เนื้อหาวันที่ : 2016-02-26 18:37:42 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1116 views

เอปสัน เปิดตัวพรินเตอร์หน้ากว้าง 3 รุ่นใหม่ สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณา พร้อมจัดโปรโมชั่น ลดราคาน้ำหมึกแท้ลงกว่าครึ่ง

เอปสัน ผู้นำด้านเทคโนโลยีพรินเตอร์ สร้างปรากฏการณ์เขย่าวงการพรินเตอร์เพื่ออุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณา ด้วยการเปิดตัวพรินเตอร์หน้ากว้างขนาด 64 นิ้ว รุ่นใหม่ 3 รุ่น พร้อมจัดโปรโมชั่นปรับลดราคาน้ำหมึกแท้ลงกว่าครึ่ง ชิงส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มจากกลุ่มเครื่องประกอบนำเข้า และขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพื่อรุกอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาทั่วประเทศ

นายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันตลาดของงานพิมพ์ด้วยดิจิตอลพรินเตอร์ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 10.7 พันล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐฯ ในปี 2015 และคาดการณ์ว่าในปี 2020 จะมีมูลค่าการตลาดถึง 13.5 พันล้านเหรียญดอลลาห์สหรัฐฯ โดยเติบโตประมาณปีละ 5% โดยตลาดเครื่องพิมพ์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาจะมีอัตราการเติบโตที่สูงที่สุด ส่วนในประเทศไทยนั้น ตลาดของดิจิตอลพรินเตอร์สำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณา ยังมีสัดส่วนการตลาดที่น้อยกว่า 10% เมื่อเทียบกับเครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมแบบเดิมที่เป็นระบบอะนาลอก และขณะเดียวกันก็เป็นกลุ่มตลาดที่ใช้เครื่องประกอบแบบนำเข้าจากต่างประเทศกว่า 80% ดังนั้นจึงทำให้เครื่องพิมพ์อุตสาหกรรมสำหรับสิ่งทอและป้ายโฆษณาในประเทศไทย ยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก สอดคล้องกับผู้ประกอบการหลายรายในปัจจุบัน เริ่มปรับตัวและหันมาลงทุนกับพรินเตอร์ระบบดิจิตอลประเภท Dye Sublimation เพื่อรองรับงานพิมพ์ตามออเดอร์จำนวนจำกัดที่เน้นคุณภาพมากขึ้น แทนที่จะเปิดรับแต่งานพิมพ์ปริมาณมากหรือ Mass Production ที่ยังใช้ระบบการพิมพ์แบบอะนาลอกแต่เพียงอย่างเดียว

ดังนั้นในไตรมาสแรกของปีนี้ เอปสันจึงได้เพิ่มช่องทางการตลาดสำหรับอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาที่เป็นระบบดิจิตอล ด้วยการเปิดตัวพรินเตอร์หน้ากว้างขนาด 64 นิ้ว รุ่นใหม่ SureColor S-Series พร้อมกันถึง 3 รุ่นด้วยกัน ได้แก่ S40670, S60670 และ S80670 ซึ่งเป็นพรินเตอร์สำหรับธุรกิจงานพิมพ์ป้ายโฆษณา พิมพ์ลายวัตถุและของพรีเมี่ยม รวมทั้งการพิมพ์ซ้ำงานศิลป์ พร้อมกันนี้ยังได้ออกโปรโมชั่นใหญ่ ด้วยการลดราคาน้ำหมึกแท้ของพรินเตอร์ประเภท Dye Sublimation รุ่น SureColor F-Series ซึ่งเป็นรุ่นสำหรับธุรกิจสิ่งทอลง 55% (เหลือเพียง 1,750 บาท/ลิตร) และรุ่น SureColor S-Series สำหรับธุรกิจป้ายโฆษณาถึง 70% (เหลือเพียง 1,590 บาท/ขนาด 750 มิลลิลิตร) เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ประกอบการ และในส่วนของประเทศไทย ทางบริษัทฯ ยังได้เร่งขยายเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายเพื่อรุกอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาทั่วประเทศอีกด้วย

“สำหรับการออกโปรโมชั่นดังกล่าวนี้ จะเป็นกลยุทธ์ในการชิงส่วนแบ่งตลาดจากกลุ่มเครื่องประกอบแบบนำเข้า ที่มีการใช้อย่างแพร่หลายในภูมิภาคนี้ เนื่องจากไม่ค่อยมีแบรนด์ผู้ผลิตพรินเตอร์เข้ามาทำตลาดมากนัก บวกกับ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอและป้ายโฆษณาต้องการประหยัดต้นทุนในการผลิต จึงเลือกใช้พรินเตอร์ประกอบและหมึกทดแทน ทำให้ต้องเผชิญกับปัญหาเกี่ยวกับตัวเครื่องหลายอย่าง และได้ชิ้นงานที่ไม่มีคุณภาพ อีกทั้งยังไม่ได้การรับประกันจากเจ้าของแบรนด์ โปรโมชั่นดังกล่าวของเอปสัน จึงเป็นการกระตุ้นให้ผู้ประกอบการกลุ่มดังกล่าว ให้ความสนใจและเปลี่ยนพฤติกรรมมาใช้พรินเตอร์และหมึกพิมพ์แท้กันมากขึ้น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถลดต้นทุน เพิ่มคุณภาพการผลิต และขยายไลน์ธุรกิจที่เน้นงาน คุณภาพ หรืองานแบบ Made to Order อีกทั้งยังได้รับการดูแลโดยตรงจากเอปสัน ซึ่งปัจจุบัน เป็นแบรนด์ผู้ผลิต เพียงรายเดียวในตลาด ที่ให้การรับประกันทั้งในส่วนหัวพิมพ์และตัวเครื่องนาน 2 ปี ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า” นายอนันต์พล กล่าว

สำหรับพรินเตอร์ใหม่ทั้ง 3 รุ่นนี้ เป็นเจเนอเรชั่นที่ 3 ที่ได้รับการพัฒนาต่อมาจากรุ่นเดิม โดยได้อัพเกรดจนมีประสิทธิภาพการพิมพ์ที่ดีเยี่ยม โดยใช้เทคโนโลยีการพิมพ์แบบ Precision Dot ด้วยการหยดน้ำหมึกที่มีความแม่นยำสูง ช่วยป้องกันปัญหาพิมพ์สีเพี้ยน แม้ในขณะพิมพ์งานด้วยความเร็วสูงสุด มีระบบจัดเรียงวัสดุการพิมพ์และตั้งค่าอัตโนมัติ ช่วยให้เปลี่ยนวัสดุการพิมพ์หลากหลายประเภทได้อย่างรวดเร็ว มีระบบทำความสะอาดหัวพิมพ์อัตโนมัติและระบบระบายอากาศในตัว ช่วยให้หัวพิมพ์สะอาดขึ้นและทำงานได้นานขึ้น ส่วนตัวเครื่อง ยังได้รับการอัพเกรดจนทนทานมากขึ้น ป้องกันหัวพิมพ์แตกเสียหาย โดยเฉพาะรุ่น S80670 ที่ใช้หัวพิมพ์ PrecisionCore แบบ Thin Film Piezo ทำให้พิมพ์งานได้เร็วขึ้นอีกเท่าตัว สามารถควบคุมอุณหภูมิ ตัวเครื่องขณะทำงานให้ต่ำกว่าพรินเตอร์อื่นทั่วไป

นอกจากนี้ พรินเตอร์ทั้ง 3 รุ่นยังมีคุณสมบัติเฉพาะในเรื่องของการประหยัดพลังงาน ลดการใช้น้ำหมึก และยังสามารถใช้งานร่วมกับหมึก Ultrachrome GS3 ทำให้ได้สีสันที่สมจริง หมึกแห้งเร็วขึ้น และทนทาน ต่อสภาพอากาศ เหมาะกับงานทั้งภายในและภายนอกอาคาร และเนื่องจากเป็นหมึกประเภท Eco-solvent จึงมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมสูง ปราศจากกลิ่น และไร้สารเคมีที่เป็นพิษทั้งต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

โดยพรินเตอร์รุ่น S40670 และ S60670 วางจำหน่ายแล้วในราคา 645,000 และ 890,000 บาท ตามลำดับ ส่วนรุ่น S80670 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนเมษายนของปีนี้