เนื้อหาวันที่ : 2016-07-12 09:04:16 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 2027 views

จีอีสร้างสถิติโลกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ด ขึ้นแท่นผู้ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

จีอี และการไฟฟ้าฝรั่งเศสเปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแห่งแรกของประเทศฝรั่งเศส ซึ่งใช้เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอี

 

จีอี และการไฟฟ้าฝรั่งเศส หรือ อีดีเอฟ เริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมในเมืองบูแชงประเทศฝรั่งเศสอย่างเป็นทางการ โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอี  การเริ่มเดินเครื่องโรงไฟฟ้าครั้งนี้นับเป็นการเปิด ศักราชใหม่ของการบูรณาการระบบดิจิทัลเข้ากับเทคโนโลยีการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์ ในโอกาสนี้ จีอียังประกาศว่ากินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดได้บันทึกให้จีอีเป็นผู้ขับเคลื่อนโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของโลก จากการที่โรงไฟฟ้าในเมืองบูแชงแห่งนี้มีประสิทธิภาพการทำงานในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 62.22

นายสตีฟ บอลเซ่ ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารของจีอี พาวเวอร์ กล่าวว่า “วันนี้ เราได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเปิดตัวโรงไฟฟ้าแห่งอนาคต เรายินดีที่ได้รับการบันทึกในกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดในฐานะผู้สร้างระบบให้แก่โรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของโลกเราภูมิใจที่เครื่องกังหันก๊าซของจีอีได้มอบความน่าเชื่อถือและความยืดหยุ่นระดับแนวหน้าของวงการให้กับลูกค้าของเรา จีอีมุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับอีดีเอฟและส่งมอบบริการที่จะช่วยให้โรงไฟฟ้าในบูแชงเดินเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องในอนาคต”

เครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA ของจีอีมิเพียงมีประสิทธิภาพสูงเหนือชั้น หากแต่ยังมีความยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถเดินเครื่องได้เต็มพิกัดภายในระยะเวลาไม่ถึง 30 นาที ทั้งยังช่วยให้พันธมิตรของจีอีสามารถใช้พลังงานทดแทน ได้เพิ่มมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการไฟฟ้าในระบบที่เปลี่ยนแปลงขึ้นลงอยู่ตลอดได้อย่างรวดเร็ว และปรับตัวต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างทันท่วงที ความล้ำหน้าทางเทคโนโลยีเหล่านี้สอดคล้องกับ ข้อตกลงปารีสที่จัดทำขึ้นในระหว่างการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 21 (COP21) โดยผู้แทนจาก 195 ประเทศที่เข้าร่วมประชุมได้ให้ปฏิญญาไว้ว่าจะช่วยกันลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และให้ความสำคัญต่อการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดให้มากยิ่งขึ้น

นายฌ็อง –เบอร์นาร์ด เลวี่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอีดีเอฟ กล่าวว่า “การที่อีดีเอฟเลือกพัฒนา โรงไฟฟ้าพลังความร้อนรุ่นใหม่นี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดที่มีอยู่ในตลาดมาขับเคลื่อนให้โรงไฟฟ้าพลังความร้อนของประเทศให้มีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่สูงขึ้น ตลอดจนช่วยสนับสนุนช่วงเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน สิ่งเหล่านี้ช่วยยืนยันถึงความตั้งใจปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาด้านนวัตกรรมภายใต้กลยุทธ์ CAP2030”

โรงไฟฟ้าบูแชงแสดงให้เห็นถึงความสามารถของโรงไฟฟ้าระบบดิจิทัลของจีอี ที่ช่วยให้การผลิตไฟฟ้า เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยสามารถนำพลังงานที่เคยสูญเสียไปกับระบบกลับมาใช้ได้ โดยจีอีใช้ประโยชน์จากข้อมูลแบบเรียลไทม์ในการขับเคลื่อนการทำงานของระบบรวมถึงการควบคุมระบบผลิตกระแสไฟฟ้าด้วยดิจิทัล ซึ่งส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพและเสถียรภาพ ทั้งยังให้ข้อมูลที่จำเป็นเพื่อให้สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นได้ล่วงหน้า ซึ่งส่งผลให้เกิดความน่าเชื่อถือและช่วยเพิ่ม ประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างสูงสุด

โรงไฟฟ้าบูแชงมีกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสูงกว่า 605 เมกะวัตต์หรือมากเพียงพอที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้า ให้แก่บ้านเรือนกว่า 6.8 แสนหลังคาเรือน นอกจากนี้อัตราการไหลเวียนของอากาศในคอมเพรสเซอร์ ของเครื่องกังหันก๊าซรุ่น HA นั้นเคลื่อนที่เร็วมากเพียงพอที่จะเร่งเครื่องเรือเหาะกู๊ดเยียร์ได้ภายในเวลาเพียง 10 วินาทีเท่านั้น และส่วนปลายสุดของใบพัดของเครื่องกังหันก๊าซรุ่น 9HA.01 จะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วถึง 1,200 ไมล์ต่อชั่วโมง หรือ 1,931 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเป็นการเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าเสียงถึง 1.5 เท่า

นายโจ แมสเตรนเจโล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ด้านก๊าซ พาวเวอร์ ซิสเตมส์ ของจีอี พาวเวอร์ กล่าวว่า “การเปิดเดินเครื่องโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมครั้งนี้ เป็นก้าวสำคัญของจีอีในอุตสาหกรรมพลังงาน ความสำเร็จนี้มิอาจเกิดขึ้นได้เลยหากปราศจากความมุ่งมั่นทุ่มเทและความอุตสาหะของพนักงานจีอี และอีดีเอฟจำนวนมากทั่วโลกที่ต่างมุ่งมั่นเดินหน้าสู่การใช้พลังงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จีอีมีสินค้าและบริการต่างๆ ที่สามารถร่วมประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ๆ ได้ โดยผ่านการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ และบุคลากรเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ดังกล่าว”