เนื้อหาวันที่ : 2007-08-17 10:18:57 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2556 views

เทเลคอม มาเลเซีย เตรียมขยายตัวลงทุนในต่างประเทศ

บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย ในฐานะบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เตรียมบุกตลาดต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในระดับภูมิภาคอินโดจีน

บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย ในฐานะบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เตรียมบุกตลาดต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในระดับภูมิภาคอินโดจีน

.

บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย เบอร์ฮัด (ทีเอ็ม) (Telekom Malaysia Berhad (TM)) เปิดเผยรายได้ในตลาดต่างประเทศช่วงครึ่งแรกของปีพ.ศ. 2550 ว่า ขยายตัวขึ้น 18.9% ซึ่งเป็นรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์และน่าประทับใจ โดยรายได้ในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 2.27 พันล้านริงกิต (1 ดอลลาร์สหรัฐ = 3.46 ริงกิต) จากระดับ 1.91 พันล้านริงกิตในช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ของบริษัทไม่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินริงกิตที่แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวเลขหลังการแปลงค่าเงินแล้วลดลง 6.3% แต่รูปแบบการเติบโตยังคงแข็งแกร่ง

.

บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย เป็นผู้นำคลื่นลูกใหม่ในตลาดการสื่อสารโทรคมนาคมเอเชียและมีการเติบโตที่แข็งแกร่ง เนื่องจากฐานผู้สมัครใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระดับภูมิภาค 31.8 ล้านราย ณ สิ้นสุดเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 ขยายตัวขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของพ.ศ. 2549 ขณะที่บริษัทในเครือเป็นผู้นำยอดผู้จดทะเบียน ได้แก่ บริษัท พีที เอ็กซ์เซลโคมินโด พราตามา ทีบีเค ในอินโดนีเซีย มีผู้จดทะเบียนใช้บริการ 10.2 ล้านราย บริษัท ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล บังคลาเทศ ในบังคลาเทศ มียอดผู้จดทะเบียนใช้บริการ 6.7 ล้านราย และ บริษัท ไดอะล็อก เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ในศรีลังกา มีตัวเลขผู้จดทะเบียนใช้บริการ 3.7 ล้านราย

.

บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย ในฐานะบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก เปิดเผยว่า การลงทุนในต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 26% ของรายได้ ทีเอ็ม กรุ๊ป ซึ่งมีรายได้สิ้นสุด ณ เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 ทั้งหมด 8.5 พันล้านริงกิต ขณะที่ Group PATAMI มีรายได้คิดเป็น 26% โดยทั้งสองกลุ่มมีรายได้ ณ สิ้นสุดเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2550 คิดเป็น 24% และ 29% ตามลำดับ

.

"เนื่องด้วยการปฏิบัติงานในประเทศแถบเอเชีย 9 ประเทศ การปฏิบัติงานในต่างประเทศยังคงสร้างรายได้ให้บริษัทอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากความมุ่งมั่นพยายามของเราในการใช้ซินเนอร์จีและการขยายมูลค่าจากการลงทุนของบริษัท" นาย ยูซอฟ อันเนอร์ ยะโก๊บ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารระดับสูง (ซีอีโอ) ของ ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เอสดีเอ็น บีเอชดี ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของทีเอ็มที่รับผิดชอบด้านการลงทุนในต่างประเทศ กล่าว "การใช้จ่ายด้านทุนในต่างประเทศช่วงครึ่งแรกของปีนี้คิดเป็นมูลค่ารวม 1.84 พันล้านริงกิต นับว่าเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2 เท่า โดยได้แรงผลักดันจากเครือข่าย Page ที่แข็งแกร่งถึง 2 ใน 3 ของการขยายตัวในประเทศอินโดนีเซียและบังคลาเทศ" นาย ยูซอฟ กล่าว และแผนการณ์การใช้จ่ายด้านทุนสำหรับการลงทุนในต่างประเทศตลอดทั้งปีพ.ศ. 2550 จะอยู่ที่ระดับ 4.9 พันล้านริงกิต

.

บริษัท เทเลคอม มาเลเซีย มีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยบริษัทดำเนินธุรกิจด้านโทรศัพท์มือถือในเอเชียซึ่งครอบคลุมถึงการถือหุ้นในบริษัทพีที เอ็กซ์เซลโคมินโด พราตามา ทีบีเค ในอินโดนีเซีย (67.02%) บริษัท ทีเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล (บังคลาเทศ) จำกัด ในบังคลาเทศ (70%) บริษัทไดอะล็อก เทเลคอม จำกัด ในศรีลังกา(85.72%) บริษัท สไปซ์ คอมมูนิเคชั่นส์ จำกัด ในอินเดีย (39.2%) บริษัทโมบายวัน จำกัด ในสิงคโปร์ (29.71% ผ่านทางบริษัทซันแชร์ อินเวสเมนเมนท์) บริษัทเทเลคอม มาเลเซีย อินเตอร์เนชั่นแนล แคมโบเดีย คอมพานี จำกัด ในกัมพูชา(100%)และบริษัท โมบาย เทเลคอมมูนิเคชั่นส์ คอมพานี ออฟ เอสฟาฮานในอิหร่าน(49%) นอกจากนี้ เทเลคอม มาเลเซียยังมีหุ้นอยู่ในบริษัทมัลติเน็ท ปากีสถาน(ไพรเวท) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนอกกลุ่มโทรศัพท์มือถือในปากีสถาน(89%)บริษัทสามารถ ไอโมบายล์ คอมพานี จำกัด (24.42%) และบริษัทสามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในประเทศไทย(18.98%)

.

นายยูซอฟ กล่าวว่า จากการที่บริษัทมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาด้านการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลักช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 ด้วยการดำเนินงานของบริษัทสไปซ์ คอมมูนิเคชั่น ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามในตลาดหุ้นอินเดียในเดือนมิ.ย.นี้ได้ทำให้เห็นว่า บริษัทเทเลคอม มาเลเซียมีมูลค่าการลงทุนเบื้องต้นในบริษัทเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากจำนวนการเข้าร่วมลงทุนอย่างท่วมท้นถึง 38 ครั้งทำให้ขณะนี้ บริษัทมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

.

นอกจากนี้ บริษัทยังมุ่งเน้นในเรื่องอื่น ๆ ซึ่งรวมถึงการเปิดตัวบริษัทในฐานะที่เป็นบริษัทลงทุนด้านโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดในศรีลังกา ซึ่งบริษัทได้ลงนามในแผนการลงทุนในศรีลังกาไป 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วง 2 ปีข้างหน้า ผ่านการเจรจาของบริษัทในเครือ โดยการเจรจาครั้งนี้ถือเป็นก้าวแรกสำหรับการดำเนินธุรกิจในเอเชียใต้ ด้วยการใช้บริการเครือข่ายเซลลูลาร์ บรอด์แบรนด์ โทรทัศน์ผ่านดาวเทียม และเครือข่ายไร้สายพื้นฐาน

.

ในปี 2550 เทเลคอม มาเลเซีย จะปรับใช้ยุทธศาสตร์ 2 ประการ ประการแรกคือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำตลาดในระดับภูมิภาค ประการที่สองคือ การศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับโอกาสทางการค้าใหม่ ๆทั้งหมดในเอเชีย ซึ่งมุ่งเน้นที่ตลาดอินโดจีน เพื่อขยายรากฐานทางธุรกิจของบริษัทในภูมิภาค โดยนายยูซอฟ กล่าวว่า "เราจะให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจที่ทรงพลังของภูมิภาคอินโดจีน เนื่องจากภาคธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมของตลาดกลุ่มนี้มีศักยภาพการเติบโตสูงมาก"