สศอ. สนองนโยบายรัฐบาล แนะ 5 มาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ ผลักดันไทยศูนย์กลางการผลิตพลาสติกชีวภาพในภูมิภาคเอเชีย
นายศิริรุจ จุลกะรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า จากผลการศึกษาและวิเคราะห์สถานภาพอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศไทย พบว่า 1. ประเทศไทยมีวัตถุดิบทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก เช่น อ้อย มันสำปะหลัง สามารถรองรับอุตสาหกรรมชีวภาพได้ 2. งานวิจัยเทคโนโลยีวัตถุดิบและกระบวนการผลิตพลาสติกชีวภาพของไทยส่วนมากอยู่ในระดับปฏิบัติการ ยังไม่รองรับในระดับอุตสาหกรรม 3. มีการผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพภายในประเทศ โดยผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพที่ผลิตได้ยังมีราคาสูงกว่าผลิตภัณฑ์พลาสติกเดิมที่ผลิตจากปิโตรเลียม และ 4. แนวโน้มกระแสอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและพลังงาน ก่อให้เกิดการใช้ผลิตภัณฑ์พลาสติกชีวภาพเพิ่มมากขึ้น แต่ประเทศไทยก็ยังมีข้อจำกัดบางประการ ที่จำเป็นจะต้องมีการกำหนดแนวทาง หรือมาตรการเพื่อการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพ
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริมให้อุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพหรือไบโอพลาสติก ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมายที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น และสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของภูมิภาคเอเชีย ประเทศไทยควรมีมาตรการส่งเสริมและสนับสนุน ดังนี้
สำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมพลาสติกชีวภาพของประเทศไทยในขณะนี้ถือว่ายังอยู่ในช่วงก้าวแรกเท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันมีการนำเข้าเม็ดพลาสติกชีวภาพประมาณ 500 ตัน เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แล้วส่งออกตามคำสั่งซื้อจากต่างประเทศ หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 80 ผลิตเพื่อส่งออกเป็นหลัก โดยมีผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมนี้มีประมาณ 42 ราย และเริ่มดำเนินการผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพที่ผลิตจากน้ำตาล ที่จังหวัดระยอง ในปลายปี 2559 ด้วยกำลังการผลิตประมาณ 20,000 ตัน ซึ่งถือเป็นโรงงานผลิตเม็ดพลาสติกชีวภาพแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
อย่างไรก็ดีพลาสติกชีวภาพถือเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่คาดว่าจะเข้ามามีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจของโลกในอนาคต เพราะเป็นวัสดุที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับในปัจจุบันมีมาตรการทางกฎหมายต่างๆ ของต่างประเทศ ที่สนับสนุนเพิ่มมากขึ้น อาทิ การห้ามใช้ถุงพลาสติกที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกทั่วไปของฝรั่งเศส การอนุญาตและส่งเสริมให้ใช้ถุงพลาสติกชีวภาพของอิตาลี หรือการสนับสนุนการจัดซื้อจัดจ้างสีเขียวของสหรัฐอเมริกา โดยคาดการณ์ว่าในปี 2563 มูลค่าความต้องการพลาสติกชีวภาพทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ คิดเป็นอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีประมาณร้อยละ 20 โดยภูมิภาคเอเชียเป็นผู้ผลิตพลาสติกชีวภาพในสัดส่วนประมาณร้อยละ 80 ของกำลังการผลิตพลาสติกชีวภาพของโลกที่มีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ประมาณ 6.73 ล้านตัน