เนื้อหาวันที่ : 2007-07-24 10:36:28 จำนวนผู้เข้าชมแล้ว : 1690 views

บาทแข็งกระทบกลุ่มอสังหา โกดัง-โรงงาน-บ้านขายไม่ออกแล้ว

"โจนส์ แลง ลาซาลล์"ระบุปัญหาค่าเงินบาทแข็งส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เหตุผู้ประกอบการบางรายเตรียมย้ายฐานลงทุนไปที่อื่น ส่งผลให้โรงงาน โกดัง ศูนย์กระจายสินค้าเดือดร้อนระนาว ขณะที่ต่างชาติคิดหนักเพราะต้องจ่ายแพงขึ้น8%หากเคาะเป็นสกุลดอลล่าร์

"โจนส์ แลง ลาซาลล์"ระบุปัญหาค่าเงินบาทแข็งส่งผลกระทบต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เหตุผู้ประกอบการบางรายเตรียมย้ายฐานลงทุนไปที่อื่น ส่งผลให้โรงงาน โกดัง ศูนย์กระจายสินค้าเดือดร้อนระนาว ขณะที่ต่างชาติคิดหนักเพราะต้องจ่ายแพงขึ้น8%หากเคาะเป็นสกุลดอลล่าร์

.

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการบริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์(ประเทศไทย)จำกัด กล่าวว่า มีนักเศรษฐศาสตร์บางส่วนที่สนับสนุนให้รัฐใช้นโยบายการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมการแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งในทางทฤษฎีดอกเบี้ยระดับต่ำส่งผลดีต่อผู้ประกอบการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่พึ่งพาเงินกู้จากสถาบันการเงิน ขณะเดียวกันจะเอื้อประโยชน์ให้แก่ภาคธุรกิจที่อยู่อาศัย เนื่องจากจะทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการซื้อที่อยู่อาศัยลดลงด้วย แต่อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแข็งค่าของเงินบาทจะมีผลในเชิงลบต่อภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยรวมมากกว่าผลดี นายทรัพยากร แสนสุขทวีทรัพย์ หัวหน้าฝ่ายบริการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เชิงอุตสาหกรรมของโจนส์ แลง ลาซาลล์กล่าวว่าแม้ภาคการผลิตจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตสูง แต่ผู้ประกอบการหลายรายโดยเฉพาะในส่วนที่ผลิตเพื่อการส่งออกชะลอการตัดสินใจลงทุนเพิ่มในขณะนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความกังวลว่าหากเงินบาทยังคงแข็งค่าต่อไปอีกจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข็งขันในตลาดโลก

.

ขณะที่มีรายงานว่า เริ่มมีโรงงานอุตสาหกรรมบางส่วนต้องปิดกิจการลง ผู้ประกอบการหลายรายกำลังมองหาฐานการผลิตใหม่ในประเทศอื่นที่จะเอื้อให้สามารถผลิตสินค้าราคาที่ต่ำกว่า สถานการณ์เช่นนี้จะส่งผลกระทบไม่เฉพาะต่ออสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงงานขายหรือให้เช่าเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโกดังและศูนย์กระจายสินค้าด้วย

.

อสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยหรือบ้านพักตากอากาศที่เจาะกลุ่มผู้ซื้อชาวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นชาวต่างชาติที่อยู่อาศัยในประเทศไทย และชาวต่างชาติที่ซื้อไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 หรือสำหรับอยู่อาศัยหลังเกษียณการทำงานจะได้รับผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นด้วย เนื่องจากเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น ชาวต่างชาติที่คิดจะซื้อที่อยู่อาศัยในประเทศไทยจะต้องจ่ายแพงขึ้นเมื่อคิดราคากลับเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

.

ส่วนแนวโน้มเดียวกันนี้ เกิดขึ้นในตลาดการลงทุนซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทยด้วยเช่นกัน ทั้งนี้แม้ราคาอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยจะยังคงนับได้ว่ามีราคาถูกเมื่อเทียบกับหลาย ๆ ประเทศของภูมิภาค แต่มีการปรับตัวขึ้นไปมากเมื่อคิดเป็นสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐจากภาวะการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท "หากนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์ในไทยขณะนี้ โดยอาศัยเงินกู้จากต่างประเทศจะต้องจ่ายสูงขึ้นประมาณ 8% เมื่อเทียบกับการเข้ามาซื้อในช่วงต้นปี จากการแข็งค่าขึ้นของเงินบาท" นางสุพินท์ กล่าว 

 .
ที่มา : แนวหน้า