รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีนวัตกรรมไทย สามารถดูได้ที่ http://www.innovation.go.th/
ที่มาภาพและข่าว : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี / ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นประธานในพิธีแถลงข่าวงานเปิดตัว “บัญชีนวัตกรรมไทย” จัดโดย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ร่วมกับ สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ และกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง เพื่อสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นผลงานนวัตกรรมที่มีคุณภาพและมีมาตรฐาน จนนำไปสู่การสร้างรายได้ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสรรค์สังคมไทย ตลอดจนทดแทนการนำเข้าจากต่างประเทศ รวมทั้งสร้างความยั่งยืน มั่นคง และมั่งคั่งให้แก่ประเทศในระยะยาว ล่าสุดได้ประกาศขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยแล้ว 26 ผลงาน และเตรียมจ่อขึ้นบัญชีอีกหลายสิบผลงานเร็วๆ นี้ โดยสามารถขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทยได้สูงสุดเป็นเวลาสูงถึง 8 ปี
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า รัฐบาลนำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เล็งเห็นถึงความสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การวิจัยและพัฒนา ในการผลักดันประเทศให้พัฒนาก้าวทันนานาอารยประเทศ จึงได้จัดตั้ง คณะกรรมการพัฒนาระบบนวัตกรรมของประเทศ หรือ คพน. โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558 และได้มีนโยบายในการส่งเสริมนวัตกรรมอย่างเข้มข้น โดยมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดทำโครงการบัญชีนวัตกรรม โดยการนำผลงานวิจัยมาสร้างเป็นนวัตกรรมไทยที่มีมูลค่า และอาศัยกลไกการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐเป็นตัวนำ เอื้อประโยชน์และเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นผลงานนวัตกรรมให้กับภาครัฐได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็สามารถส่งเสริมให้ภาครัฐมีมิติของการจัดซื้อจัดจ้างที่มีคุณภาพ และมีความปลอดภัย ภายใต้เงื่อนไขของนวัตกรรมที่จะบรรจุลงในบัญชีนั้นจะต้องเป็นนวัตกรรมของไทย และต้องผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรมในประเทศ หรือมาตรฐานสากล รวมทั้งข้อกำหนดสำคัญอื่นๆ พร้อมใช้งานจริง หรือมีภาคเอกชนรับถ่ายทอดเทคโนโลยีไปผลิตเชิงพาณิชย์แล้ว
ทั้งนี้ วท. ได้มอบหมายให้ สวทช. สำรวจความต้องการและตลาดของภาครัฐ และสำรวจบริษัทที่เข้าเงื่อนไขของการขึ้นบัญชีนวัตกรรม เพื่อช่วยสนับสนุนผลงานวิจัยและพัฒนานวัตกรรมของไทยให้สามารถผลิตสู่เชิงพาณิชย์ ซึ่งนับเป็นการแจ้งเกิดให้แก่บริษัทผู้ประกอบการไทยเป็นจำนวนมาก และสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมของประเทศให้แข่งขันกับนานาประเทศได้
ดร.ทวีศักดิ์ กออนันตกูล ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า สวทช. ได้รับมอบหมายให้ รับผิดชอบกลั่นกรองตรวจสอบ ผลงานวิจัยของผู้ประกอบการไทยในการพัฒนานวัตกรรมไทย มาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ ตามมาตรการการขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย โดยการผลักดันงานวิจัยของภาครัฐไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยหันมาผลิตผลิตภัณฑ์และบริการที่เป็นนวัตกรรม ซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าแบบเดิม อันจะช่วยปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมจากอุตสาหกรรมที่อาศัยแรงงานและทรัพยากรเข้มข้น เป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย และส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพย์สินของรัฐอย่างคุ้มค่าเกิดประโยชน์สูงสุด
นอกจากนี้ หากผู้ประกอบการท่านใดสนใจขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย สามารถดำเนินการได้โดยเริ่มจากเตรียมแบบคำขอขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยและเอกสารประกอบต่างๆ ให้ครบถ้วน จากนั้นส่งมายัง สวทช. ซึ่ง สวทช. โดยคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย และคณะกรรมการตรวจสอบคุณสมบัติผลงานนวัตกรรมที่ขอขึ้นทะเบียนบัญชีนวัตกรรมไทย จะพิจารณาตรวจสอบคุณสมบัติผลงานนวัตกรรมไทยตามหลักเกณฑ์ 4 ข้อ ได้แก่ 1) เป็นนวัตกรรมที่เป็นผลมาจากงานวิจัยและพัฒนาของคนไทยอย่างมีนัยสำคัญ 2) เป็นนิติบุคคลไทยที่มีผู้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 51 หรือองค์กรภาครัฐที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายในการผลิตและจำหน่าย 3) ผ่านการรับรองมาตรฐานบังคับ 4) มีผลการทดสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์หรือบริการโดยหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เมื่อคณะกรรมการฯ มีมติรับรอง สวทช. จะนำส่งรายละเอียดผลงานที่ผ่านการพิจารณาแล้วให้สำนักงบประมาณ ดำเนินการตรวจสอบราคาผลิตภัณฑ์และบริการ และจัดทำประกาศบัญชีนวัตกรรมไทย ซึ่งขณะนี้มีผลงานนวัตกรรมที่ยื่นแบบคำขอฯ มายัง สวทช. แล้วทั้งสิ้น 87 ผลงาน และที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการฯ แล้วจำนวนทั้งสิ้น 34 ผลงาน โดย ณ วันนี้ สำนักงบประมาณได้ประกาศขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว จำนวน 26 ผลงาน” ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าว
ด้าน นายสมศักดิ์ โชติรัตนะศิริ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า “นโยบายบัญชีนวัตกรรมไทยถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เป็นมาตรการที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยสามารถขายผลิตภัณฑ์หรือบริการที่เป็นผลงานนวัตกรรมให้กับภาครัฐได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น โดยการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีสนับสนุนสินค้าและบริการผ่านบัญชีนวัตกรรมไทย ผ่านการจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีกรณีพิเศษ โดยสำนักงบประมาณได้รับมอบหมายจากคณะรัฐมนตรีให้เป็นหน่วยงานตรวจสอบราคาผลิตภัณฑ์และบริการ และจัดทำประกาศบัญชีนวัตกรรมไทย ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการประกาศขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยเรียบร้อยแล้ว จำนวน 26 รายการ โดยผลงานที่ได้รับการรับรองจาก สวทช. ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นลำดับนั้น จะทยอยตรวจสอบราคาและจะประกาศเพิ่มเติมในลำดับถัดไป”
ขณะที่ นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง กรมบัญชีกลาง กล่าวเสริมว่า “สิทธิประโยชน์ที่ได้รับจากการขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทยหลักๆ คือ ผลิตภัณฑ์หรือบริการนั้นจะได้รับการขึ้นทะเบียนนวัตกรรมไทย เป็นเวลาสูงสุด 8 ปี เพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ สามารถจัดซื้อจัดจ้างโดยเลือกจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการที่มีรายชื่อตามบัญชีนวัตกรรมไทย โดยวิธีกรณีพิเศษหรือที่เรียกชื่ออย่างอื่นซึ่งมีวิธีการทํานองเดียวกันตามระเบียบว่าด้วยการพัสดุที่หน่วยงานนั้นๆ ถือปฏิบัติ”
รายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบัญชีนวัตกรรมไทย สามารถดูได้ที่ http://www.innovation.go.th/
ที่มาภาพและข่าว : กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Call Center กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313