เนื้อหาวันที่ : 2016-04-29 10:51:16 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 918 views

กรมการขนส่งทางบกเปิดแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” ให้ประชาชนและผู้ประกอบการมีส่วนร่วมบริหารจัดการพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถโดยสารและรถบรรทุก

นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม กล่าวว่า จากการที่กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) ได้นำระบบ GPS มาใช้บริหารและติดตามการเดินรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก ตามโครงการ “มั่นใจทั่วไทย รถใช้ GPS” โดยเชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดเข้ากับศูนย์บริหารจัดการเดินรถด้วยระบบ GPS แบบเรียลไทม์ เช่น ข้อมูลการใช้ความเร็ว ชั่วโมงการขับขี่ และตำแหน่งพิกัดของรถ เป็นต้น ขบ. ได้เปิดแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” ให้ประชาชนและผู้ประกอบการขนส่งมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถแบบเรียลไทม์ เป็นการบริหารจัดการร่วมกันทุกภาคส่วนแบบ 360 องศา และ ขบ. โดยศูนย์ฯ จะติดตามรถทุกคันในระบบส่งข้อมูลปัญหา และปัญหาจากประชาชน ให้ผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาปรับปรุงการบริหารจัดการ รวมถึงให้ประชาชนผู้ใช้บริการส่งข้อมูลประสบการณ์จากการใช้บริการตรงถึงผู้ประกอบการ และ ขบ. ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ ดังนั้น ข้อมูลจากแอพพลิเคชั่นดังกล่าว จึงเป็นส่วนสำคัญในการติดตามรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับบริการที่มีคุณภาพ และยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยทางถนนของประเทศอย่างยั่งยืน

การทำงานของแอพพลิเคชั่น “DLT GPS” สามารถค้นหาตำแหน่งของรถในขณะนั้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยใช้งานได้ทั้งบนระบบปฏิบัติการ Android และ iOS เพียงระบุหมายเลขทะเบียนรถ ระบบจะแสดงตำแหน่งพิกัดของรถ ความเร็วที่ใช้ และรายละเอียดของพนักงานขับรถ พร้อมระบบร้องเรียน และช่องทางรับแจ้งเหตุ เช่น กรณีรถโดยสารเกิดอุบัติเหตุ หรือรถเสียระหว่างทาง เป็นต้น ระบบจะรายงานเหตุการณ์พร้อมแสดงพิกัดของรถเข้าสู่ฐานข้อมูลของศูนย์ฯ ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลรถในระบบ GPS จนถึงวันที่ 21 เมษายน 2559 จำนวน 52,058 คัน เป็นรถโดยสารประจำทาง 3,483 คัน รถโดยสารไม่ประจำทาง 4,428 คัน รถบรรทุกไม่ประจำทาง 21,174 คัน รถบรรทุกส่วนบุคคล 13,542 คัน และรถอื่น ๆ 9,431 คัน โดยข้อมูลของรถจะปรากฏในระบบศูนย์ฯ ทันทีเมื่อมีการใช้รถ และทันทีที่เกิดการกระทำผิดเงื่อนไขการเดินรถและข้อกำหนดด้านความปลอดภัย ศูนย์ฯ จะบันทึกประวัติผู้ขับรถ พร้อมประสานผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานขับรถทุกคนให้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน