เนื้อหาวันที่ : 2016-01-25 12:56:08 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 532 views

แลนดี้ โฮม เปิดตัว “ผู้บริหารเจน 2” พร้อมรุกก้าวใหม่ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่านแผนพัฒนาธุรกิจที่ครอบคลุมแบบครบวงจร

แลนดี้ โฮม ศูนย์รับสร้างบ้านอันดับ1 ของเมืองไทยมั่นคงด้วยทุนทะเบียน 200  ล้านบาท เผยความสำเร็จปี 2558 กวาดรายได้กว่า 1,000 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า 5 % สืบเนื่องมาจากการขยายสาขา ออกสู่ตลาดในโซนของภาคอีสาน และความเชื่อมั่นในความมั่นคงของแลนดี้ โฮม  ล่าสุดประกาศเปิดตัวผู้บริหารเจนเนอร์เรชั่น 2 อย่างเป็นทางการเตรียมพร้อมรุกธุรกิจแบบครบวงจร โดยใช้แนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่เข้ามากระตุ้นตลาด เน้นบริหารและจัดการต้นทุนการก่อสร้าง และสร้างความพึงพอใจด้านบริการเป็นสำคัญ

ผู้บริหารในยุคเจนเนอร์เรชั่น 2 นำโดยนางสาวพรรัตน์ มณีรัตนะพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและผู้อำนวยการฝ่ายขาย  เปิดเผยว่าจากผลการดำเนินงานของ แลนดี้ โฮม ที่เติบโตอย่างมากในปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ พร้อมจะสานต่อการเติบโตทางธุรกิจต่อเนื่องในปี 2559 โดยล่าสุดเมื่อปลายปีที่ผ่านมา แลนดี้ โฮม ได้ขยายสาขาออกสู่พื้นที่ภาคอีสานใน จ.นครราชสีมา  โดยในปี 2559 แลนดี้ โฮม เตรียมเดินหน้าแผนพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้านพร้อมปรับกลยุทธ์ใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมและรับมือกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่คาดว่าจะเริ่มจะฝื้นตัวโดยมุ่งขยายสาขาให้เข้าถึงผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น อาทิ ในย่านรามอินทรา, พระราม2 พร้อมปรับปรุงสาขาบางแคให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น  ในปี  2558 ที่ผ่านมา  ตลาดรับสร้างบ้านโดยรวมยังคงซบเซา ลูกค้าชะลอการตัดสินใจ เพราะความไม่เชื่อมั่นด้านภาวะเศรษฐกิจ สำหรับสถานการณ์ตลาดของธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2559  คาดการณ์ว่าจะมีการขยายตัวเล็กน้อย จากปัจจัยบวกที่ภาครัฐได้อัดฉีดสู่กลไกธุรกิจของประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ด้วยโครงการเมกะโปรเจกต์ ตลอดจนราคาน้ำมันที่ปรับลดลง ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างด้านขนส่งปรับลดตาม  ทั้งนี้แม้ภาพรวมของสถานการณ์การแข่งขันของตลาดร้าบสร้างบ้านค่อนข้างรุนแรง แต่ปัจจุบันแลนดี้  โฮม ไม่มีนโยบายในการแข่งขันทางด้านราคา  เพราะเล็งเห็นว่าการตัดราคาถือเป็นการลดมาตรฐานคุณภาพงานก่อสร้างและการบริการทางอ้อม  ผลงานการก่อสร้างถือเป็นสิ่งที่แลนดี้  โฮม  ให้ความสำคัญสูงสุด  โดยบ้านของลูกค้าทุกหลังจะต้องสมบูรณ์แบบเป็นไปตามมาตรฐานที่ตั้งไว้

สำหรับด้านการพัฒนาแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจยุคใหม่  ไม่ว่าจะเป็นด้านการประชาสัมพันธ์และช่องทางการตลาดต่างๆนางสาวภัทรา  มณีรัตนะพร ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและออกแบบผลิตภัณฑ์ นำเสนอมุมมองต่อประเด็นดังกล่าวว่า “ในปีนี้ แลนดี้โฮม ในฐานะผู้สร้างเทรนด์แบบ้าน (Trend Setter) ของวงการธุรกิจรับสร้างบ้านไทย พยายามสร้างสรรค์ผลงานแบบบ้าน ให้สามารถตอบสนองในทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม ครอบคลุมทั้งแบบบ้านขนาดกลาง ระดับราคา 3-5 ล้านบาท  ภายใต้แบรนด์ “เทรนดี้ โฮม  (Trendy Home) ”  คิดเป็นมูลค่า 35% ของยอดขาย  แบบบ้านขนาดกลาง ระดับราคา 5-15 ล้านบาท  คิดเป็นมูลค่า 50% ของยอดขาย  ตลอดจนแบบ้านขนาดใหญ่ระดับราคา  15-40 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ “แลนดี้ ลักซ์ชัวรี่ (Landy Luxury) ”  คิดเป็นมูลค่า 15% ของยอดขาย ซึ่งจะสามารถตอบโจทย์ทุก  ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าได้อย่างแท้จริง

“ในปีนี้แลนดี้โฮม ได้สร้างสรรค์ผลงานที่อยู่อาศัยแบบ Multi Family เพื่อตอบสนองความต้องการของครอบครัวขนาดใหญ่ ถือเป็นหนึ่งในแบบบ้านในกลุ่มNew Design 2516 ที่แลนดี้โฮมภูมิใจนำเสนอเพื่อเพิ่มเป็นทางเลือกให้แก่ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้นโดยยังคงชูจุดเด่นด้านนวัตกรรมกาก่อสร้างกึ่งสำเร็จรูป Nova System ที่พัฒนาเพื่อรองรับแบบบ้านที่มีโครงสร้างเสาและคานขนาดใหญ่โดยเฉพาะโดยในปีนี้ แลนดี้ โฮม ตั้งงบการตลาดกว่า 50 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นให้ตลาดรับสร้างบ้านคึกคักยิ่งขึ้นผ่านกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ตลอดจนโปรโมชั่นพิเศษมากมายตลอดทั้งปีนอกจากนี้ ยังเตรียมพร้อมในการตอบรับกระแสการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน โดยนำกลยุทธ์ด้านดิจิตอล มาร์เก็ตติ้ง เข้ามาใช้เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลของบริษัทฯ ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น”นางสาวภัทรา  กล่าว

ด้านนายพานิช  มณีรัตนะพร  ผู้อำนวยการฝ่ายก่อสร้างและบริหารสำนักงาน  อธิบายเกี่ยวกับธุรกิจรับสร้างบ้านของไทยว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านถือเป็นงานบริการรูปแบบหนึ่งที่ต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย ภายในระยะเวลาที่รวดเร็ว ดังนั้น แลนดี้โฮม จึงต้องพร้อมพัฒนาทุกขั้นตอนของงานก่อสร้าง ให้สามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในทุกจุดของการบริการให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการนำระบบปฎิบัติการ LECM (LandyEnterprise Center Management) เข้ามาควบคุมการบริการตลอดจนการติดตามขั้นตอนของก่อสร้างให้ลูกค้าได้รับทราบแบบ Real Time ทุกขั้นตอนของระบบดังกล่าวสามารถแจ้งเตือนโดยตรงไปยังทีมวิศวกรของแลนดี้ โฮม เมื่อตรวจพบว่าอาจเกิดข้อผิดพลาดก่อนที่จะเกิดปัญหาทั้งนี้ ระบบดังกล่าวจะถูกพัฒนาควบคู่ไปพร้อมๆกับระบบ Work Flow ซึ่งเป็นระบบการดำเนินงานด้านเอกสารภายใน ด้วยการทำงานอย่างเป็นขั้นตอน ผ่านการควบคุมด้วยมาตรฐานการจัดการ ISO :9001 : 2008 สามารถสร้างความมั่นใจแก่ลูกค้าว่าบ้านทุกหลังถูกก่อสร้างด้วยทีมงานที่มากด้วยประสบการณ์ และการบริหารจัดการที่มีคุณภาพ ตลอดจนนวัตรกรรมโครงสร้างกึ่งสำเร็จรูป Nova System  ที่ได้มาตรฐาน แข็งแรง ทนทานในระดับสากล

“แลนดี้ โฮมคำนึงถึงการสร้างผลงานที่ดีภายใต้แนวคิดในการทำงานที่ว่า“บ้านของคุณคือบ้านของเรา”  ไม่มีปัญหาทิ้งงาน ไม่ลดคุณภาพวัสดุ แม้ว่าปัจจุบันราคาของวัสดุในตลาดจะถีบตัวสูงขึ้น  เพราะ แลนดี้ โฮม เข้าใจดีว่าผู้บริโภคยุคใหม่มีความคาดหวังสูง  หากบริษัทฯ ขาดความพร้อมไม่ว่าจะเป็นเรื่องทรัพยากร, การบริการ, มาตรฐาน อาจส่งผลกระทบที่รุนแรงให้กับบริษัทฯ ได้ในอนาคต” นายพานิช กล่าวสรุป