เนื้อหาวันที่ : 2016-04-25 16:51:03 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 3041 views

แคนนอน เปิดตัวแคมเปญ “Canon Ecolism” เน้นนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและผลิตในประเทศไทย

จากซ้ายไปขวา:นายมาโคโตะ นาคามูระ รองประธานบริษัทอาวุโส บริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ไทยแลนด์) จำกัดนายฮารุกิ เทราฮิระ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด และ นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด

 

แคนนอน ผู้นำด้านการถ่ายภาพ การพิมพ์ภาพระดับโลก และผู้นำตลาดพรินเตอร์อิงค์เจ็ทเมืองไทย 15 ปีซ้อน บุกหนักสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งในกลุ่มธุรกิจ B2C ทั้งเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง และพรินเตอร์อิงค์เจ็ท ตลอดปี 2559 ภายใต้แคมเปญ Canon Ecolism” (แคนนอน อีโคลิซึม) ชูจุดเด่นเรื่องเทคโนโลยีการพิมพ์อันล้ำสมัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้องค์กรทุกระดับ มั่นใจในคุณภาพที่เหนือกว่าเพราะผลิตโดยโรงงานแคนนอนด้วยมาตรฐานระดับโลก โดยประเทศไทยถือเป็นฐานการผลิตหลักที่มีโรงงานผลิตถึง 3 แห่ง พร้อมผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ และส่งออกไปทั่วโลก

นายฮารุกิ เทราฮิระ ประธานบริษัทและประธานกรรมการบริหาร บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “นับเป็นเวลาหลายปีที่แคนนอนให้ความสำคัญในการใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และได้ทุ่มเทความพยายามและทรัพยากรเพื่อความก้าวหน้าทางการดำเนินงานที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เราภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้สำนักงานมัลติฟังก์ชั่น ที่ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้ทุกระดับ ขณะเดียวกันยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติด้วย และในวันนี้ เราได้ผสานความมุ่งมั่นในการดูแลสิ่งแวดล้อมเข้ากับผลิตภัณฑ์ที่สร้างสรรค์และพัฒนาขึ้นในประเทศไทย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญา “เคียวเซ” ของแคนนอนที่มุ่งเน้นเรื่อง "การใช้ชีวิตและการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์สุขของส่วนรวม”

นายวรินทร์ ตันติพงศ์พาณิช รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “จุดเด่นของผลิตภัณฑ์กลุ่ม B2C ทั้งเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น เครื่องพิมพ์หน้ากว้าง และพรินเตอร์อิงค์เจ็ท ของแคนนอน คือ เรามีเทคโนโลยี และโซลูชั่นที่ช่วยให้การทำงานในองค์กรทุกระดับมีประสิทธิภาพสูงสุด สะดวกและรวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสูงสุด โดยปีนี้แคนนอนได้จัดแคมเปญ Canon Ecolism เพื่อสื่อสารให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายในประเทศไทยได้รับทราบถึงหัวใจหลักของแคนนอนที่ให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพสินค้า ควบคู่กับการรักษาสิ่งแวดล้อมในทุกขั้นตอนของวงจรสินค้า ตั้งแต่การออกแบบผลิตภัณฑ์ การจัดซื้อ การผลิต การขนส่ง การออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน ไปจนถึงการรีไซเคิล โดยมุ่งหวังว่าจะช่วยสร้างจิตสำนึกให้กลุ่มธุรกิจ คนทำงานรุ่นใหม่เปลี่ยนวิธีการทำงาน เลือกใช้อุปกรณ์สำนักงานที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม และเป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสภาพแวดล้อมสีเขียวของโลกให้คงอยู่”

ทั้งนี้ในแคมเปญ Canon Ecolism  แคนนอนจะสื่อสารให้ผู้บริโภคได้รู้จักกับเทคโนโลยีที่โดดเด่นของผลิตภัณฑ์เครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น เครื่องพรินเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างแคนนอน ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อาทิ ฟังก์ชั่น Staple Free Stapling เย็บกระดาษเป็นชุดโดยอัตโนมัติในตัวเครื่อง ลดการใช้ลวดเย็บกระดาษ  การใช้ LED  ที่ประหยัดพลังงานไฟฟ้ามากกว่า และปราศจากสารตะกั่ว (Lead-Free) ผ่านมาตรฐานควบคุมสารอันตรายตามมาตรฐานยุโรป RoHS ประหยัดพลังงาน และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ การประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย Advanced Color Rapid Fusing และ เทคโนโลยี On-Demand Fixing ทำให้พรินเตอร์ และเครื่องถ่ายเอกสารแคนนอน ใช้เวลาวอร์มเครื่องน้อยกว่า จึงพิมพ์แผ่นแรกได้เร็วขึ้น ลดการใช้ไฟฟ้าได้มากถึง 75% เมื่อเทียบกับเครื่องพรินเตอร์ที่ใช้ระบบ Roller-Fixing Systems แบบปกติ ฟังก์ชั่น Energy Saving Mode ที่ให้ผู้ใช้ตั้งเวลาปิด - เปิด เครื่อง และ Stand By โดยอัตโนมัติเมื่อไม่มีการใช้งานภายในเวลาที่กำหนด รวมถึง นวัตกรรมการใช้พลาสติกชีวภาพ Bio-Based Plastic ที่มีส่วนประกอบจากพืช ซึ่งมีความยืดหยุ่น แต่คงทนสูง เป็นชิ้นส่วนในการผลิตเครื่องถ่ายเอกสารแคนนอน ซึ่งลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 20% เป็นต้น

นอกจากนี้ ในแคมเปญ Canon Ecolism  ยังรวมถึงการสื่อสารให้กลุ่มเป้าหมายทราบว่าสินค้ากลุ่มเครื่องถ่ายเอกสาร พรินเตอร์ และเครื่องพิมพ์หน้ากว้างคุณภาพสูงหลายรุ่นผลิตในประเทศไทย โดยโรงงานแคนนอนถึง 3 แห่ง คือ ที่จังหวัดปราจีนบุรี อยุธยา และนครราชสีมา ซึ่งเป็นฐานการผลิตสำคัญมาตรฐานระดับสากล ผลิตและส่งออกไปจำหน่ายทั่วโลก แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและความผูกพันระหว่างแบรนด์แคนนอน และสังคมไทยมีให้แก่กัน ซึ่งเป็นจุดที่แตกต่างจากคู่แข่ง และเชื่อว่าจะสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ได้อีกประการหนึ่ง

โดย นายมาโคโตะ นาคามูระ รองประธานบริษัทอาวุโส บริษัท แคนนอน ปราจีนบุรี (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า “พนักงานคนไทยได้มีโอกาสในการเรียนรู้และพัฒนาความเชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีการผลิตระดับโลก และสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานสากลและข้อกำหนดต่างๆ พนักงานคนไทยที่มีทักษะเหล่านี้ได้ช่วยยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กร เช่น แคนนอน ได้เป็นอย่างดีเมื่อผนวกกับระบบอัตโนมัติที่ล้ำสมัยของโรงงาน ในท้ายที่สุดแล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ผลิตภัณฑ์เมดอินไทยแลนด์ที่ผลิตโดยคนไทย ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ และได้รับการยอมรับในระดับโลก สามารถนำออกจำหน่ายไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก”