เนื้อหาวันที่ : 2015-12-21 16:52:19 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 534 views

โนเกียประกาศผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียเหนือ หลังการควบรวมกิจการกับอัลคาเทล-ลูเซ่น

โนเกียประกาศว่านายฮาราลด์ ไพรซ์ จะดำรงตำแหน่งหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียเหนือของโนเกีย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการควบรวมกิจการของโนเกียและอัลคาเทล-ลูเซ่น และจะมีผลหลังจากข้อเสนอการแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ของอัลคาเทล-ลูเซ่นต่อสาธารณะที่ประกาศไปเมื่อวันที่ 15 เมษายน 2558 ปิดลงอย่างประสบความสำเร็จ

นายฮาราลด์ ไพรซ์ ประจำการอยู่ที่สำนักงานในกรุงเทพฯ มีหน้าที่บริหารและกำกับดูแลการปฏิบัติงานกับลูกค้าของบริษัททั่วทั้งภูมิภาคเอเชียเหนือ ซึ่งประกอบด้วยประเทศกัมพูชา สปป. ลาว เมียนมา ไทย และเวียดนาม รวมถึงรับผิดชอบในการผลักดันการดำเนินกลยุทธ์และเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่างลูกค้ากับบริษัท โดยใช้กลยุทธ์ด้านการสร้างสรรค์นวัตกรรมและคุณภาพเป็นตัวขับเคลื่อน

ปัจจุบันนายฮาราลด์ ไพรซ์ ดำรงตำแหน่งหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของโนเกีย เน็ตเวิร์ค และเมื่อมาดำรงตำแหน่งหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียเหนือของโนเกียแล้วเขาจะรายงานตรงต่อนายพอล ไทเลอร์ ซึ่งเป็นหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นของโนเกีย

นายพอล ไทเลอร์กล่าวว่า "เรามีความยินดีประกาศการแต่งตั้งนายฮาราลด์ ไพรซ์ ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียเหนือ เขามีประวัติที่ได้รับการยอมรับและเชื่อถือได้ ทั้งยังมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานในการขับเคลื่อนโซลูชั่นชั้นนำให้กับลูกค้าในทุกภาคส่วน ผมตั้งใจไว้ว่าจะได้ร่วมงานกับเขาเพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนความต่อเนื่องทางธุรกิจในทุกๆ ส่วนของตลาดอย่างต่อเนื่อง"

การเสนอชื่อนายฮาราลด์ ไพรซ์ให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าประจำภูมิภาคเอเชียเหนือของโนเกียในครั้งนี้จะมีผลหลังจากข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ต่อสาธารณะปิดลงอย่างประสบความสำเร็จ* รวมทั้งเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนกระบวนการของคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการได้เสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

* โนเกียถือหุ้นมากกว่า 50.00% ของทุนจดทะเบียนของอัลคาเทล- ลูเซ่น ที่พิจารณาตามเกณฑ์การปรับลดทั้งหมดแล้ว

การแต่งตั้งนายฮาราลด์ ไพรซ์ ในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการวางตัวทีมผู้นำระดับสูงและโครงสร้างองค์กรที่ได้เตรียมการไว้สำหรับการควบรวมกิจการของโนเกียกับอัลคาเทล-ลูเซ่น ซึ่งได้ประกาศไปแล้วเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2558 ทั้งนี้หลังจากปิดข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ต่อสาธารณะแล้ว ได้มีการวางแผนไว้ว่าธุรกิจเน็ตเวิร์คของโนเกียจะดำเนินงานผ่าน 4 กลุ่มธุรกิจคือ โมบายเน็ตเวิร์ค (Mobile Networks) ฟิกซ์เน็ตเวิร์ค (Fixed Networks) แอพพลิเคชั่นส์ แอนด์ อนาลิติกส์ (Applications & Analytics) และ ไอพี/ออปติคัล เน็ตเวิร์ค (IP/Optical Networks) ส่วนโนเกีย เทคโนโลยีส์ (Nokia Technologies) ยังคงเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากอยู่ภายใต้บริษัทที่ควบรวมกิจการแล้ว นอกจากนี้ทันทีที่ปิดข้อเสนอแลกเปลี่ยนหลักทรัพย์ต่อสาธารณะ โนเกียจะมีผู้บริหารธุรกิจเพิ่มขึ้นอีกหกตำแหน่ง คือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (Chief Financial Officer) ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการด้านลูกค้า (Chief Customer Operations Officer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนวัตกรรมและการดำเนินงาน (Chief Innovation & Operating Officer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ (Chief Human Resources Officer) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ (Chief Strategy Officer) และ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด (Chief Marketing Officer)