.

"โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68" แฟรนไชส์คาร์แคร์โฉมใหม่ ด้วยรูปแบบการให้บริการคาร์แคร์มาตรฐานใหม่ ชูกลยุทธ์ Experience Marketing ด้วยคอนเซ็ปต์ I Feel Good (IFG) การสร้างประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าต่อการรับบริการคาร์แคร์แบบ 360 องศา ทำระบบซอฟต์แวร์บันทึกข้อมูลลูกค้าให้ลิงค์กันทุกสาขา รวมทั้งระบบบัตรสมาชิกและการสะสมแต้มภายใต้กลยุทธ์ CRM พร้อมดึงแฟรนคอร์ปร่วมพัฒนาแฟรนไชส์ เพิ่มความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ลงทุน ล่าสุดนักธุรกิจและดาราชื่อดังเข้าคิวซื้อแฟรนไชน์กันเป็นแถว นำโดย คุณตัน โออิชิ อีกด้วย

นายกฤษฎ์ กาญจนบัตร กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนาแบรนด์ คาร์แลค 68 ธุรกิจแฟรนไชส์คาร์แคร์ที่เปิดมายาวนานกว่า 25 ปี ให้มีความเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้นใช้ชื่อใหม่ว่า "โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68” เนื่องจากทางบริษัทฯ ต้องการพัฒนาคุณภาพระบบการให้บริการและรุกขยายฐานเข้าสู่ตลาดต่างประเทศเพื่อขยายกลุ่มลูกค้าให้กว้างมากยิ่งขึ้น และมีความน่าเชื่อถือในระดับประเทศ โดยการพัฒนาแบรนด์ใหม่ "โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68" นั้น ได้เริ่มจากการพัฒนาแบรนด์ของแฟรนไชส์สาขาใหม่ๆ ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นปี 2550 และสาขาที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตต่อไปจะเปิดภายใต้ชื่อ โมลี แคร์ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งสิ้น 17 สาขาทั่วประเทศ ส่วนแฟรนไชส์สาขาอื่นๆ ที่ได้เปิดดำเนินกิจการภายใต้ชื่อ คาร์แลค 68 เดิมนั้น จะค่อยๆปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่เป็น "โมลี แคร์" เหมือนกันทั้งหมด ภายใต้คอนเซ็ปต์เดียวกัน คือ "More than a car care" หรือ "มากกว่าการให้บริการ คือ มาตรฐานที่คุณพอใจ"

นายกฤษฎ์กล่าวต่อไปถึงรูปแบบการให้บริการคาร์แคร์แนวคิดใหม่ของโมลี แคร์ ว่า “เราได้วางกลยุทธ์ทางการตลาดแบบ Experience Marketing คือการสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าจากประสบการณ์การใช้บริการที่ศูนย์โมลี แคร์ ซึ่งเราพยายามออกแบบระบบการให้บริการคาร์แคร์ต่างๆที่ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าอย่างครบวงจรมากที่สุด บวกกับการให้บริการเพิ่มเติมต่างๆ นอกเหนือจากการดูแลทั้งภายในและภายนอกรถยนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่น การเพิ่มบริการอินเตอร์เน็ตในห้องรับรอง เป็นต้น คือความพยายามให้ลูกค้ารู้สึกดี ด้วยมาตรฐานการบริการเดียวกันทุกสาขา ทำให้เกิดเป็นคอนเซ็ปต์ “I Feel Good” หรือ IFG Service Process

ด้วยคอนเซ็ปต์ "I Feel Good (IFG)" คือ คำมั่นสัญญาที่จะสร้างความพึงพอใจสูงสุดต่อลูกค้าด้วยการด้วยการสร้างความมั่นใจที่พิสูจน์ได้หลังใช้บริการ ใน 5 ข้อหลัก ๆ หรือ 5 Promisesคือ

1. กลิ่นหอมสะอาด การสร้างบรรยากาศภายในรถยนต์ให้มีกลิ่นหอมสดชื่น เพื่อสร้างความรู้สึกประทับใจที่ดีให้กับลูกค้า

2. ตรวจเช็ค 5 รายการ การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และสร้างความคุ้มค่าให้กับการบริการ พร้อมทั้งสร้างความแตกต่างในการบริการ ให้มีจุดเด่นมากยิ่งขึ้น ด้วยการตรวจเช็คสภาพใบปัดน้ำฝน หน้า/หลัง, ตรวจเช็คไฟสัญญาณต่างๆ, ตรวจเช็คลมยาง, ตรวจเช็คระดับน้ำหล่อเย็น และตรวจเช็คหม้อพักฉีดน้ำฝน

3. มีกระบวนการให้ลูกค้าตรวจเช็คสภาพรถพร้อม QC ก่อนส่งมอบ คือหลังจากจบการทำงานทุกขั้นตอน ผู้จัดการศูนย์ หรือผู้ได้รับมอบหมาย จะต้องทำการตรวจสอบขั้นตอนรายละเอียดการทำงาน ตามแบบฟอร์มที่กำหนด เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และสร้างความเป็นมาตรฐานในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ถ้าในกรณีลูกค้าไม่พอใจหรือให้แก้ไขงานบางจุด ผู้ที่ได้รับมอบหมายให้แก้ไขงานที่บกพร่องทันที เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีให้ลูกค้า และเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในศูนย์บริการให้กับลูกค้า

4. แสดงกรมธรรม์การรับประกันรถลูกค้า ศูนย์โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68 ทุกสาขา ได้ทำกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองบุคคลและรถยนต์ของลูกค้า หากเกิดอุบัติเหตุภายในศูนย์บริการ ด้วยวงเงินถึง 3,000,000 บาท จึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับรถยนต์ทุกคันที่มาใช้บริการกับโมลี แคร์

5. ฝนตกล้างใหม่ฟรี 48 ชม ช่วยให้สร้างความเชื่อมั่น และความพึงพอใจให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น คือ หลังจากที่ได้รับบริการในครั้งแรก หากฝนตกภายใน 48 ชม. ลูกค้าสามารถนำรถยนต์คันนั้นกลับมาใช้บริการเฉพาะล้างสีภายนอกเท่านั้น (ไม่รวมภายใน ดูดฝุ่น เคลือบเบาะ เทขยะ)

คุณกฤษฎ์ กล่าวต่อว่าสำหรับเรื่องมาตรฐานการให้บริการทางด้านแฟรนไชส์คาร์แคร์นั้น การที่จะยกมาตรฐานขึ้นสู่ในระดับสากลนั้นจะต้องมีความแข็งแกร่งในเรื่องระบบการดำเนินงานและคุณภาพการบริการของแฟรนไชส์ในประเทศก่อน ซึ่งขณะนี้ทาง บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด ได้มีการทำสัญญาว่าจ้างกับบริษัท แฟรนคอร์ป (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการวางระบบแฟรนไชส์จากประเทศสหรัฐอเมริกา ในด้านการวางระบบแฟรนไชน์ให้เป็นมาตรฐานสากลระดับนานาชาติ ก่อนที่แบรนด์ "โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68" จะก้าวสู่เวทีตลาดโลกอย่างเต็มตัว

สำหรับในเรื่องรูปแบบระบบการขายภายในประเทศนั้น ทางบริษัทฯ ได้จัดแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ 1. โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68 แฟรนไชส์ จะเป็นการให้บริการคาร์แคร์และจัดโปรโมชั่นตามนโยบายของบริษัท โมลี จำกัด ทั้งหมด 2. คาร์แลค 68 ดีลเลอร์ จะเป็นกลุ่มที่มีการตกแต่งร้านและโปรโมชั่นขึ้นอยู่กับแต่ละร้านแต่จะมีการสั่งออร์เดอร์สินค้าเพื่อเข้าไปวางขายในร้านปริมาณที่บริษัท คาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด กำหนด และ 3. คาร์แลค 68 ซัปพอร์ทเตอร์ เป็นกลุ่มที่ร้านจะซื้อผลิตภัณฑ์บางตัวไปวางขายในร้าน ทางบริษัทคาร์แลค (ไทย-เยอรมัน) จำกัด ก็จะมีป้ายแบนเนอร์ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าภายในร้านให้

ปัจจุบันบริษัทฯ มีสาขาทั้งหมด 50 สาขา ทั่วประเทศ และในปี 2550 นี้จะเพิ่มอีก 20 สาขา เป็น 70 สาขาในปีนี้ ด้วยเงินลงทุนประมาณ 1.8 - 2 ล้านบาทต่อสาขา โดยใช้พื้นที่ปฏิบัติงานขั้นต่ำ 160 ตารางเมตร (ไม่รวมพื้นที่จอดรถ) โดยในปี 2549 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีผลประกอบการเป็นที่น่าพอใจอยู่ที่ 60 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากระบบแฟรนไชส์ 60% ระบบดีลเลอร์ 25% และระบบศูนย์บริการ 15% สำหรับเป้าหมายยอดขายปีนี้ตั้งไว้ที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20%

สำหรับการขายแฟรนไชส์ในตลาดต่างประเทศนั้น บริษัทฯ จะขายเป็นมาสเตอร์แฟรนไชส์ โดยเป็นตัวแทนแห่งเดียวในประเทศ และมีสิทธิการดำเนินงานเองด้วย ซึ่งการขยายตลาดไปสู่ระดับสากลนั้น ทางบริษัทฯ มองว่าจะเป็นการดีในการส่งเสริมการกระจายธุรกิจไทยออกไปภายนอกเพื่อดึงเงินตราเข้าสู่ประเทศได้มากขึ้น คุณกฤษฎ์กล่าวปิดท้ายว่า ในปัจจุบันมีผู้สนใจหลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมลงทุนซื้อ แฟรนไชส์โมลีแคร์ บาย คาร์แลค 68 เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจ ดารา นางแบบ ฯลฯ ก็ให้ความเชื่อมั่นมาลงทุน โดยล่าสุด คุณตัน ภาสกรนที นักธุรกิจชื่อดังที่มั่นใจในโอกาสทางธุรกิจ และเล็งเห็นถึงศักยภาพของแบรนด์โมลีแคร์ บาย คาร์แลค 68 ก็ได้ตัดสินใจซื้อแฟรนไชส์โมลีแคร์ไปเปิดให้บริการแล้วที่สาขา มังกี้โลตัส ในตลาดนัดกล้วยกล้วย นับเป็นศูนย์คาร์แคร์ขนาดใหญ่ในจังหวัดลพบุรีอีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจต้องการร่วมธุรกิจกับ "โมลี แคร์ บาย คาร์แลค 68" สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 02-454-2876-80