คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ รุกอินเดียใช้ลูกอ้อนให้มาลงทุนหรือร่วมทุนกับนักลงทุนไทย อีกเป็นการเพื่อขยายความร่วมมือ โอกาสทางการค้าและการลงทุนสองฝ่าย เสริมฐานอุตสาหกรรมไอที ไบโอเทค ยา เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วน
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอ รุกอินเดียใช้ลูกอ้อนให้มาลงทุนหรือร่วมทุนกับนักลงทุนไทย อีกเป็นการเพื่อขยายความร่วมมือ โอกาสทางการค้าและการลงทุนสองฝ่าย เสริมฐานอุตสาหกรรมไอที ไบโอเทค ยา เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วน |
. |
นายสาธิต ชาญเชาวน์กุล เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม – 4 กันยายน 2550 นี้ นายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะเป็นหัวหน้าคณะพร้อมด้วยผู้บริหารของบีโอไอ สำนักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ (ซิปา) ศูนย์พันธุ์วิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) และนักธุรกิจไทย |
. |
เดินทางไปชักจูงการลงทุน พร้อมทั้งศึกษาโอกาสและลู่ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับอินเดีย ณ เมือง บังกาลอร์ และนิวเดลี โดยมีเป้าหมายที่จะชักชวนกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพของอินเดีย อาทิ ซอฟต์แวร์ ไบโอเทคและยา เหล็ก ยานยนต์และชิ้นส่วน มาลงทุนหรือร่วมทุนกับนักลงทุนไทย นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้นักลงทุนไทยขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนในอินเดียด้วย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์ |
. |
การเดินทางไปชักจูงการลงทุนที่ประเทศอินเดียครั้งนี้ จะมีการจัดสัมมนาด้านการลงทุน และการพบปะหารือระหว่างนักธุรกิจไทยและอินเดีย การพบปะหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และอุตสาหกรรม และการเยี่ยมชมหน่วยงานและธุรกิจด้านซอต์ฟแวร์ ด้านอุตสาหกรรมไบโอเทคและยา รวมถึงพบปะหารือกับบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนด้วย |
. |
นอกจากนี้ คณะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมยังมีกำหนดการที่จะพบปะและเยี่ยมชมกิจการของบริษัททาทา ยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมเหล็กของอินเดีย ซึ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้ ได้ประกาศลงทุนโรงงานถลุงเหล็ก และโรงงานผลิตรถปิคอัพในไทยด้วย |
. |
สำหรับการลงทุนจากอินเดียในประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2545 – 2549) พบว่า มีโครงการลงทุนจากอินเดียยื่นขอรับส่งเสริมทั้งสิ้น 72 โครงการ รวมมูลค่าเงินลงทุน 9,247 ล้านบาท ส่วนในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ 2550 พบว่า มีโครงการลงทุนจากอินเดียยื่นขอรับส่งเสริมแล้ว 13 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนประมาณ 2,092 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึงร้อยละ 226 หรือกว่า 2 เท่าตัว |
. |
โครงการลงทุนอินเดียในไทยมีทั้งใหญ่ กลาง และขนาดเล็ก เช่น บริษัท Indorama ผลิตเคมีภัณฑ์ และพลาสติก บริษัท Aditya Birla ผลิตเคมีภัณฑ์ เส้นใยสังเคราะห์ บริษัท Tata ได้เข้ามาลงทุนสาขาเหล็ก และผลิตรถปิกอัพในไทย เป็นต้น |
. |
สำหรับการลงทุนของนักลงทุนไทยในประเทศอินเดีย นับเป็นอันดับ 3 ของประเทศในกลุ่มอาเซียน รองจากมาเลเซียและสิงคโปร์ และลงทุนเป็นอันดับที่ 19 ในกลุ่มนักลงทุนต่างชาติทั้งหมด โดยในช่วง 16 ปีที่ผ่านมา มีโครงการลงทุนของไทยในอินเดียทั้งสิ้น 144 โครงการ รวมมูลค่า 831.22 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1.12 ของการลงทุนจากต่างประเทศในอินเดียทั้งหมด โดยนักลงทุนไทยส่วนใหญ่ลงทุนในสาขาโทรคมนาคม การแปรรูปอาหาร โรงแรมและการท่องเที่ยว การก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ และอุปกรณ์ไฟฟ้า |
. |
ทั้งนี้นักลงทุนรายใหญ่ของไทยในอินเดีย อาทิ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในด้านการผลิตอาหารสัตว์และแปรรูปเพื่อส่งออก และการเลี้ยงไก่ บริษัท Italian-Thai Development จำกัด (มหาชน) ในด้านโครงการก่อสร้าง บริษัท Thai Summit Neel Auto Private,Ltd. ในด้านการผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ และบริษัท Delta Electronics ในด้านอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น |