เนื้อหาวันที่ : 2015-12-23 16:00:59 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1083 views

ไมโครซอฟท์ ยกระดับบริการคลาวด์ Office 365 มอบมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดสำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย ประกาศเสริมทัพองค์กรไทย แนะนำ Office 365 Enterprise E5 ที่มาพร้อม Office 2016 เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด พร้อมความปลอดภัยสูงสุด ทันสมัย และครอบคลุมการใช้งานในหลายรูปแบบ ตอบโจทย์การทำงานร่วมกัน เสริมด้วยการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีความปลอดภัยและโปร่งใสมากที่สุดในการทำงานบนคลาวด์ จากทุกเวอร์ชั่นที่เคยมีมา นับเป็นครั้งแรกที่การเข้าสู่ข้อมูลกำหนดได้จากมือลูกค้าเท่านั้น ไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลแม้แต่ผู้ดูแลระบบ หากไม่ได้รับอนุญาตจากลูกค้าก่อน จึงสามารถเพิ่มความมั่นใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าองค์กรในยุคโมบายและคลาวด์ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ไมโครซอฟท์ ยังได้เผยผลสำรวจเทรนด์การทำงานในโลกยุคใหม่จากพนักงานองค์กรในประเทศไทยจำนวน 200 คน จัดทำขึ้นโดยไมโครซอฟท์ เอเชีย แปซิฟิก (Microsoft’s New World of Work Study for Enterprises[1]) โดยพบว่า พนักงานองค์กรในประเทศไทย มีความคาดหวังจากองค์กรของตนในการมอบ “การทำงานในโลกยุคใหม่” ที่สามารถทำงานแบบโมบิลิตี้ เพื่อทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแบ่งปันไอเดียเพื่อสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้ภายในองค์กร

นายสมศักดิ์ มุกดาวรรณกร ผู้อำนวยการฝ่ายภาครัฐและการศึกษา บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “การให้บริการคลาวด์ยังเติบโตอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย และกลุ่มองค์กรถือเป็นกลุ่มหลักที่มองเห็นความสำคัญในการนำเทคโนโลยีคลาวด์มาเสริมศักยภาพในการทำงาน เราเชื่อมั่นว่าคลาวด์เป็นเทคโนโลยีที่สำคัญจะเข้ามาเปลี่ยนโฉมการทำงานในกลุ่มธุรกิจองค์กรได้อย่างสิ้นเชิง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความได้เปรียบทางธุรกิจ  และช่วยขับเคลื่อนนวัตกรรมและไอเดียใหม่ๆ ให้องค์กร ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการทำงานให้กับพนักงานได้อย่างเป็นเลิศ ปีนี้เป็นปีที่ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้งานแพลตฟอร์มที่สาม เช่น คลาวด์ โมบิลิตี้ และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มการเงินการธนาคารที่จะเพิ่มการลงทุนอย่างมาก ทั้งในเทคโนโลยีสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ หรือโครงการเวอร์ชวลไลซ์เซชั่นต่างๆ ซึ่งจะนำไปสู่การใช้งานคลาวด์ที่เพิ่มขึ้นในปี 2016[2]

“แต่การก้าวเข้าสู่โลกของคลาวด์และโมบาย นับเป็นสิ่งที่ท้าทายสำหรับกลุ่มธุรกิจองค์กรเช่นกัน ดังจะเห็นได้จากกรณีศึกษาหลายกรณีที่เกิดขึ้นกับองค์กรชั้นนำระดับโลกรวมถึงในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นการโจรกรรมข้อมูล การเรียกค่าไถ่ ซึ่งได้ทวีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นและมีการจู่โจมที่รวดเร็วขึ้น  จากรายงานของศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) ระบุประเทศไทยติดอันดับ 3 ของโลก[3] ในแง่ภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไมโครซอฟท์ ในฐานะองค์กรด้านไอทีชั้นนำของโลก ที่มีการลงทุนมหาศาล มากกว่าพันล้านเหรียญสหรัฐในทุกปี เพื่อการค้นคว้าและพัฒนาด้านความปลอดภัยในทุกๆ ผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ของเรา เพื่อที่จะให้ลูกค้าของเรามั่นใจในการเข้าสู่ยุคโมบายและคลาวด์ ปัจจุบันไมโครซอฟท์ให้บริการเทคโนโลยีที่มีพื้นฐานการใช้งานบนคลาวด์กับลูกค้ามากกว่า 1 พันล้านราย (ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้าทั่วไป) ใน 140 ประเทศ โดยกว่า 85% ของบริษัทในฟอร์ทูน 500 ต่างไว้วางใจใช้คลาวด์ของไมโครซอฟท์”

โดยเทรนด์การทำงานในยุคโมบายและคลาวด์ในกลุ่มธุรกิจองค์กร ได้ตอกย้ำผ่านผลสำรวจ “การทำงานในโลกยุคใหม่” ซึ่งจัดทำขึ้นโดยไมโครซอฟท์ เอเชีย แปซิฟิก (Microsoft’s New World of Work Study for Enterprises) เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยได้สำรวจความคิดเห็นของพนักงานกลุ่มองค์กร ที่มีจำนวนพนักงานมากกว่า 250 คน ใน 13 ประเทศทั่วเอเชีย แปซิฟิค โดยผลสำรวจในประเทศไทย มาจากพนักงานจำนวน 200 คน โดยประเด็นในการสำรวจเทรนด์ New World of Work ได้ให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง 1) พนักงาน  การทำงานอย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ และการได้รับความสนับสนุนจากองค์กรในการทำงานในสภาวะแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการแบ่งปันไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ 2) สถานที่ทำงาน พนักงานสามารถทำงานที่ไหนและเวลาใดก็ได้ 3) เทคโนโลยี เทคโนโลยีและบริการที่จะช่วยให้ทำงานได้ง่าย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น  ซึ่งสำหรับผลสำรวจของประเทศไทย พบว่าพนักงานองค์กรในประเทศไทย มีความคาดหวังจากองค์กรของตนในการมอบ “การทำงานในโลกยุคใหม่” ที่สามารถทำงานแบบโมบิลิตี้ ทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแบ่งปันไอเดียเพื่อนวัตกรรมใหม่ๆ ได้  นอกจากนี้ ร้อยละ 62 ของพนักงานองค์กรในประเทศไทย ได้ใช้เวลามากกว่าร้อยละ 20 ในการทำงานนอกออฟฟิศ และร้อยละ 82 ทำงานในออฟฟิศที่ไม่มีนโยบายสนับสนุนการทำงานจากที่อื่น  ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ร้อยละ 67  ของพนักงานได้ใช้เวลามากกว่าร้อยละ 20 ทำงานนอกออฟฟิศ และร้อยละ 67 ทำงานในออฟฟิศที่ไม่มีนโยบายสนับสนุนให้พนักงานทำงานจากที่อื่น

นอกจากนี้ เมื่อสำรวจถึงการทำงานแบบโมบาย ร้อยละ 66.5 ของพนักงานองค์กรในประเทศไทย ระบุว่าพวกเขายังต้องทำงานหรือเข้าออฟฟิศ เพื่อที่จะเข้าถึงอุปกรณ์หรือเครื่องมือซึ่งเข้าถึงได้เฉพาะเมื่อทำงานในออฟฟิศ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของพนักงานในเอเชีย-แปซิฟิก อยู่ที่ร้อยละ 61.1

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.. หน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลตลาดทุนของประเทศ นับเป็นอีกหนึ่งองค์กรที่เห็นประโยชน์และโอกาสที่องค์กรจะได้รับจากการนำเทคโนโลยีคลาวด์ไปใช้  นายกำพล ศรธนะรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เปิดเผยว่า “ก.ล.ต. มีหน้าที่หลักในการกำกับดูแลและพัฒนาตลาดทุนให้ยั่งยืน พร้อมกับทำหน้าที่คุ้มครองผู้ลงทุน เราตระหนักถึงความเสี่ยงที่เกิดจากอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ รวมถึงเหตุฉุกเฉินและภัยพิบัติที่อาจส่งผลต่อความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ในขณะเดียวกันเราก็ต้องการเตรียมพร้อมรับสภาวะการทำงานที่ยืดหยุ่น โดยให้พนักงานสามารถเข้าถึงระบบและข้อมูลจากที่ใดก็ได้ เพื่อตอบสนองความท้าทายนี้ เราจึงเลือกใช้งานคลาวด์ โดยตัดสินใจย้ายระบบอีเมลสู่ Microsoft Office 365 พร้อมกับติดตั้งใช้งาน Microsoft Enterprise Mobility Suite (EMS) ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่ช่วยในการบริหารจัดการ และปกป้องผู้ใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์พกพา และข้อมูลแบบครบวงจร ได้อย่างปลอดภัย ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โจทย์สำคัญของเรา คือ การดำเนินธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง (Business Continuity) ซึ่งทั้ง Office 365 และ EMS เข้ามาตอบโจทย์นี้ได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เรายังเริ่มอบรมและใช้งาน Skype for Business สำหรับศูนย์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแล้วด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นเรายังสนับสนุนให้กลุ่มธุรกิจภาคการเงินให้ลงทุนในเครื่องมือด้านไอที เพื่อช่วยตรวจสอบป้องกันภัยคุกคามและปกป้องข้อมูลสำคัญ ซึ่งคลาวด์ คอมพิวติ้งสามารถตอบโจทย์นี้ได้เป็นอย่างดี”

ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต กลุ่มวังขนาย ผู้ผลิตน้ำตาลทรายรายใหญ่ของประเทศไทย ได้มีการตื่นตัวและนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เสริมศักยภาพให้กับองค์กร นายสาริน ณ วังขนาย ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์การพัฒนาองค์กร กลุ่มวังขนาย กล่าวว่า “เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นส่วนสำคัญมากในการทำให้การทำงานร่วมกันในองค์กรมีประสิทธิภาพมากขึ้น เราให้ความสำคัญกับการอำนวยความสะดวกให้พนักงานทุกคนต้องมีเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเพื่อใช้ทำงาน ซึ่งต้องมาพร้อมแพลตฟอร์มและบริการที่สามารถอำนวยความสะดวกให้พนักงานทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย เราจึงเลือก Microsoft Office 2016 ที่เราคุ้นเคย เข้ามาช่วยองค์กรในการทำงานร่วมกันได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้น ตอบโจทย์ในการทำงานสายการผลิต ที่ต้องการทำงานในเวลาอันสั้น แต่ได้ประสิทธิภาพที่เพิ่มมากขึ้น โดยOffice 2016 ช่วยให้เราทำงานเป็นทีมได้สะดวกยิ่งขึ้น ด้วยการทำงานร่วมกันแบบเรียลไทม์ด้วยฟีเจอร์ Co-Authoring และเข้าถึงข้อมูลอย่างปลอดภัยด้วย Personal Certificate Authentication ที่จะช่วยยืนยันตัวตนด้วยการเข้ารหัสก่อนเข้าถึงอีเมลหรือใช้งานเอกสาร และเร็วๆ นี้ ทาง กลุ่มวังขนาย มีแผนที่จะนำบริการคลาวด์อย่าง Office 365 มาใช้ในองค์กรเพื่อช่วยให้แผนกไอทีประหยัดเวลาในการดูแลระบบมากยิ่งขึ้น และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อาทิ การประชุมผ่าน Skype for Business จะช่วยประหยัดเวลาในการเดินทางไปประชุมทางไกลได้เป็นอย่างมาก”

อาจารย์ปริญญา หอมเอนก ประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เอซิส โปรเฟสชั่นนัล เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ กล่าวว่า “ประเทศไทยควรจะได้รับการให้ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี เพื่อพร้อมตั้งรับกับภัยคุกคามได้อย่างเพียงพอ ผู้ใช้งานยังขาดความรู้และอุปกรณ์ที่จะเข้ามาช่วยป้องกันภัยคุกคามในโลกไซเบอร์ เทคโนโลยีคลาวด์จึงถือเป็นแพลตฟอร์มที่จะเข้ามาช่วยตอบโจทย์การทำงานได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่น องค์กรจะสามารถบริหารจัดการระบบได้อย่างปลอดภัยยิ่งขึ้น และสามารถควบคุมดูแลการเข้าถึงข้อมูล และปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการขององค์กร อย่างไรก็ตามองค์กรที่ใช้คลาวด์ต้องเลือกใช้คลาวด์ที่ไว้วางใจได้ คือ ต้องเป็นแพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัย เก็บรักษาข้อมูลส่วนตัวได้เป็นอย่างดี เป็นระบบที่ถูกต้องตามมาตรฐานและกฏระเบียบ และสามารถตรวจสอบการทำงานได้ทุกขั้นตอน การที่องค์กรนำคลาวด์มาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานหลายรูปแบบ ทั้งประหยัดค่าใช้จ่าย ประหยัดเวลาในการทำงาน และช่วยให้องค์กรสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัย”

โดยล่าสุด ไมโครซอฟท์เพิ่งได้เปิดตัว Office 365 Enterprise E5  ที่มาพร้อมกับ Office 2016 ถือเป็นโปรแกรมออฟฟิศที่ปลอดภัยที่สุด และมีประสิทธิภาพเยี่ยมยอดที่สุดตั้งแต่เคยมีมา สำหรับกลุ่มลูกค้าองค์กร (Enterprise) โดยเฉพาะ

ประโยชน์ของ Office 365 Enterprise E5 ได้แก่

เพิ่มความสะดวกในการสื่อสารและทำงานร่วมกัน

ลดความซับซ้อนของการทำงานได้ด้วยการใช้งานจากเพียงหนึ่งแพลตฟอร์มเท่านั้นด้วย Skype for Business สำหรับการโทร การประชุมทางวิดีโอ และการแชร์ เชื่อมโยงทีมทำงานเข้าด้วยกัน จากแอปพลิเคชัน Office ที่ใช้ประจำทุกวัน

  • Cloud PBX สามารถโทรออกและรับสาย และโอนสายจากโทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยการใช้งานผ่านเครือข่ายผู้ให้บริการโทรศัพท์ของตนเอง หรือผ่านอินเทอร์เน็ต
  • Skype Meeting Broadcast ทำให้สามารถจัดประชุมแบบถ่ายทอดออนไลน์ได้พร้อมกันมากถึง 10,000 คน ในเวลาเดียวกัน โดยผู้เข้าร่วมประชุมสามารถประชุมผ่านเบราส์เซอร์ได้จากทุกที่
  • Co-author บน Skype for Business สามารถแก้ไขงานแบบเรียลไทม์บน Word, PowerPoint, Excel และ OneNote ในแอปพลิเคชัน Office 2016
  • ด้วย Skype in-app integration คุณสามารถแชท แชร์หน้าจอหรือบทสนทนาของคุณไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบตัวอักษรหรือวิดีโอสามารถแชร์ตรงสู่เอกสารได้ทันที
  • เชื่อมต่อกับทีมด้วย Office 365 Planner ที่จะสามารถแบ่งปันเอกสาร การสนทนา ข้อมูล แผนการทำงาน หรืออื่นๆ ได้อีกมากมาย
  • เก็บข้อมูลได้อย่างปลอดภัยและง่ายดายด้วย OneDrive for Business

ให้รายงานและข้อมูลเชิงลึกสำหรับการตัดสินใจอย่างฉับไว

เครื่องมือการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกและการตรวจสอบข้อมูลแบบทันทีที่ใช้งานง่ายจะช่วยให้คุณค้นพบเรื่องราวใหม่ๆ ในข้อมูลของคุณด้วยรายงานที่มีความสามารถในการโต้ตอบมากขึ้น แดชบอร์ดที่เข้าใจง่าย และการแสดงข้อมูลเป็นภาพที่น่าสนใจ

  • สังเกตและวิเคราะห์ข้อมูลในวงกว้าง ผ่านแดชบอร์ดที่ใช้งานง่ายแบบเรียลไทม์ และรายงานรูปแบบอินเทอร์แอคทีฟด้วย Power BI Pro.
  • Excel 2016 นั้นให้ประสิทธิภาพมากกว่าที่เคยมีมา ด้วยการสามารถนำมาใช้งานร่วมกับ Power BI ได้ทันที มาพร้อมทั้งกราฟและชาร์ทรูปแบบใหม่ที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรข้อมูลของคุณออกมาได้อย่างดีที่สุด
  • เข้าใจถึงการบริหารจัดการเวลา ศักยภาพทางธุรกิจ และรูปแบบการทำงานร่วมกันในองค์กรด้วย Delve Org Analytics

ปกป้องข้อมูลสำคัญจากการโจมตีทุกรูปแบบ         

ไมโครซอฟท์จะจัดการดูแลความปลอดภัยให้องค์กร  พร้อมมอบการควบคุมความเป็นส่วนตัวโดยลูกค้าเอง ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของการให้บริการ ถือเป็น Office ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด

  • Customer Lockbox ให้ความชัดเจนและโปร่งใสแก่ลูกค้าว่าไม่มีใครสามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของข้อมูลก่อน ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแลระบบก็ตาม
  • ป้องกันการคุกคามจากมัลแวร์ ไวรัส และ URLs ที่มุ่งร้ายแบบเรียลไทม์ด้วย Advanced Threat Protection.
  • การรั่วไหลของข้อมูลในองค์กรจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดด้วย Data Loss Prevention ที่ใช้งานได้ทั้งบน Word, PowerPoint, Excel และ
  • สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัยทุกที่ด้วย Multi-factor Authentication เมื่อคุณไม่ได้ทำงานผ่านเน็ตเวิร์คขององค์กร
  • เพิ่มประสิทธิภาพฝ่ายตรวจสอบในการคาดการณ์และค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย สำหรับการตรวจสอบข้อมูลที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบขององค์กร ด้วย Advanced eDiscovery

โดยลูกค้าองค์กรสามารถสมัครใช้งาน Office 365 Enterprise E5 ได้ในราคาเริ่มต้น 33 เหรียญสหรัฐฯ ต่อผู้ใช้ต่อเดือน ซึ่งเป็นบริการคลาวด์ระดับองค์กรในรูปแบบใหม่ที่ให้ความปลอดภัยในระดับสูงที่มาพร้อมแอปพลิเคชัน Office 2016 นอกจากนั้นไมโครซอฟท์ยังมี Office 365 สำหรับองค์กรให้เลือกใช้ได้อีกหลายแผน โดยสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://products.office.com/th-th/business/compare-more-office-365-for-business-plans หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 02-263-6888

 

[1] The Microsoft Asia Pacific New World of Work Study ได้สำรวจในเดือนกันยายน 2558 โดยได้สำรวจในกลุ่มพนักงานองค์กรที่มีพนักงานมากกว่า 250 คนขึ้นไป ใน 13 ประเทศในเอเชีย  ได้แก่ ออสเตรเลีย จีน ฮ่องกง อินโดนีเซีย อินเดีย เกาหลีใต้ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์

[2] ที่มาข้อมูล http://www.idc.com/getdoc.jsp?containerId=prTH25800815

[3]ที่มา: ศูนย์ประสานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยระบบคอมพิวเตอร์ประเทศไทย (ไทยเซิร์ต) สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)  http://bit.ly/1Telmnr