เนื้อหาวันที่ : 2016-06-17 10:04:20 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1870 views

AJD – อะลีบาบา จับมือ ธนาคารกรุงไทย หนุนเอสเอ็มอีไทย ขยายช่องทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ลุยตลาดโลก

บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ (AJD) ในฐานะตัวแทนผู้ให้บริการ Alibaba ในประเทศไทย และอะลีบาบากรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อันดับ 1 ในตลาดการค้าออนไลน์ของจีน จับมือธนาคารกรุงไทย  เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ขยายช่องทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซ เพิ่มโอกาสแข่งขันในเวทีการค้าระหว่างประเทศ  โดยให้บริการรับสมัครสมาชิก Gold Supplier แบบ One Stop Service พร้อมสนับสนุนเงินทุนหมุนเวียน และบริการทางการเงินที่ครบวงจร โดยทางอาลีบาบาคาดหวังจากธนาคารกรุงไทยไว้ที่ 10,000 สมาชิก จากความร่วมมือในครั้งนี้

ดร.อมร มีมะโน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) (AJD) ผู้จัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ AJ กล่าวว่า บริษัทฯและบริษัท อะลีบาบากรุ๊ป จำกัด ได้ร่วมลงนามข้อตกลงกับธนาคารกรุงไทย เพื่อสนับสุนนผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ขยายช่องทางธุรกิจด้านอีคอมเมิร์ซ ซึ่ง AJD ในฐานะตัวแทนผู้ให้บริการ Alibaba ในประเทศไทย จะสนับสนุนธนาคารกรุงไทยในด้านของการบริการสมาชิก ทั้งในเรื่องของการจัดอบรมวิธีการใช้งาน การให้คำแนะนำระหว่างการใช้งาน ตลอดจนการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้สมาชิกอะลีบาบาในประเทศไทยสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่ความสำเร็จของผู้ประกอบการในการขยายตลาดและสร้างยอดขายสินค้าใน alibaba.com

“การร่วมมือกันครั้งนี้ เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน ซึ่งด้วยฐานลูกค้าเอสเอ็มอีของธนาคารกรุงไทยที่มีฐานลูกค้าเป็นจำนวนมาก ขณะที่ AJD จะให้บริการรับสมัครสมาชิก Gold Supplier แบบ One Stop Service เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี โดยเฉพาะด้านการค้าระหว่างประเทศทำธุรกิจผ่าน Digital Platform ของ Alibaba.com ในลักษณะการค้าอีคอมเมิร์ซแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (Business to Business) เพื่อสนับสนุนให้สามารถขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดโลกในยุคดิจิทัลได้อย่างมีศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ” ดร.อมร กล่าว

ด้าน Mr.Wu Zhe,Jerry  Country Manager of Thailand, Alibaba.com (นายวูชี เจอรี่ ผู้จัดการประจำประเทศไทย) กล่าวเพิ่มเติมว่า สินค้าของประเทศไทยเป็นที่ต้องการและอยู่ในอันดับต้นๆที่ได้รับการค้นหาจากผู้ซื้อทั่วโลก ในขณะที่ผู้ขายสินค้าที่เป็นผู้ประกอบการจากประเทศไทยยังมีไม่มาก ดังนั้นความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ในการขยายตลาดต่างประเทศได้มากขึ้นทั้งนี้ทางอะลีบาบาได้คาดหวังว่าธนาคารกรุงไทยจะสามารถส่งเสริมผู้ประกอบการให้สามารถขยายธุรกิจในตลาดโลกผ่านอะลีบาบา ได้ไม่ต่ำกว่า10,000 สมาชิก ภายในระยะเวลา 1 ปี

ขณะที่นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย ได้ร่วมลงนามกับ บริษัท อะลีบาบากรุ๊ป จำกัด และ บมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด ในการให้บริการรับสมัครสมาชิก Gold Supplier แบบ One Stop Service เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีโดยเฉพาะด้านการค้าระหว่างประเทศทำธุรกิจผ่าน Digital Platform ของ Alibaba.com ในลักษณะการค้าอีคอมเมิร์ซแบบธุรกิจต่อธุรกิจ (Business to Business) เพื่อสนับสนุนให้สามารถขยายผลิตภัณฑ์ไปสู่ตลาดโลกในยุคดิจิทัลได้อย่างมีศักยภาพ เนื่องจากอะลีบาบา กรุ๊ป เป็นผู้นำในการให้บริการ เป็นสื่อกลางการค้าออนไลน์ โดยมีสัดส่วนตลาดสูงสุดของผู้ใช้บริการดังกล่าวในประเทศจีนที่มี Membership กว่า 100 ล้านราย ใน 240 ประเทศทั่วโลก

ธนาคารกรุงไทยจะดำเนินการให้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสมัคร การใช้งาน ตลอดจนการแก้ปัญหาจากการใช้งาน นอกจากนี้ ธนาคารยังสนับสนุนสินเชื่อ Trade Finance เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน รวมถึงให้คำปรึกษาทางธุรกิจอื่นๆ และได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการใช้บริการ KTB Corporate Online เป็นเวลา 1 ปี โดยสมัครเป็นสมาชิก Gold Supplier ได้ที่สำนักงานธุรกิจ 79 แห่ง และสำนักงานธุรกิจต่างประเทศอีก 25 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งสมาชิก Gold Supplier ทุกรายที่ผ่านการรับรองจาก อะลีบาบากรุ๊ป จะได้รับสิทธิพิเศษในการอัพโหลดสินค้าได้ไม่จำกัด แสดงสินค้าหน้าร้านได้สูงสุดถึง 25 รายการ พร้อมพื้นที่แบนเนอร์สำหรับโฆษณาสินค้านาน  1 เดือน

นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ กล่าวในตอนท้ายว่า สมาชิก Gold Supplier ทุกรายมีสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมอบรมเรียนรู้เทคนิคทางการค้า เพื่อเสริมความแข็งแกร่งของผู้ประกอบการจากผู้เชี่ยวชาญของ อะลีบาบากรุ๊ป และนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในวงการธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ตลอดระยะเวลาสมาชิกที่เป็นสมาชิก

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
KTB Call Center โทร. 0-2111-1111 AJ Call Center โทร. 1108 และ Website : http://alibaba.ajthai.comสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย ในการก้าวเข้าสู่ตลาดการค้าในระดับโลกได้อย่างเต็มรูปแบบ  เนื่องจากเรามองเห็นศักยภาพของตลาดในประเทศไทย