เนื้อหาวันที่ : 2016-01-18 15:42:52 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 716 views

ไดเมนชั่น ดาต้า เผยการคาดการณ์ด้านไอทีประจำปี 2559

ไดเมนชั่น ดาต้า ผู้ให้บริการโซลูชั่นด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารทั่วโลก เผยการคาดการณ์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในช่วง 12 เดือนข้างหน้า และการปรับเปลี่ยนของเทคโนโลยีดิจิตอลเป็นวาระสำคัญสูงสุดขององค์กร เพราะได้เป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันทางธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายเอเตียนน์ เรย์เนกเก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มเทคโนโลยี บริษัท ไดเมนชั่น ดาต้า  กล่าวว่า  โซเชียล เน็ตเวิร์ค โมบิลิตี้ คลาวด์ อนาไลติกส์  และไบโมดัล ไอที (Bimodal IT) หรือ การจัดการระบบเทคโนโลยีสารสนเทศซึ่งเน้นให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพทั้งในแง่ของความแม่นยำ ปลอดภัย  และความรวดเร็ว คล่องตัว ได้เป็นประเด็นร้อนสำหรับอุตสาหกรรมไอทีที่มาจัดสรรหน้าที่การทำงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และทีมบุคลากรในองค์กรทั่วโลก  โดยไดเมนชั่น ดาต้าให้ความสำคัญกับองค์กรในด้านงบประมาณและทรัพยากร

แนวโน้มและเทคโนโลยีเหล่านี้จะรองรับเป้าประสงค์มากมาย  เพราะสามารถปรับเปลี่ยนองค์กรเป็นองค์กรดิจิตอล อีกนัยหนึ่ง ธุรกิจยังสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อตอบสนองต่อโอกาสทางการตลาดและภัยคุกคามได้รวดเร็วขึ้น ตลอดจนสามารถจัดลำดับความสำคัญของบุคลากรที่ทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็น ลูกค้า พนักงาน และคู่ค้าทางธุรกิจ

นายเรย์เนกเก กล่าวว่า จากการพูดคุยถึงการปรับเปลี่ยนเข้าสู่โลกของดิจิตอลซึ่งทางทีมบุคลากรของไดเมนชั่น ดาต้า เห็นว่า มีประเด็นที่องค์กรควรนำไปไตร่ตรองอย่างรอบคอบอยู่ 4 เรื่องได้แก่ ข้อมูล ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักสำคัญในการปรับเปลี่ยนองค์กร ระบบไฮบริด คลาวด์ ที่เป็นเครื่องมือในการใช้ประโยชน์  รูปแบบการทำงานสำหรับอนาคต(Workspace for tomorrow) และระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ 

  • ดิจิตอล อินฟราสตักเจอร์ (Digital Infrastructure) ความเข้าใจในข้อมูลไปจนถึงการใช้ประโยชน์จากข้อมูลอย่างคุ้มค่า

บทบาทของข้อมูลกำลังเปลี่ยนไปจากเดิม โดยหลายปีที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญในการดูแลศูนย์ข้อมูลขององค์กรจะทุ่มเทเวลาและกำลังคนไปกับการดูแลด้านระบบการจัดเก็บข้อมูล และระบบการสำรองข้อมูล และมีความพยายามในการทำซ้ำข้อมูลและการลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด ดังนั้น การดำเนินการจึงมุ่งไปที่การลดค่าใช้จ่ายในการจัดการข้อมูล แต่ปัจจุบัน ทุกอย่างได้เปลี่ยนไปสู่การขยายขีดความสามารถในการใช้ประโยชน์จากข้อมูล และค้นหาวิธีการใช้ข้อมูลเหล่านี้เพื่อสร้างมูลค่าทางธุรกิจ 

  • ไฮบริด คลาวด์ (Hybrid Cloud) : การปรับใช้ระบบคลาวด์ส่วนตัวเพิ่มขึ้นในปี 2559

ในเวลา 12 เดือนนับจากนี้ เราจะเห็นการใช้งานระบบ Private Cloud ภายในองค์กรเพิ่มมากขึ้น ซึ่งผู้มีอำนาจตัดสินใจในเรื่องระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ชาญฉลาดได้คำนึงถึงกลยุทธ์ คลาวด์ เฟิร์ส” (Cloud First) จะผันตัวไปสู่การนำเสนอระบบคลาวด์ส่วนตัวในองค์กรรูปแบบใหม่ ๆ โดยอิงกับธุรกิจเป็นหลัก 

  • เวิร์คสเปซ ฟอร์ ทูมอโร่ (Workspace for tomorrow) หรือ รูปแบบการทำงานสำหรับอนาคต ซึ่งรูปแบบพฤติกรรมการทำงานจะเปลี่ยนไปอย่างมากเพราะสื่อสังคมออนไลน์ ในปี 2559 

การรวมตัวกันเป็นสังคมออนไลน์ที่เกิดขึ้นอย่างมากมายเป็นเพราะมีการสร้างเครื่องมือที่เน้นการรองรับผู้บริโภคเป็นสำคัญ  เทคโนโลยีอย่างเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ลิงค์อิน โฟร์สแควร์ และอีกมากมาย ยังทำให้เกิดการการใช้งานเชิงธุรกิจควบคู่กันไปด้วย เพื่อนำเสนอได้ทั้งไฟล์เสียง ไฟล์วิดีทัศน์ การแบ่งปันไฟล์ข้อมูลการใช้งาน และการบูรณาการขั้นตอนการปฏิบัติงานร่วมกัน รวมถึงแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ  เช่น โซลูชั่น ทีม รูมมิ่ง (Team Rooming) สปาร์ค ของซิสโก้ โซลูชั่นแยมเมอร์ (Yammer) และสไกป์สำหรับการใช้งานภาคธุรกิจของไมโครซอฟต์ (Skype for Business) ไวเบอร์ (Viber) วอทแอปส์ (WhatApps) สแลค (Slack) และอื่น ๆ อีกมากมาย

เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยหนุนให้เกิดชุมชนออนไลน์เพื่อใช้เป็นพื้นที่สื่อสารกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการดำรงชีวิต การทำงาน การเลือกซื้อสินค้า และการโต้ตอบกันดัง ๆ ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนแนวคิดระหว่างกัน การค้นหาผู้คนหรือข้อมูลที่ง่ายขึ้น มีความร่วมมือกันในเรื่องต่าง ๆ และนำไปสู่การตัดสินใจที่รวดเร็วขึ้น พฤติกรรมเหล่านี้จะเกิดในองค์กรมากขึ้น ๆ ในปี 2559 เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นไม่ติดขัด แม้ว่าจะอยู่กันคนละประเทศ คนละภูมิภาค และในเวลาที่แตกต่างกันในแต่ละวัน 

  • ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ (Cybersecurity) หรือ ความปลอดภัยทางไซเบอร์: การทำลายระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ที่มีชื่อเสียงจะเกิดขึ้นต่อเนื่องในปี 2559 และผู้บริหารจะตกเป็นเป้าของบรรดาแฮคเกอร์มากขึ้น

การทำลายระบบรักษาความปลอดภัยของผู้ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักซึ่งเกิดขึ้นในปี 2558 จะยังคงเกิดต่อเนื่องไปในปี 2559 และแนวโน้มใหม่ ๆ ที่เรียกกันว่า  วัลลิ่ง” (Whaling) เพื่อสร้างความปั่นป่วนยุ่งเหยิง คือ การเห็นบรรดาแฮคเกอร์ออกล่าเหยื่อที่เป็นผู้บริหารระดับสูง ด้วยการปล่อยไวรัสคอมพิวเตอร์ แรนซอมแวร์” (Ransomware) เพื่อหวังเอาเงินหรือข้อมูลของผู้บริหารเหล่านั้นไปใช้ในทางที่ผิด นอกจากนี้ ผู้ที่มีหน้าที่สืบหาหลักฐานการกระทำผิดจะมีบทบาทสำคัญมากในการดูแลรักษาความปลอดภัยบนทางไซเบอร์ไปอีก 12 เดือนข้างหน้าเช่นกัน