวเจอร์ มาร์ท พลาซ่า และเทสโก้ โลตัส

ซีบี ริชาร์ด เอลลิส เชื่อว่าการเดินทางไปยังย่านดังกล่าวได้โดยสะดวกโดยอาศัยรถบีอาร์ที จะทำให้ความต้องการที่ดินและโครงการอสังหาริมทรัพย์ตามแนวเส้นทางรถจะเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามความมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นมากเท่าใดนั้น จะขึ้นอยู่กับคุณภาพการให้บริการของระบบรถบีอาร์ที

ปัจจุบัน ราคาที่ดินที่อยู่ตามแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชน ไม่ว่าจะเป็นระบบรถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดิน ต่างมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้คนหันมาใช้ระบบขนส่งมวลชนดังกล่าวกันมากขึ้น

นายนวพล วิริยะกุลกิจ หัวหน้าฝ่ายวิจัย ซีบี ริชาร์ด เอลลิส กล่าวว่า "ผลกระทบจากการมีรถบีอาร์ทีที่จะเกิดกับการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ตลอดบริเวณถนนนราธิวาส-ราชนครินทร์ และถนนพระราม 3นั้น จะขึ้นอยู่กับคุณภาพการให้บริการของบีอาร์ทีเอง โดยปัจจัยสำคัญส่วนหนึ่งที่จะทำให้โครงการรถบีอาร์ทีประสบความสำเร็จ ได้แก่ ความน่าเชื่อถือ และความถี่ในการเดินรถ หากโครงการรถบีอาร์ทีประสบความสำเร็จ จะทำให้พื้นที่ตลอดแนวถนนพระราม 3 และถนนนราธิวาส-ราชนครินทร์ เป็นอีกหนึ่งทำเลที่ทั้งบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และผู้ที่ต้องการซื้อที่พักอาศัยจะให้ความสนใจ"

สาธารณูปโภคพื้นฐานด้านการขนส่ง อาทิ ระบบขนส่งมวลชน จะมีผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในย่านใจกลางเมืองทั่วโลก สำหรับกรุงเทพฯ รถไฟฟ้าบีทีเอส และรถไฟฟ้าใต้ดินค่อย ๆ เปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตและการเดินทางของคนกรุงเทพฯ ทีละน้อย การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิตของคนที่อาศัยในเมืองหลวงได้ก่อให่เกิดผลกระทบต่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในหลายด้านมาโดยตลอด

เมื่อไม่นานมานี้ คอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ตามแนวเส้นทางระบบขนส่งมวลชนได้รับความนิยมจากผู้ที่พักอาศัยในเมือง ที่ยอมแลกการมีพื้นที่พักอาศัยขนาดใหญ่ เพื่อมาอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากขึ้น การเดินทางไปยังสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส หรือรถไฟฟ้าใต้ดินได้โดยสะดวกได้กลายเป็นปัจจัยที่สำคัญอย่างมากต่อความสำเร็จของโครงการค้าปลีกและอาคารพาณิชย์

ผู้ที่อยู่อาศัยตามแนวเส้นทางการเดินรถบีอาร์ทีจะรอคอยการเปิดให้บริการ ซึ่งหากโครงการประสบผลสำเร็จ จะไม่เป็นเพียงแค่ความสะดวกสบายและเวลาในการเดินทางที่ลดลง แต่จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าของอสังหาริมทรัพย์ตลอดเส้นทางรถบีอาร์ทีอีกด้วย