อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย  เตรียมวางกรอบแผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน ฝ่ายภายใต้กรอบ IMT-GT ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อต่อการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันยังเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกทั้งสองอีกด้วย

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 26-27 กรกฎาคม 2550 ที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศในฐานะหน่วยประสานงานหลักของคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุนของไทย ภายใต้กรอบแผนงานพัฒนาเขตเศรษฐกิจ 3 ฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย (IMT-GT) ได้นำคณะผู้แทนไทยเดินทางเข้าร่วมประชุมคณะทำงานด้านการค้าและการลงทุน ครั้งที่ 1 ณ เมืองบันดา อาเจะห์ ประเทศสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ซึ่งจากการประชุมฯ ดังกล่าว ได้มีการหารือถึงความก้าวหน้าของโครงการต่าง ๆ ดังนี้

ด้านโครงสร้างพื้นฐาน

มาเลเซียและไทยได้เสนอความก้าวหน้าการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงบริเวณชายแดนระหว่างสองประเทศที่สำคัญได้แก่ การก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกที่บ้านบูเก๊ะตา-บูกิตบุหงา การพัฒนาเมืองชายแดน ( Border Township ) ของมาเลเซียใกล้ชายแดนไทยที่บ้าน ดูเรียน-บุหรง การศึกษาความเป็นไปได้ในการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโกลกที่ท่าตาบา อำเภอตากใบ นราธิวาส กับเปิงกาลันกุโบร์ รัฐกลันตัน และการศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนบริเวณอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา กับเมืองบูกิตกายูฮิตัม รัฐเกดะห์

การค้าแบบหักบัญชีภายใต้กรอบ IMT-GT (Bilateral Payment Arrangement: BPA) ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการส่งเสริมและเผยแพร่ไปยังธนาคารพาณิชย์และผู้ประกอบธุรกิจในพื้นที่ให้ใช้ประโยชน์จากการค้าแบบหักบัญชีให้มากขึ้น ในส่วนของอินโดนีเซียขณะนี้ได้มอบหมาย Bank Negara และ Bank Mandiri ให้เป็นธนาคารผู้ดำเนินการ BPA ของอินโดนีเซียแล้ว

ไทยเตรียมเปิด IMT-GT Plaza แห่งใหม่ที่จังหวัดพัทลุง ภายในเดือนกันยายน 2550 หลังจากที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการเปิด IMT-GT   Plaza แห่งแรกที่จังหวัดตรัง ในขณะที่อินโดนีเซียก็เตรียมการเปิด IMT-GT Plaza แห่งแรกที่เมืองเปกัน บารู จังหวัดเรียว เช่นกัน

ประเทศสมาชิก IMT-GT จะมีการจัดประชุมและงานแสดงสินค้าในพื้นที่ ซึ่งประเทศสมาชิกจะช่วยสนับสนุนด้วยการนำภาคเอกชนเข้าร่วมงานและจัดคณะผู้แทนภาคเอกชนเดินทางไปเยี่ยมชมงานระหว่างกันด้วย โดยถือเป็นแนวปฏิบัติสำหรับส่งเสริมการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้ของประเทศสมาชิกต่อไป

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยต่อไปว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2550 การค้าระหว่างไทยกับมาเลเซีย และอินโดนีเซีย มีมูลค่ารวม 411,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 44 ของมูลค่าการค้าไทยกับอาเซียน และคิดเป็นร้อยละ 8.5 ของมูลค่าการค้ารวมของไทยกับทั่วโลก ความร่วมมือสามฝ่ายภายใต้กรอบ IMT-GT จะเป็นประโยชน์อย่างสูงต่อประเทศสมาชิกทั้งสามประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของไทยจะมีการขยายพื้นที่ภายใต้กรอบ IMT-GT ครอบคลุมทั้ง 14 จังหวัดภาคใต้ ในเดือนกันยายน 2550 ดังนั้น การเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของกรอบความร่วมมือ IMT-GT  ดังกล่าวแก่ประชาชนในพื้นที่โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ จะทำให้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จากกรอบ ความร่วมมือดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ ซึ่งนอกจากจะส่งผลอย่างมากต่อการเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกันยังเป็นการรักษาเสถียรภาพทางการค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิกทั้งสองอีกด้วย